Skip to main content
sharethis

“สายน้ำ” เพื่อน บุ้งทะลุวัง เผยยังไม่ได้หลักฐานการรักษาบุ้งแม้จะทำทุกขั้นตอนตาม รพ.ราชทัณฑ์แล้ว แต่รพ.ราชทัณฑ์มีข้อ อ้างที่จะไม่ให้ภาพกล้อง CCTV ตลอด รมต.ยุติธรรมก็เคยสัญญาว่าให้ได้แน่ๆ ก็ทำตามสัญญาไม่ได้ รัฐบาลจะยังมีความน่าเชื่อถือได้อย่างไร

14 มิ.ย.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่คินใจ คอนเทมโพรารี มีการจัดงานครบ 30 วันการเสียชีวิตของ เนติพร เสน่ห์สังคม หรือ “บุ้ง ทะลุวัง” นภสินธุ์ ตรีรยาภิวัฒน์ หรือ สายน้ำ เพื่อนของเนติพร เล่าถึงกระบวนการติดตามความคืบหน้าในการติดตามหาความจริงการเสียชีวิตของเนติพรที่ถูกคุมขังระหว่างการพิจารณาคดีในเรือนจำ

นภสินธุ์กล่าวว่า เริ่มจากวันแรกที่เขาได้ทราบข่าว เขาไปที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติตอนประมาณ 11 โมงเพื่อไปตรวจสอบว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ วันนั้นก็มีการชันสูตรพลิกศพเบื้องต้นที่ รพ.ธรรมศาสตร์ฯ เพื่อพลิกดูบาดแผลภายนอกก่อนแล้ววันรุ่งขึ้นถึงมีการผ่าชันสูตร

นภสินธุ์เล่าต่อว่า ได้ดำเนินการขอผลการรักษาย้อนหลังทั้งจาก รพ.ราชทัณฑ์ กับทาง รพ.ธรรมศาสตร์ฯ ก็ได้หลักฐานจากทาง รพ.ธรรมศาสตร์ฯ มาอย่างรวดเร็ว แต่กับทางรพ.ราชทัณฑ์เคยขอภาพวิดีโอกล้องวงจรปิดไป 7 ครั้ง แต่รพ.ราชทัณฑ์ก็มีข้ออ้างต่างๆ ทั้งอ้างเรื่องปัญหาเอกสารมอบอำนาจ เรื่อง pdpa อ้างระเบียบภายใน จนถึงกับเคยสัญญาว่าจะให้ดูได้ก็ไม่ได้ อ้างว่า ผู้อำนวยการไม่อยู่ แล้วก็กลับมาอ้างเรื่องมีเอกสารไม่ครบอีกบอกว่าขาดหนังสือมอบอำนาจทั้งที่ก็ให้ไปแล้ว ตอนนี้พยายามทุกทางแล้ว ถ้าทาง รพ.ราชทัณฑ์เขาอยากให้จริงๆ ก็คงให้ตั้งแต่แรกแล้ว ทำให้ตอนนี้สามารถยืนยันได้ว่ายังไม่มีใครได้เห็นภาพกล้องเลย และไม่ให้ไฟล์ด้วย

นภสินธุ์บอกว่าทาง รพ.ราชทัณฑ์บอกว่าให้พ่อแม่ไปดูก็คงได้ข้อมูลระดับหนึ่งเพราะพวกเขาก็คงกำลังเศร้าอยู่ แล้วต่อให้พวกเขาเข้าไปดูจริงๆ มันก็มีปัญหาว่าก็ต้องให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเข้าไปดูด้วยเพราะไม่มีใครเป็นผู้เชี่ยวชาญพอที่จะวิเคราะห์ได้ว่ารักษาถูกต้องหรือไม่ แล้วถ้าแค่ให้ดูเฉยๆ ก็ยากที่จะบอกได้ว่ามีการตัดต่อหรือไม่ ที่ รพ.ราชทัณฑ์เคยเชิญสื่อไปดูสื่อที่ได้เข้าไปก็ออกมาเล่าให้ฟังว่าที่ได้ดูก็จากมุมไกลๆ มองผ่านบานเกล็ดเข้าไปแล้วก็ไม่ให้บันทึกภาพด้วยซึ่งเขาก็ไม่เข้าใจว่าให้เข้าไปมองเตียงเปล่าๆ จะได้ประโยชน์อะไร รพ.ราชทัณฑ์ก็คงแค่บอกว่าได้ให้ดูแล้ว

