Skip to main content
sharethis

'คลาวเดีย เชอินบาม' เพิ่งจะสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นผู้หญิงคนแรกที่ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีเม็กซิโก แต่ท่ามกลางสภาพการเมืองในตอนนี้ทำให้เธออาจจะต้องเผชิญกับประเด็นข้อโต้แย้งที่ประธานาธิบดีคนเก่าเคยก่อไว้ และต้องเผชิญกับปัญหาความรุนแรงต่อสตรีในเม็กซิโก ปัญหาคนสูญหาย และปัญหาที่มีการให้กองทัพแทรกแซงกิจการพลเรือนด้วยการทำตัวเป็นผู้บังคับใช้กฎหมาย และอื่นๆ


คลาวเดีย เชอินบาม (Claudia Sheinbaum) ชนะการเลือกตั้งตำแหน่งประธานาธิบดีครั้งล่าสุดในเม็กซิโก | ที่มาภาพ: เฟสบุ๊ค Claudia Sheinbaum 

9 มิ.ย. 2567 คลาวเดีย เชอินบาม (Claudia Sheinbaum) ชนะการเลือกตั้งตำแหน่งประธานาธิบดีครั้งล่าสุดในเม็กซิโกเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว ถ้าหากเธอสาบานตนเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ ก็จะทำให้เธอกลายเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของเม็กซิโก

เชอินบาม เป็นนักวิทยาศาสตร์ด้านภูมิอากาศ และเคยดำรงตำแหน่งเป็นนายกเทศมนตรีเม็กซิโกซิตีมาก่อน เธอเป็นผู้สมัครจากพรรคโมเรนา (MORENA) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายซ้ายประชานิยมโดยที่นอกจากเชอินบามจะเป็นว่าที่ประธานาธิบดีหญิงคนแรกของเม็กซิโกแล้ว เธอยังเป็นว่าที่ประธานาธิบดีชาวยิวคนแรกของเม็กซิโกอีกด้วย โดยที่เม็กซืโกมีประชากรร้อยละ 70 เป็นชาวคริสต์นิกายคาทอลิก

จากผลการนับคะแนนเชอินบามได้รับคะแนนเสียงอย่างท่วมท้นราว 35.9 ล้านเสียง คิดเป็นร้อยละ 59.76 เทียบกับผู้ที่ได้อันดับที่สองซึ่งได้คะแนนเสียง 16.5 ล้านเสียง คิดเป็นร้อยละ 27.45

การเลือกตั้งในครั้งนี้ของเม็กซิโกยังถือเป็นการเลือกตั้งครั้งที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศอีกด้วย โดยที่มีประชากรที่มีสิทธิเลือกตั้งมากกว่า 98 ล้านราย และมีการชิงตำแหน่งที่นั่งต่างๆ เกือบ 20,000 ที่นั่ง รวมถีงตำแหน่งประธานาธิบดี สส. และตำแหน่งในท้องถิ่นอื่นๆ หลายพันตำแหน่ง

นอกจากนี้ยังนับเป็นการเลือกตั้งที่มีความรุนแรงเกิดขึ้นมากที่สุดในเม็กซิโกด้วย โดยที่มีนักการเมืองมากกว่า 30 ราย ถูกสังหาร ไม่เพียงเท่านั้น เพียงแค่ 24 ชั่วโมงหลังจากที่มีการประกาศว่าผู้สมัครหญิงชนะการเลือกตั้ง ก็มีเหตุการณ์ที่นายกเทศมนตรีหญิงเมืองโคติฮาทางตะวันตกของเม็กซิโก โยลันดา ซานเชซ ฟิเกรัว ถูกยิงเสียชีวิตพร้อมบอดี้การ์ดของเธอ

