สส.ปารมี พรรคก้าวไกล เผยผลการร่วมประชุม กมธ.การอุดมศึกษาฯ ถกแนวทางแก้ปัญหา TCAS 68 แนะควรเปิดข้อสอบทุกวิชา สร้างกลไกรับผิดรับชอบผู้ออกข้อสอบ และกำหนดค่าสอบไม่เกิน 500 บาท

9 มิ.ย. 2567 เว็บไซต์สถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา รายงานว่าปารมี ไวจงเจริญ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เปิดเผยภายหลังร่วมประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สภาผู้แทนราษฎร เพื่อหารือกรณีการจัดสอบ TCAS โดยกล่าวว่าการสอบ TCAS รอบ 3 ที่ประกาศผลเมื่อวันที่ 20 พ.ค. ที่ผ่านมา มติของ คณะกมธ.ขอให้ชะลอการประกาศผลออกไปเพราะข้อสอบมีปัญหา แต่ตัวแทนจากกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม และตัวแทนจากที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ไม่เข้าร่วมประชุม มติดังกล่าวของคณะ กมธ. จึงไม่ถูกนำไปพิจารณา ดังนั้นการประชุมครั้งนี้จึงหารือถึงแนวทางแก้ปัญหาการจัดสอบในปีต่อไป หรือ TCAS 68 โดยเชิญตัวแทนกระทรวงการอุดศึกษาฯ และตัวแทน ทปอ. เข้าร่วมประชุมด้วย

ปารมีระบุว่าตนเองมองว่าปีหน้าต้องแก้ไขใน 3 เรื่องสำคัญ ได้แก่ 1. ข้อสอบ ที่จำเป็นต้องมีการเปิดเผยทุกวิชา ไม่ใช่เพียงข้อสอบ A-Level แต่รวมถึงข้อสอบ TGAT และ TPAT ด้วย เพื่อให้เกิดความโปร่งใส ซึ่งด้าน ทปอ. ยืนยันว่าขอไปเจรจาก่อน เนื่องจากเป็นข้อสอบเฉพาะและออกโดยสภาคณบดีวิชาเฉพาะนั้น ๆ 2. ควรมีการตรวจสอบการทำงานของอาจารย์ผู้ออกข้อสอบที่ออกข้อสอบผิดพลาด รวมถึงกลไกรับผิดรับชอบและสามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้ โดยปีนี้กระทรวงการอุดมศึกษาฯ เห็นแย้งว่าไม่สามารถเปิดเผยข้อสอบได้ เพราะติดสัญญากับผู้ออกข้อสอบ ที่ระบุเงื่อนไขว่าทั้งสองฝ่ายจะปกปิดความลับของรายชื่อผู้ออกแบบทดสอบ เฉลยข้อสอบ ให้เป็นไปตามมาตรฐานของการจัดทำข้อสอบ เพื่อใช้ในระบบการคัดเลือกกลางบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาในทุกปีการศึกษาที่ผ่านมา และ 3. งบประมาณอุดหนุนค่าสมัคร TCAS รอบ 3 นั้น กระทรวงการอุดมศึกษาฯ และ ทปอ. ควรแสดงแผนการใช้จ่ายงบประมาณส่วนนี้อย่างโปร่งใส ส่วนของค่าใช้จ่ายในระบบ TCAS รอบอื่น ๆ นั้น ควรมีค่าใช้จ่ายที่ลดลง

อย่างไรก็ตามปารมี ยืนยันในที่ประชุมว่าค่าสมัครสอบทุกรอบรวมแล้วไม่ควรเกิน 500 บาท แต่ทาง ทปอ. เห็นแย้งว่าทำไม่ได้ ตนจึงเสนอว่าครั้งถัดไปควรเชิญ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษาฯ มาร่วมประชุม เพื่อหาทางออกว่าสามารถใช้งบประมาณใดมาใช้เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของนักเรียนได้หรือไม่ โดยเฉพาะงบกองทุนพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา ซึ่งในส่วนนี้ต้องติดตามต่อไป