Skip to main content
sharethis

'กองกำลังพิทักษ์ชายแดน' (BGF) รัฐกะเหรี่ยงรีแบรนด์ตัวเองด้วยชื่อใหม่เป็น 'กองกำลังแห่งชาติกะเหรี่ยง' (KNA) หลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยประกาศเลิกขึ้นตรงกับกองทัพเผด็จการพม่า ทั้งนี้พวกเขายังได้กลับไปวางกำลังป้องกันชเวก๊กโก่ ซึ่งเป็นพื้นที่ฐานที่มั่นใหญ่และเป็นเขตธุรกิจคาสิโนกับแหล่งหลอกลวงต้มตุ๋นออนไลน์

เจ้าหน้าที่กองกำลังพิทักษ์ชายแดน (BGF) รัฐกะเหรี่ยง ยืนยันว่าหลังจากที่ทาง BGF แยกตัวจากสภากองทัพพม่า พวกเขาก็ตัดสินใจเปลี่ยนให้กองกำลังของ BGF ในรัฐกะเหรี่ยงทั้งหมดให้กลายเป็นกองทัพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNA)

พันเอก ซอตินวิน ผู้บัญชาการยุทธศาสตร์ของกองทัพภาคที่ 2 ของ KNA กล่าวให้สัมภาษณ์ต่อสื่อ KIC ในช่วงที่มีการพบปะกันปลายเดือน ก.พ. ที่ผ่านมาว่า เหล่าผู้บัญชาการกองทัพทั้ง 4 ภาคของ BGF มีมติเห็นพ้องกันว่าให้มีการเปลี่ยนชื่อ BGF เป็น KNA โดยจะไม่มีการพึ่งพาทางการเงินหรือการสนับสนุนด้านอื่นๆ จากเผด็จการทหารอีกต่อไป

"กองทัพทั้ง 4 ภาคของพวกเราเห็นพ้องกันว่าจะมีการเปลี่ยนตราสัญลักษณ์ ข่าวลือที่ว่ากองทัพภาคต่างๆ ของเราได้กลับไปร่วมกับสภากองทัพพม่าไม่ใช่เรื่องจริง กองทัพทั้ง 4 ภาคของเราจะยืนหยัดร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว ในตอนนี้พวกเรายังคงใช้ตราสัญลักษณ์ของ BGF อยู่ ขณะที่ในบางพื้นที่มีการสวมใส่เครื่องแบบอยู่แต่ก็มีการถอดเหรียญตราออก" พันเอก ซอตินวิน กล่าว

"สภากองทัพพม่าน่าจะรับรู้เรื่องการเปลี่ยนแปลงเหรียญตราแล้ว นับตั้งแต่ที่พวกเราก่อตั้งกองกำลังขึ้นมาในฐานะ BGF มันก็มีความไม่ไว้วางใจกันจากทั้งสองฝ่าย ระหว่างพวกเราและสภากองทัพ ในปัจจุบันสถานการณ์สงบเพราะไม่มีทางที่พวกนั้นจะโจมตีพวกเรา อย่างไรก็ตามพวกเขาก็จะหาโอกาส พวกเขาจะทำร้ายพวกเรา" พันเอก ซอตินวิน กล่าว

ถึงแม้ว่าทาง BGF จะยังไม่ได้ประกาศเปลี่ยนชื่อเป็น KNA อย่างเป็นทางการแต่ก็เริ่มมีโปสเตอร์เชิญชวนให้ผู้คนเข้าร่วม KNA ปรากฏให้เห็นบ้างแล้วอยู่ตามหมู่บ้านต่างๆ ในพื้นที่ที่ BGF ปกครองอยู่

"พวกเราเข้าใจถึงความกังวลจากประชาชนชาวกะเหรี่ยงเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของพวกเราที่จะยังคงให้ความร่วมมือกัยศัตรู พวกเราต้องทำให้พวกเขามั่นใจว่าพวกเราตัดขาดจากการมีส่วนร่วมใดๆ ก็ตามกับสภากองทัพ ถ้าหากเกิดเหตุการณ์การรุกรานจากศัตรู พวกเราก็มีกำลังมากพอที่จะต้านทาน อย่างไรก็ตามวัตถุประสงค์ของพวกเราคือการเน้นเรื่องสันติภาพในการใช้ชีวิตของประชาชนของพวกเรา โดยไม่ต้องเผชิญความเสี่ยงจากกาพลัดถิ่น" พลเอก ซอตินวิน กล่าว

เมื่อเดือน ม.ค. ที่ผ่านมาหลังจากที่ BGF ตัดสินใจที่จะยกเลิกบทบาทการเป็นผู้รับคำสั่งเพื่อทำหน้าที่แทนสภากองทัพพม่าแล้วหันมาเป็นกองกำลังอิสระ พลเอกอาวุโส ซอวิน รองผบ.ทบ. ของกองทัพเผด็จการ ได้เดินทางเยือนเมืองพะอันด้วยตนเองและทำการหารือกับเหล่าผู้นำ BGF แต่ก็ไม่เกิดผลทางบวกใดๆ ต่อพวกเขา

กองกำลัง BGF ของกะเหรี่ยงประกอบด้วยกองทัพ 4 ภาค และมีกองพันรวมแล้ว 13 กองพัน กองพันเหล่านี้วางกำลังอยู่ตามพื้นที่ต่างๆ ของรัฐกะเหรี่ยง ดังนี้ คือ 4 กองพันในหล่ายง์บแว, 2 กองพันในผาปูน, 5 กองพันในเมียวดี และ 2 กองพันในจ่าอินเสกจี นักวิเคราะห์ประเมินว่ากำลังทหารของ BGF โดยรวมทั้งหมดแล้วอาจจะเกิน 7,000 นาย

ในขณะที่ BGF แสดงให้เห็นชัดเจนว่าพวกเขาตัดสายสัมพันธ์กับเผด็จการทหารแล้ว แต่ก็มีการคาดการณ์ว่ากองกำลังของพวกเขาในนาม KNA จะยังคงให้การคุ้มครองด้านความมั่นคงขอต่องกิจการคาสิโนและปฏิบัติหลอกลวงต้มตุ๋นออนไลน์ในชเวก๊กโก่และเคเคปาร์คต่อไป

เรียบเรียงจาก

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net