ซานเชซ ชนะการเลือกตั้งเป็นายกเทศมนตรีของโคติฮาเมื่อปี 2564 มือปืนยิงเธอ 19 นัดที่นอกโรงยิมใกล้กับถนนสาธารณะ ซึ่งมีการตั้งข้อสังเกตว่าการสังหารที่เกิดขึ้นนี้ มีการก่อเหตุเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังการชนะตำแหน่งประธานาธิบดีแบบแลนด์สไลด์ของผู้สมัครหญิงเชอินบาม ซึ่งน่าจะกลายเป็นความหวังต่อการเปลี่ยนแปลงในประเทศที่เต็มไปด้วยความรุนแรงบนฐานของเพศสภาพอย่างเม็กซิโก

ปัญหาที่ว่าที่ประธานาธิบดีเม็กซิโกต้องเผชิญ

เชอินบาม เป็นผู้แทนจากกลุ่มพรรคการเมืองแนวร่วมฝ่ายซ้ายที่ตั้งชื่อแนวร่วมมว่า "มาสร้างประวัติศาสตร์กันเถิด" ซึ่งประกอบด้วยพรรคโมเรนา และพรรคแนวร่วมที่เล็กกว่าอย่างพรรคกรีน (PVEM) และพรรคแรงงาน (PT) ส่วนคู่แข่งของเธอคือ โซชิทึล กัลเวซ เป็นตัวแทนของกลุ่มพรรคแนวร่วม "ความเข้มแข็งและหัวใจของเม็กซิโก" ที่ประกอบด้วยพรรคสายกลาง PRI พรรคฝ่ายขวา PAN และพรรคซ้ายกลาง PRD

ในฐานะว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ เชอินบาม ต้องเผชิญกับปัญหาความท้าทายใหญ่ๆ 2 ด้าน ด้านแรกคือเรื่องของปัญหาความรุนแรงในสังคมเม็กซิโกและการใช้ทหารเป็นผู้บังคับกฎหมายมากขึ้น และด้านที่สองคือความเสื่อมโทรมของระบบตรวจสอบถ่วงดุลอำนาจบริหาร

ประธานาธิบดีคนปัจจุบันของเม็กซิโก อันเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ ผู้เป็นพี่เลี้ยงของเชอินบามยังไม่ได้แก้ปัญหาในด้านแรก และทำให้ปัญหาในด้านที่สองเลวร้ายลงกว่าเดิมมาก

ภูมิหลังการเมืองเม็กซิโก

สาเหตุที่ฝ่ายแนวร่วมกัลเวชพ่ายแพ้นั้นเป็นเพราะความเสื่อมเสียชื่อเสียงของพรรค PRI และ PAN รวมถึงพรรค PRD ด้วยในระดับหนึ่ง พรรคเหล่านี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับช่วงเวลาที่เรียกว่า การเปลี่ยนผ่านทางประชาธิปไตยในเม็กซิโก ช่วงระหว่างปี 2531-2561

ในช่วงนั้นถึงแม้ว่าจะมีการออกกฎหมายใหม่ๆ เพื่อให้อิสระในการตัดสินใจเชิงการเลือกตั้งเพิ่มขึ้น แต่รัฐบาลเปลี่ยนผ่านในช่วงนั้นก็มีผลงานไม่ดีนัก มีความเหลื่อมล้ำเพิ่มสูงขึ้นในสังคม กองทัพก็เริ่มเข้ามาแทรกแซงการบังคับใช้กฎหมายมากขึ้นเพื่อเป็นการโต้ตอบสถานการณ์สงครามยาเสพติดที่แย่ลงในเม็กซิโก เรื่องนี้ไปสู่ความรุนแรงในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน

สำหรับประธานาธิบดี โลเปซ โอบราดอร์ ก็เคยไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งมาก่อน 2 ครั้งแรก ก่อนที่เขาจะชนะเลือกตั้งในที่สุดเมื่อปี 2561 เขาเคยกล่าวหาว่ามีการโกงการเลือกตั้งในครั้งอื่นๆ ก่อนหน้านี้

