รายงานฉบับใหม่โดยองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) และสำนักงานผู้แทนพิเศษด้านเทคโนโลยีของเลขาธิการสหประชาชาติ (UN) เตือนการปฏิวัติ AI อาจขยายช่องว่างความเหลื่อมล้ำระหว่างประเทศที่มีรายได้สูงและประเทศกำลังพัฒนา แนะควรส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศและการบริหารจัดการ AI ในโลกแห่งการทำงาน
องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) รายงานเมื่อช่วงต้นเดือน ส.ค. 2567 ว่าข้อค้นพบจากรายงานฉบับใหม่ของ ILO และสำนักงานผู้แทนพิเศษด้านเทคโนโลยีของเลขาธิการสหประชาชาติ (UN Office of the Secretary General’s Envoy on Technology) ชี้ว่าการปฏิวัติปัญญาประดิษฐ์ (AI) อาจจะยิ่งขยายช่องว่างระหว่างประเทศที่มีรายได้สูงและประเทศกำลังพัฒนา
รายงานนี้มีชื่อว่า 'โปรดระวังความเหลื่อมล้ำทาง AI: การสร้างมุมมองระดับโลกเกี่ยวกับอนาคตของการทำงาน' (Mind the AI Divide: Shaping a Global Perspective on the Future of Work) ชี้ว่า AI กำลังเปลี่ยนโฉมอุตสาหกรรมทั่วโลก นำมาซึ่งโอกาสอันยิ่งใหญ่ในการสร้างสรรค์นวัตกรรมและเพิ่มผลิตภาพ ทว่า ในขณะเดียวกัน มันก็ขยายช่องว่างแห่งความเหลื่อมล้ำทั้งทางเศรษฐกิจและสังคม อันเนื่องมาจากความแตกต่างในการลงทุน การประยุกต์ใช้ และการเข้าถึงเทคโนโลยี ช่องว่างทาง AI ที่กำลังก่อตัวนี้ส่งผลให้ประเทศรายได้สูงได้รับประโยชน์จากความก้าวหน้าของ AI มากกว่าประเทศรายได้ต่ำและปานกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแอฟริกา ซึ่งดูเหมือนจะเป็นผู้ตามหลังในการพัฒนาด้านนี้
ในบริบทของการทำงาน AI มีศักยภาพในการยกระดับผลิตภาพและพัฒนาสภาพแวดล้อมการทำงาน กระนั้น ความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐาน เทคโนโลยี การศึกษาที่มีคุณภาพ และการฝึกอบรม อาจนำไปสู่การประยุกต์ใช้ AI ที่ไม่ทัดเทียม ซึ่งจะยิ่งทวีความไม่เท่าเทียมในระดับโลกให้ทวีความรุนแรงขึ้น
ประเทศรายได้สูงอยู่ในจุดได้เปรียบที่จะใช้ประโยชน์จาก AI ในการเพิ่มผลิตภาพ ขณะที่ประเทศกำลังพัฒนาอาจเผชิญอุปสรรคจากการขาดโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ความเหลื่อมล้ำนี้อาจแปรเปลี่ยนจาก "กันชนชั่วคราว" ต่อการเปลี่ยนแปลงที่ขับเคลื่อนด้วย AI ไปสู่อุปสรรคระยะยาวต่อความเจริญทางเศรษฐกิจ
ความร่วมมือในระดับโลกและกลยุทธ์เชิงรุกเพื่อสนับสนุนประเทศกำลังพัฒนา ทั้งในด้านการเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล การพัฒนาทักษะ และการเจรจาทางสังคม ล้วนเป็นรากฐานสำคัญในการลดช่องว่างทางเทคโนโลยี และประกันว่าการปฏิวัติ AI จะไม่ทอดทิ้งประชากรส่วนใหญ่ของโลกไว้เบื้องหลัง
แต่ละปี เม็ดเงินมหาศาลกว่า 300 พันล้านดอลลาร์ฯ ถูกทุ่มลงทุนทั่วโลกเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีเสริมศักยภาพการประมวลผล ทว่าการลงทุนเหล่านี้กลับกระจุกตัวในประเทศรายได้สูงเป็นส่วนใหญ่ ก่อให้เกิดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานและการพัฒนาทักษะ ส่งผลให้ประเทศกำลังพัฒนาและธุรกิจเกิดใหม่ในประเทศเหล่านั้นต้องเผชิญกับสภาวะเสียเปรียบอย่างรุนแรง
นอกจากนี้ หากปราศจากอุตสาหกรรมเทคโนโลยีภายในประเทศ แรงงานทักษะสูงในประเทศกำลังพัฒนาอาจต้องเสนอบริการผ่านแพลตฟอร์มฟรีแลนซ์ ส่งผลให้บริษัทต่างชาติได้รับประโยชน์ ก่อให้เกิดปรากฏการณ์ "สมองไหลเสมือน"
รายงานยังชี้ให้เห็นว่าผู้หญิงมีความเปราะบางสูงสุดต่อผลกระทบจากการทำงานอัตโนมัติของ AI โดยเฉพาะในบทบาทด้านการจัดการธุรการและการจ้างงานภาคธุรกิจ เช่น ศูนย์บริการทางโทรศัพท์ ซึ่งแพร่หลายในเศรษฐกิจกำลังพัฒนา อย่างไรก็ตาม งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าแม้การทำงานอัตโนมัติจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการตกงาน แต่ก็มีศักยภาพในการยกระดับคุณภาพงานและเพิ่มผลิตภาพได้เช่นกัน
รายงานเสนอเสาหลักนโยบาย 3 ประการ ได้แก่ การส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศ การเสริมสร้างขีดความสามารถภายในประเทศ และการบริหารจัดการ AI ในโลกแห่งการทำงาน ซึ่งประกอบด้วย:
- การเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล: ประเทศกำลังพัฒนาจำเป็นต้องมีโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่แข็งแกร่งเพื่อรองรับการประยุกต์ใช้ AI ซึ่งครอบคลุมถึงการเข้าถึงไฟฟ้า บรอดแบนด์ และเทคโนโลยีการสื่อสารสมัยใหม่
- การส่งเสริมการถ่ายทอดเทคโนโลยี: ประเทศรายได้สูงควรสนับสนุนการถ่ายทอดเทคโนโลยี AI และองค์ความรู้สู่ประเทศกำลังพัฒนา เพื่อสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือในการพัฒนาเทคโนโลยี
- การพัฒนาทักษะ AI: การลงทุนด้านการศึกษาและการฝึกอบรมมีความสำคัญยิ่งในการเตรียมความพร้อมแรงงานให้มีทักษะ AI ที่จำเป็น ซึ่งจะช่วยให้แรงงานสามารถปรับตัวและได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงที่ขับเคลื่อนด้วย AI
- การส่งเสริมการเจรจาทางสังคม: การผสานรวม AI ในที่ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพจำเป็นต้องอาศัยการเจรจาทางสังคม เพื่อให้มั่นใจว่าความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีจะเคารพสิทธิของแรงงานและยกระดับคุณภาพงาน
รายงานฉบับนี้ยังเรียกร้องให้ผู้กำหนดนโยบาย ผู้นำภาคอุตสาหกรรม และองค์กรระหว่างประเทศร่วมมือกันสร้างสรรค์อนาคตที่ขับเคลื่อนด้วย AI อย่างเป็นธรรมและครอบคลุม
ที่มา:
Mind the Gap: Bridging the AI divide will ensure an equitable future for all (ILO, 7 August 2024)
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)