สำนักข่าว NHK ของญี่ปุ่นรายงานว่า 'ซูซูกิ' จะปิดโรงงานผลิตรถยนต์ในเครือที่ไทยภายในสิ้นปี 2568 แต่ยังคงจำหน่ายรถยนต์ในไทยต่อ ด้วยการนำเข้าจากโรงงานจากญี่ปุ่น อาเซียน และอินเดีย - 'เศรษฐา' เคารพการตัดสินใจซูซูกิ แต่ยังมั่นใจบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นรายอื่นยังใช้ไทยเป็นฐานผลิต

เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 2567 NHK WORLD-JAPAN รายงานว่าซูซูกิ มอเตอร์ ผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่น ตัดสินใจปิดโรงงานบริษัทรถยนต์ในเครือในไทยภายในสิ้นปี 2568

ทางบริษัทประกาศว่า ซูซูกิ มอเตอร์ ประเทศไทย บริษัทในเครือ จะยุติการผลิตรถยนต์ในไทย

บริษัทซูซูกิประสบปัญหาในการจำหน่ายรถยนต์ขนาดเล็กจากการแข่งขันที่รุนแรงกับผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากจีน นอกจากนี้บริษัทยังเผชิญความยากลำบากในการพัฒนาตลาดเนื่องจากความต้องการรถกระบะในไทยสูง

โรงงานผลิตรถยนต์ของซูซูกิเริ่มการผลิตในไทยตั้งแต่ปี 2555 และผลิตได้เกือบ 60,000 คันในช่วงสูงสุด อย่างไรก็ตาม ปีที่แล้วทางโรงงานมียอดการผลิตลดลงเหลือเพียงกว่า 7,000 คันเท่านั้น

ทางบริษัทระบุว่าจะยังคงจำหน่ายรถยนต์ในไทยต่อไปด้วยการนำเข้ารถยนต์จากโรงงานในภูมิภาคอาเซียนรวมทั้งจากญี่ปุ่นและอินเดีย

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากซูบารุ ผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นอีกราย ประกาศแผนที่จะยุติการผลิตรถยนต์ในไทย

'เศรษฐา' เคารพการตัดสินใจซูซูกิ แต่ยังมั่นใจบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นรายอื่นยังใช้ไทยเป็นฐานผลิต

ประชาชาติธุรกิจ รายงานว่าเมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 2567 ที่ตลาดจริงใจมาร์เก็ต จ.เชียงใหม่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ บริษัทซูซูกิ มอเตอร์ คอร์ป ของญี่ปุ่นประกาศปิดตัวโรงงานผลิตรถยนต์ในประเทศไทย ภายในสิ้นปี 2568 ว่าตั้งแต่ตนเข้ามาดำรงตำแหน่งเมื่อเดือนกันยายนปีที่ผ่านมา เรื่องการผลิตรถสันดาปที่มาจากประเทศญี่ปุ่นเป็นเรื่องที่เราให้ความสำคัญ

และเคยพูดมาหลายครั้งแล้วว่าเราได้มีการเจอกับผู้ผลิตรายใหญ่ไม่ว่าจะเป็นโตโยต้า ฮอนด้า อีซูซุ มาสด้า มิตซูบิชิ ว่าเขาอยากได้มาตรการอะไรจากเราบ้าง เขาอยากได้และมีการไปทำข้อตกลงตามที่เขาอยากได้ และในวันที่ 17 ธันวาคมปีที่แล้ว ตนได้เข้าร่วมประชุมอาเซียนเจแปนครบรอบ 50 ปีกับผู้ประกอบการหลายรายที่เป็นบริษัทผู้ประกอบรถยนต์ในประเทศไทย ได้มีการพูดคุยและให้ความมั่นใจต่อกัน และเขาก็มีความมั่นใจพร้อมเพิ่มมูลค่าการลงทุนในไทย

“แน่นอนว่าเราเคารพการตัดสินใจของ ซูซูกิ แต่ต้องยอมรับว่า ส่วนแบ่งการตลาดของเขาค่อนข้างน้อย อีกทั้งการผลิตของเขาอาจจะไม่ตรงความต้องการของไทย ก็ขอให้เขาโชคดี ในการมีแผนงานใหม่เข้ามา แต่เราก็ยังมีอีก 6-7 บริษัท ก็มีเพียงบริษัทซูซูกิบริษัทเดียวที่ถอนตัวจากไทย และเชื่อว่าผลบวกเรายังมีอีกมาก แต่อย่างไรก็ตามซูซูกิยังผลิตรถมอเตอร์ไซค์ในประเทศไทย อีกทั้งยังมีศูนย์บริการจำหน่ายอะไหล่และซ่อมบำรุงด้วย ยังสามารถให้บริการลูกค้าคนไทยได้อย่างต่อเนื่อง” นายเศรษฐา กล่าว