นอกจากนี้โอบราดอร์ยังมองว่าตัวเองเป็นผู้มาปลดปล่อยเม็กซิโกที่จะทำให้เกิด "การเปลี่ยนผ่านครั้งที่ 4" เขาไม่ชอบลักษณะการเปลี่ยนผ่านสู่ประชาธิปไตยของเม็กซิโกก่อนหน้านี้ที่มีลักษณะไม่สมบูรณ์แบบและกระจัดกระจาย เขามองว่ามันเป็นการทรยศต่อประวัติศาสตร์เม็กซิโกโดยมีการแปดเปื้อนด้วยนโยบายแบบเสรีนิยมใหม่และการทุจริตคอร์รัปชัน อีกทั้งยังมักจะกล่าวโทษฝ่ายค้านด้วยแม้แต่ในช่วงเลือกตั้งถึงแม้ว่าจะมีกฎหมายห้ามในเรื่องนี้ก็ตาม

ทั้งนี้ดูเหมือนว่า โลเปซ โอบราดอร์ เองก็ยังคงรักษาคะแนนนิยมเอาไว้ได้ร้อยละ 65 ชาวเม็กซิกันจำนวนมากมองว่าโครงการด้านเศรษฐกิจและสังคมของเขาประสบความสำเร็จ เช่น โครงการทุนการศึกษาและสวัสดิการสำหรับคนรายได้ต่ำ ในขณะที่ความนิยมของเขาส่งผลดีต่อการหาเสียงของเชอินบาม แต่เงาอิทธิพลของโลเปซ โอบราดอร์ ก็ดูเหมือนจะปกคลุมรัฐบาลถัดไปของเชอินบามเช่นกัน

สังคมที่มีทหารทำหน้าที่แทนตำรวจมากขึ้น

จนถึงปี 2561 มีชาวเม็กซิกันราว 227,000 รายเสียชีวิตจากสงครามยาเสพติดที่มาจากนโยบายของอดีตประธานาธิบดี เฟลิปเป คัลเดรอน พอมาถึงสมัยของโลเปซ โอบราดอร์ ก็มีการให้สัญญาว่าจะถอนกำลังทหารออกจากหน้าที่ของตำรวจ แต่ โลเปซ โอบราดอร์ ก็กลับคำอย่างรวดเร็ว เขาสั่งให้รื้อหน่วยงานตำรวจแห่งชาติทิ้งแล้วตั้งกองกำลังใหม่ขึ้นมาแทนเรียกว่ากองกำลังพิทักษ์ชาติ ที่ประกอบด้วยทหารเป็นส่วนใหญ่

นอกจากนี้ โลเปซ โอบราดอร์ ยังพยายามผลักดันให้หน่วยใหม่นี้ให้ขึ้นกับหน่วยงานเลขาธิการกลาโหมแห่งชาติ หรือ "เซดานา" โดยไม่ผ่านการตรวจสอบจากฝ่ายพลเรือน ซึ่งหน่วยเซดานา นี้อยู่ภายใต้การควบคุมสั่งการโดยตรงจากประธานาธิบดี เรื่องนี้ยิ่งสร้างข้อกังขาอย่างมากเพราะกองทัพเม็กซิโกเองก็เผชิญกับข้อหาทุจริตคอร์รัปชันและการใช้วิธีวิสามัญฆาตกรรม

จากสถิติในช่วงระหว่างปี 2561-2566 ยังแสดงให้เห็นว่ามีกรณีความรุนแรงเกิดขึ้นอย่างมากในเม็กซิโก มีสถิติการฆาตกรรม 171,000 กรณี และมีเกือบ 5,000 กรณี ที่เรียกว่าเป็น 'เฟมิไซด์' ซึ่งหมายถึงการสังหารผู้หญิงโดยฝีมือของผู้ชายที่ก่อเหตุด้วยเหตุผลเรื่องเพศสภาพ

ทางเชอินบามปฏิเสธข้อกล่าวหาต่อรัฐบาลก่อนหน้านี้ที่ว่าเม็กซิโกให้กองทัพมีอิทธิพลในสังคมมากขึ้น เซอินบามยังประกาศอีกว่าเธอจะทำตามแผนการของ โลเปซ โอบราดอร์ ที่ต้องการให้กองกำลังพิทักษ์ชาติขึ้นตรงกับเซดานา

การรวบอำนาจ และการสานต่อ?