นภสินธ์บอกว่าถ้าทางราชทัณฑ์จะบอกว่ากลัวเอาไปเปิดเผย เขาก็ยืนยันกับทางราชทัณฑ์ไปแล้วว่าจะไม่เปิดเผยและเพื่อนๆ ก็ไม่อยากเปิดอยู่แล้วเพราะเป็นภาพเพื่อนของพวกเขาเองที่กำลังถูกรักษาอยู่ หรือจะอ้างเรื่อง pdpa ก็สามารถเบลอหน้าหมอพยาบาลได้ไม่ยาก อีกทั้งกล้องที่ถ่ายก็ติดส่องลงมาตรงๆ เห็นแค่ทานตะวันกับเนติพรเท่านั้นเอง ถ้าจะมีคนติดเข้ามาในภาพก็มีแค่ไม่กี่คน

นภสินธุ์กล่าวต่อเรื่องข้อมูลเรื่องการรักษาในเช้าวันเกิดเหตุที่เขาทราบ คือปั๊มหัวใจที่ รพ.ราชทัณฑ์ตั้งแต่ 6.30 น. แล้วถึงส่งไป รพ.ธรรมศาสตร์ 9.30 น. แต่ในระหว่างนี้ทาง รพ.ราชทัณฑ์ก็ทำซีทีสแกนไปด้วยระหว่างปั๊มหัวใจ ซึ่งเป็นเรื่องแปลกมากที่มีการปั๊มหัวใจพร้อมกับการเอาเข้าอุโมงค์ที่ใช้ทำซีทีสแกน แล้วยังมีการเอกซเรย์ปอดซึ่งจะทำได้ก็ต้องอยู่นิ่งๆ แล้วปั๊มหัวใจอยู่จะทำได้อย่างไร แล้วสุดท้ายพอขอผลการตรวจจากซีทีสแกนกับเอกซเรย์ก็ยังไม่ได้มา

แล้วทาง รพ.ธรรมศาสตร์ก็ออกมาเปิดเผยว่าระหว่างการปั๊มหัวใจเนติพรใน รพ.ราชทัณฑ์มีการสอดท่อผิด ทั้งๆ ที่การสอดท่อมันต้องทำโดยแพทย์ ถึงจะมีแพทย์ออกมาบอกว่าไม่ใช่เรื่องแปลกที่ผิดพลาดกันได้แต่เมื่อทราบแล้วว่าผิดก็ต้องแก้ไขทันที แต่ที่เกิดขึ้นคือมีการสอดผิดแล้วค้างไว้อย่างนั้นแล้วปั๊มหัวใจทั้งที่ต้องมีการตรวจสอบว่าสายที่สอดไปเข้าปอดหรือกะเพาะ เมื่อไม่ตรวจสอบก็ทำให้มีโอกาสรอดชีวิตน้อยมาก แล้วพอถามเรื่องนี้กับรพ.ราชทัณฑ์ไปก็ไม่ได้คำตอบว่าเกิดอะไรแล้วใครเป็นคนสอด

นภสินธุ์กล่าวถึงประเด็นการย้ายตัวเนติพรขณะเกิดเหตุว่า ตอนแรกเนติพรอยู่ชั้นสอง แต่ในระหว่างที่หมดสติมีการนำตัวลงมาที่ชั้นหนึ่งโดยการอุ้ม โดยหลักการทั่วไปขั้นตอนการช่วยเหลือมันควรทำอยู่กับที่ แต่ก็มีการย้ายตัวทั้งที่ไม่มีความพร้อมก็ทำให้ความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้นอีกก็มีคำถามว่าทำไมต้องย้ายลงมาชั้นหนึ่ง แล้วก็ยังมีคำถามว่าทำถึงย้ายตัวไป รพ.ธรรมศาสตร์ ที่อยู่ไกลออกไปทั้งที่มีโรงพยาบาลอื่นใกล้กว่าอย่าง รพ.วิภาวดี หรือเกษมราษฎร์ หรือส่งตัวไป รพ.ตำรวจก็ยังอาจจะใกล้กว่าด้วยซ้ำ

