Skip to main content
sharethis

โฆษกรัฐบาลเผยผลสำเร็จการทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เยือนจีนยกระดับความร่วมมือทุกมิติ ภาครัฐ–ภาคธุรกิจ-ประชาชน ผลักดันส่งออกสินค้าเกษตรจากไทยไปจีน เยือนอินเดียต่อเนื่อง ย้ำความพร้อมของไทยในฐานะประธานและเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำ BIMSTEC


นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เยือนจีนอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 8-10 ก.ค. 2567 ตามคำเชิญของนายหวัง อี้ สมาชิกกรมการเมือง ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกลางด้านกิจการต่างประเทศพรรคคอมมิวนิสต์จีน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน | ที่มาภาพ: กระทรวงการต่างประเทศ

13 ก.ค. 2567 เว็บไซต์รัฐบาลไทย รายงานว่านายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นโยบายการทูตเศรษฐกิจเชิงรุกของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ส่งผลให้เกิดเห็นเป็นความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้เยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 8 – 10 ก.ค. 2567 ยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างไทย - จีน มุ่งขยายโอกาสและอำนวยความสะดวกด้านการค้าการลงทุนระหว่างกันในอนาคต พร้อมเดินทางต่อเนื่องไปยังสาธารณรัฐอินเดีย ระหว่างวันที่ 11 - 12 ก.ค. 2567 เพื่อเพิ่มพูนความร่วมมือภายใต้ความริเริ่มแห่งอ่าวเบงกอลสำหรับความร่วมมือหลากหลายสาขาทางวิชาการและเศรษฐกิจ (BIMSTEC) และย้ำความพร้อมของไทยในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำ BIMSTEC ครั้งที่ 6 ณ กรุงเทพฯ ประเทศไทย ในช่วงเดือน ก.ย. 2567 นี้

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากการเยือนจีนของนายมาริษ เป็นการต่อยอดความร่วมมือระหว่างไทย - จีน ภายหลังการเยือนจีนอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี เมื่อเดือน ต.ค. 2566 โดยในการเยือนครั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้พบหารือกับผู้นำระดับสูงและบุคคลสำคัญของจีน โดยได้หารือเพื่อกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีในทุกระดับ ทั้งระหว่างภาครัฐ ภาคธุรกิจ และประชาชน (G2G B2B และ P2P) พร้อมผลักดันความร่วมมือทางเศรษฐกิจ เช่น การอำนวยความสะดวกด้านการค้าสินค้าเกษตร การส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนด้านเศรษฐกิจในระยะยาวผ่านนโยบาย IGNITE Thailand การส่งเสริมการลงทุนของจีนในอุตสาหกรรมเป้าหมายของไทย ซึ่งจีนพร้อมสนับสนุนไทยเป็น Regional Hub ผลิตส่วนประกอบ EV สำคัญให้จีน ตลอดจนการส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างกัน และความร่วมมือเพื่อแก้ปัญหาข้ามแดน รวมถึงการกระชับความสัมพันธ์ในกรอบพหุภาคีร่วมกัน

นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้หารือกับประธานธนาคารแห่งประเทศจีน (Bank of China) ซึ่งเป็นธนาคารจีนแห่งแรกที่เปิดสำนักงานใหญ่ในไทย โดยธนาคารฯ ตอบรับที่จะเป็นตัวกลางสนับสนุนธุรกิจไทยเข้าตลาดทุนจีน พร้อมจะแนะนำธุรกิจจีนรายใหญ่ให้ลงทุนในเศรษฐกิจไทย ผ่านอุตสาหกรรมสาขาต่าง ๆ ที่ไทยนำเสนอ เช่น เซมิคอนดักเตอร์ ชิ้นส่วนหลักของ EV เศรษฐกิจดิจิทัล และพลังงาน รวมทั้งได้เชิญชวนธนาคารฯ เข้าร่วมกิจกรรมโรด์โชว์ของไทยในจีนที่จะจัดขึ้น ณ กรุงปักกิ่ง ช่วงเดือน ก.ย. 2567 นี้ด้วย

จากนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เดินทางต่อเนื่องไปยัง กรุงนิวเดลี สาธารณรัฐอินเดีย ซึ่งเป็นการเยือนอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 11 - 12 ก.ค. 2567 เพื่อร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศบิมสเทคอย่างไม่เป็นทางการ (BIMSTEC Foreign Ministers’ Retreat) ครั้งที่ 2 โดยที่ประชุมได้หารือถึงการจัดตั้งกลไกประสานงานระหว่างสมาชิกเพื่อรับมือกับวิกฤตการณ์ต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ความคืบหน้าของการเจรจาความตกลงการค้าเสรีบิมสเทค (BIMSTEC Free Trade Area) การส่งเสริมการท่องเที่ยว และความร่วมมือด้านการขนส่งทางทะเล โดยไทยได้เน้นย้ำความพร้อมในฐานะประธานและเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำ BIMSTEC ครั้งที่ 6 ณ กรุงเทพฯ ประเทศไทย ในช่วงเดือน ก.ย. 2567 (http://www.bimstecthailand.com/)

“นายกรัฐมนตรีขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ดำเนินตามนโยบายการทูตเชิงรุกของนายกรัฐมนตรีอย่างต่อเนื่อง แสวงหาโอกาส ส่งเสริมให้เกิดการค้า การลุงทุนกับทุกมิตรประเทศในทุกมิติ ไม่เพียงแต่ด้านเศรษฐกิจ แต่รวมทั้งด้านสังคม วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม การท่องเที่ยว และความสัมพันธ์แบบประชาชนสู่ประชาชนด้วย ซึ่งเชื่อมั่นว่าด้วยการดำเนินยุทธศาสตร์ที่เปิดกว้างพร้อมร่วมมือนี้ จะเป็นประตู่สู่ทุกความร่วมมือของไทยกับสังคมโลก” นายชัย กล่าว

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net