ศาลสั่งจำคุก 33 ปี กลุ่มผู้ก่อเหตุลอบวางระเบิดในพื้นที่ ต.สุวารี อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เมื่อ 10 มิ.ย. 2565 - รองแม่ทัพภาคที่ 4 ตรวจเยี่ยมหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 49 จ.นราธิวาส หลังเกิดเหตุการณ์ความรุนแรง  เน้นย้ำถอดบทเรียนเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติและกำหนดทิศทางการทำงานต่อไป

7 ก.ค. 2567 จากกรณีเหตุการณ์ คนร้ายลอบวางระเบิดริมถนนทางหลวงหมายเลข 4066 ในพื้นที่ บ้านบือเเนลือโบะ ตำบลสุวารี อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 2565 เวลา 07.10 น. ที่ผ่านมา หลังจากเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมพื้นที่ปิดกั้นที่เกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบวัตถุพยานและรวบรวมหลักฐานต่างๆ ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินติดตามและขยายผลเพื่อหาตัวกลุ่มคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย จนสามารถนำไปสู่การจับกุมตัวกลุ่มคนร้ายได้ทั้งสิ้น 8 ราย จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อดำเนินกรรมวิธีในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

โดยเมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 2567 ศาสจังหวัดนราธิวาส พิพากษา “จำคุกจำเลย 8 คน คนละ 33 ปี” มีความผิดฐานก่อการร้าย อั้งยี่ ซ่องโจร สะสมกำลังพลฯ ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ฯ ร่วมกันพยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่โดยไตร่ตรองไว้ก่อน และ พ.ร.บ.อาวุธปืนและวัตถุระเบิดฯ เนื่องจากมีพยานหลักฐานที่เชื่อว่าจำเลยคือกลุ่มคนร้ายในคดีนี้ พิพากษาจำคุกจำเลย 8 ตลอดชีวิต แต่จำเลยทั้งแปดให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้ละกึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยทั้ง 8 ราย คนละ 33 ปี

รองแม่ทัพภาคที่ 4 ตรวจเยี่ยมหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 49 จ.นราธิวาส หลังเกิดเหตุการณ์ความรุนแรง

พลตรี ไพศาล  หนูสังข์ รองแม่ทัพภาคที่ 4

วันนี้ (7 ก.ค. 2567) พลตรี ไพศาล  หนูสังข์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า จากการตรวจเยี่ยมให้กำลังหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 49 อำเภอศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส พร้อมประชุมหารือและติดตามสถานการณ์ หลังเกิดเหตุการณ์ความรุนแรง เมื่อวันที่ 5 ก.ค. ที่ผ่านมา  จากกรณีหน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมประจำจังหวัดนราธิวาส ได้สนธิกำลัง 3 ฝ่าย เข้าบังคับใช้กฎหมายตรวจสอบบุคคลต้องสงสัย ต่อมาเจ้าหน้าที่เข้าพิสูจน์ทราบพื้นที่บริเวณโดยรอบ  และได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นบริเวณภายในป่าพื้นที่บ้านไอร์กูเล็ง (บ้านย่อย บ้านตืองอ) หมู่ที่ 3 ตำบลศรีบรรพต อำเภอศรีสาคร ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บ

ทั้งนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นความผิดพลาดที่ต้องมาร่วมกันแก้ไข ต้องถอดบทเรียนเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติและกำหนดทิศทางต่อไป จากการติดตามสถานการณ์ ยังมีบางจุดที่เป็นจุดล่อแหลม ให้เจ้าหน้าที่มีความรัดกุม และมีความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น หมั่นสังเกต วิเคราะห์ วางแผน กำหนดเส้นทางจรยุทธ์ สำหรับพื้นที่สิ่งที่เฝ้าระวังตาม ป่า ภูเขา ทั้งเดินเท้าและยานพาหนะให้ศึกษาเส้นทางอย่างละเอียด ส่วนการติดต่อสื่อสารให้มีการประสานกันอย่างต่อเนื่อง

พร้อมกันนี้ได้นำความห่วงใยและข้อเน้นย้ำของพลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4  ถึงแนวทางการปฏิบัติ โดยเฉพาะในเรื่องของการติดตามสถานการณ์ด้านการข่าว ให้เจ้าหน้าที่ทุกนายมีความตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา ไม่ประมาท มีสติ เรียนรู้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นบทเรียน และนำมาปรับปรุงแก้ไขต่อไป

ที่มาเรียบเรียงจาก NBT CONNEXT [1] [2]