นอกจากนั้นช่วงเวลาสองชั่วโมงกว่าที่อยู่กับ รพ.ราชทัณฑ์ ถ้าสุดท้ายแล้วเห็นว่าทางรพ.ราชทัณฑ์เองไม่มีความพร้อมทำไมไม่ส่งต่อเลย แล้วจริงๆ แล้วเนติพรก็เสียชีวิตตั้งแต่ก่อนส่งไป รพ.ธรรมศาสตร์ฯ แล้ว การปั๊มหัวใจเป็นเวลานานขนาดนั้นแล้วถึงส่งต่อไม่ใช่เรื่องปกติ แล้วเรื่องความไม่พร้อมของ รพ.ราชทัณฑ์นี้ก็ยังมีกรณีอื่นๆ ที่เปรียบเทียบให้เห็นได้อยู่แล้วอย่างการส่งผู้ต้องขังไปรักษาที่ชั้น 14 หรือกรณีการเสียชีวิตของอากงเป็นต้น รพ.ราชทัณฑ์เองที่ไม่ได้มีความพร้อมทั้งบุคลากรและเครื่องมือพร้อมจึงควรส่งต่อ การเอาคนไปคุมขังไม่ว่าเขาจะทำผิดหรือไม่อย่างไรก็ทำได้แค่คุมขังไม่ใช่การฆ่าเขา การไม่มีความพร้อมแล้วยังรักษาต่อจึงไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง

นภสินธุ์กล่าวว่าตอนนี้เรื่องของเนติพรเงียบไปมากไม่ได้รับคำตอบหรือการตอบรับจาก รพ.ราชทัณฑ์จากทางกระทรวงยุติธรรมเลย ข้อเท็จจริงที่ได้มาทั้งหมดก็ได้จากรพ.ธรรมศาสตร์ฯ ด้วยซ้ำ เขาไม่เข้าใจว่าทำไมรพ.ราชทัณฑ์ไม่เปิดเผยข้อมูลว่าได้ทำอะไรไปบ้างรักษาอย่างไร ใครเป็นคนสอดท่อ ใครเป็นคนสั่งการ ตอนนี้ก็คือไม่ทราบอะไรเลยทั้งที่พยายามทวงถามนับครั้งไม่ถ้วน ผู้อำนวยการ รพ.ราชทัณฑ์ก็ยังอยู่ที่เดิมไม่ได้ถูกย้ายทั้งที่จะต้องมีการสอบสวน

“เราก็คงยืนยันว่าตอนนี้ผ่านมาเดือนหนึ่งแล้ว เราต้องเรียกร้อง อยากรู้ว่าเพื่อนเราตายยังไง เป็นเรื่องพื้นฐานที่เราจะได้รู้ว่าเขาตายยังไง ทำไม รพ.ราชทันทำแบบนี้ เรายังไม่ได้พูดเลยว่าจะเอาผิดใคร เราแค่ถามว่ามันเกิดอะไรขึ้นเท่านั้นเอง ก็ต้องกดดันให้เขายอมเปิดเผยออกมา”

นภสินธุ์กล่าวว่าเขาเข้าไปเรือนจำหลายครั้ง ไปรพ.ราชทัณฑ์แล้ว แต่ไม่เคยได้ยินคำขอโทษจากทาง รพ.ราชทัณฑ์เลยสักครั้ง แล้วตอนงานศพของเนติพร ก็มีรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมมาแล้วพูดยืนยันว่าได้ภาพกล้องแน่ๆ เขาสัญญากับเพื่อนๆ ของเนติพรและต่อหน้าเนติพรที่งานศพแล้ว แต่พอเขาไปถึง รพ.ราชทัณฑ์ก็ยังไม่ให้ภาพกล้องมาอีก คนเป็นถึงรัฐมนตรีแล้วให้คำสัญญาไว้แต่ยังทำไม่ได้ เขาเองก็ไม่รู้ว่ารัฐบาลนี้ยังน่าเชื่อถือแค่ไหน ไม่ควรมีใครเจอเหตุการณ์แบบนี้อีกแล้ว ไม่ควรมีนักโทษคนไหนเสียชีวิตจากการรักษาผิดพลาดของเขาอีกแล้ว

 

 

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net