Skip to main content
sharethis

“ทนายเกิดผล” ทนายของครอบครัวของ “วรปรัชญ์” พลทหารวัย 18 แจ้งข้อหาเพิ่มทั้งเจตนาฆ่าและ พ.ร.บ.ป้องกันซ้อมทรมานฯ ทหาร 13 คน กังวลครูฝึกที่ได้ประกันอาจไปยุ่งกับพยาน ถ้าพบข้อมูลอาจยื่นขอศาลถอนประกัน

16 ส.ค.2567 จากกรณีที่เมื่อ 2 วันก่อนมีการรายงานข่าวการเสียชีวิตของพลทหารวรปรัชญ์ พัดมาสกุล ทหารในค่ายนวมินทร์ จ.ชลบุรี อายุ 18 ปี จากเหตุการณ์ที่วรปรัชญ์ถูกนายทหารซ้อมทำร้ายร่างกายระหว่างการซ่อมวินัยจนหยุดหายใจไปก่อนที่ทางโรงพยาบาลจะทำการกู้ชีพกลับมาจนหายใจได้อีกครั้งและพักรักษาตัวมาตั้งแต่เดือนมิถุนายนโดยที่ไม่ฟื้นกลับมาจนกระทั่งเสียชีวิตไปเมื่อ 2 ส.ค.ที่ผ่านมา

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

เกิดผล แก้วเกิด ทนายความจากสำนักงานกฎหมาย ทนายเกิดผล แก้วเกิด ที่เข้าให้ความช่วยเหลือทางคดีกับครอบครัวของวรปรัชญ์ ให้สัมภาษณ์กับประชาไทว่า เบื้องต้นในคดีนี้มีการดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุที่มีทั้งครูฝึกและผู้ช่วยครูฝึกจำนวน 13 คน ตั้งแต่ช่วงที่วรปรัชญ์ยังพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลแล้ว โดยเบื้องแรกแจ้งข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกับทั้ง 13 คน

ต่อมาเมื่อวรปรัชญ์เสียชีวิตได้ดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมคือฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา และร้องให้พนักงานสอบสวนของ สภ.เมืองชลบุรีให้ดำเนินคดีในฐานความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปราม การทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 ด้วย เนื่องจากครูฝึกทหารเป็นเจ้าหน้าที่รัฐได้ทำร้ายพลทหารจนเสียชีวิต จึงเห็นว่าควรจะต้องดำเนินคดีตามฐานความผิดนี้ด้วยซึ่งเป็นคดีที่ขึ้นกับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง

ผู้สื่อข่าวสอบถามเพิ่มเติมว่าได้มีการร้องเรียนไปทางศูนย์ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหายของสำนักงานอัยการสูงสุดด้วยหรือไม่ ทนายความกล่าวว่า เมื่อแจ้งความไว้แล้วคาดว่าทางพนักงานสอบสวนน่าจะหารือกับผู้บังคับบัญชาในเรื่องนี้อยู่

เกิดผลกล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อมีการแจ้งข้อกล่าวหาที่มีโทษสูงขึ้นเพิ่มเติม ทำให้การฝากขังผู้ต้องหาที่มีอยู่แต่เดิมมีแค่ 4 ฝากก็อาจจะทำให้ระยะเวลาฝากขังเพิ่มขึ้นไปด้วย จึงยังไม่มีกำหนดว่าจะมีการสั่งฟ้องเมื่อไหร่ แล้วตอนนี้ก็กำลังรอทางเจ้าหน้าที่ตำรวจประสานมาอยู่

ทั้งนี้เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ามีความกังวลในทางคดีบ้างหรือไม่เนื่องจากก่อนหน้านี้ครูฝึก 1 ในผู้ถูกกล่าวหามีการหลบหนีแต่เมื่อถูกจับกลับมาก็ยังได้ประกันตัว

ทนายความกล่าวว่า ครูฝึกคนที่หนีไปตั้งแต่ตอนแรกเมื่อถูกตามจับกุมกลับมาได้แล้วเขาก็ได้ประกันตัวตามสิทธิ แต่สิ่งที่กังวลคือมีความพยายามเข้าไปพูดคุยกับพยานในคดีแม้ว่าตอนนี้พยานจะไม่เปิดช่องให้นายทหารรายนี้คุย แต่เมื่อฐานความผิดในคดีเพิ่มขึ้นก็เกรงว่าอาจจะเกิดการข่มขู่หรือไปยุ่งเหยิงกับพยาน ตอนนี้จึงรวบรวมข้อมูลในเรื่องนี้เพิ่มก็อาจจะมีการดำเนินการขอให้ศาลถอนประกัน

เกิดผลกล่าวว่า ด้วยความที่วรปรัชญ์เป็นเพียงลูกชายคนเดียวทางครอบครัวก็เสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นและอยากให้มีการดำเนินคดีถึงที่สุดให้เด็ดขาด แล้วก็ได้มีการพูดคุยกับผู้บังคับบัญชาแล้วก็ช่วยทางคดีด้วยในการติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุที่หลบหนีมาให้ด้วย แต่ก็มีบางเรื่องที่คุยกันแล้วยังไม่มีข้อยุติเช่น การเยียวยาความเสียหาย ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นทางผู้บังคับบัญชาก็ช่วยเหลือมาในระดับหนึ่งระหว่างที่รักษาตัวในโรงพยาบาลอยู่ หลังจากนี้ก็จะมีการพูดคุยติดตามกันในต้นเดือนกันยายน 

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net