โลเปซ โอบราดอร์ ค่อยๆ ทำการรวบอำนาจทางการเมืองของเม็กซิโกไว้ให้อยู่ที่ประธานาธิบดี

ในช่วงหลังที่เขาดำรงตำแหน่ง ฝ่ายค้านเริ่มไม่สนับสนุนร่างกฎหมายของรัฐบาลอีกต่อไป แต่ฝ่ายรัฐบาลก็ไม่สนใจฝ่ายค้านแล้วทำการผ่านร่างการปฏิรูปต่างๆ โดยอาศัยการสนับสนุนจากพรรคเล็กๆ ก่อนที่ต่อมาร่างเหล่านี้จะถูกตีตกไปโดยศาลสูงสุดของเม็กซิโก หนึ่งในนั้นคือเรื่องการปฏิรูปกกต. ซึ่งนักวิจารณ์มองว่าจะให้อำนาจแก่เจ้าหน้าที่ๆ เกี่ยวข้องกับพรรคโมเรนามากกว่าพรรคอื่นๆ

ในวันที่ 5 ก.พ. ที่ผ่านมา วันครบรอบการลงนามรัฐธรรมนูญเม็กซืโก โลเปซ โอบราดอร์ ก็เสนอร่างปฏิรูปรัฐธรรมนูญต่อสภาโดยมุ่งเน้นให้มีการเปลี่ยนโครงสร้างตุลาการ ซึ่งถึงแม้ว่าโลเปซ โอบราดอร์ จะยังไม่สามารถหาเสียงข้างมากในระดับที่มากพอจะผ่านร่างได้ แต่เชอินบามก็ให้สัญญาว่าจะสานต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญนี้

โหวตประท้วงปัญหาคนหาย

หญิงเม็กซิกันรายหนึ่งชื่อ เลตติเซีย ฮิดาลโก ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งให้กับลูกชายตัวเองเป็นประธานาธิบดี ในการเลือกตั้งครั้งล่าสุด ลูกชายของเธอไม่ได้ลงสมัครเป็นผู้แทนแต่อย่างใด แต่เมื่อปี 2554 ที่มอนเทอเรย์ เคยมีเหตุการณ์ที่ตำรวจนำตัวลูกชายของเธอออกจากบ้านไปแล้วก็หายสาบสูญไปโดยที่ไม่ได้กลับมาอีกเลย

ฮิดาลโกและนักกิจกรรมรายอื่นๆ อีกหลายคน ได้ทำการประท้วงในช่วงเลือกตั้งเพื่อเรียกร้องให้ผู้คนลงคะแนนเสียงให้กับบุคคลผู้สูญหาย โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างการมองเห็นและรับรู้เกี่ยวกับผู้คนที่หายสาบสูญในเม็กซิโก

ในตอนนี้ เชอินบามจะต้องปกครองประเทศที่มีการแบ่งขั้วกัน ซึ่งเป็นผลมาจากนโยบายและสไตล์การบริหารของโลเปซ โอบราดอร์ เธอต้องปกครองไม่ใช่แค่กลุ่มคนที่โหวตให้พรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามกับเธอเท่านั้น แต่ยังมีประชาชนแบบฮิดาลโกผู้ที่เรียกร้องให้รัฐบาลเม็กซิกันสร้างเครื่องมือในการที่ประชาชนจะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีเสรีภาพ, ความเท่าเทียม และสันติภาพ โดยไม่ต้องกลัวว่าจะสูญเสียชีวิตของพวกเขาหรือหายสาบสูญ


เรียบเรียงจาก
Mexico has elected its first female president. Claudia Sheinbaum inherits a country ravaged by violence – and searching for hope, The Conversation, 03-06-2024
Woman mayor shot dead in Mexico day after Claudia Sheinbaum's historic presidential win, CBS News, 04-06-2024
Claudia Sheinbaum projected to be Mexico's first woman president, CNN, 04-06-2024
 

ข้อมูลเพิ่มเติมจาก
https://en.wikipedia.org/wiki/2024_Mexican_general_election

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net