อนุรา กุมาร ดิสสะนายาเก นักการเมืองฝ่ายซ้ายวัย 55 ปี หัวหน้าพรรคพลังประชาชนแห่งชาติ (NPP) เข้าสาบานตนเป็นประธานาธิบดีศรีลังกาวานนี้ (23 ก.ย. 2567) หลังเอาชนะผู้นำฝ่ายค้าน ซาจิต ปรีมาดาซา ด้วยคะแนน 5.74 ล้าน ต่อ 4.53 ล้าน ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจที่เกาะกินประเทศมาหลายปี จนนำไปสู่การประท้วงต่อต้านรัฐบาลเมื่อ 2 ปีที่แล้วที่ทำให้ประธานาธิบดีโกฑพญา ราชปักษาต้องหนีออกนอกประเทศ เมื่อปี 2565 และนายกรัฐมนตรีรานิล วิกรมสิงเห ดำรงตำแหน่งชั่วคราว
ในปี 2565 เศรษฐกิจของศรีลังกาตกอยู่ในระดับวิกฤต ราคาเชื้อเพลิงและค่าครองชีพที่สูงขึ้น ภาวะเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ และโรงพยาบาลมีปัญหาการขาดแคลนยาที่จำเป็น โดยในปีนั้น อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจติดลบ 7.5 เปอร์เซ็นต์ ส่วนปี 2566 ติดลบ 2.3 เปอร์เซ็นต์
การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 21 กันยายนซึ่งเป็นการเลือกตั้งครั้งแรกในรอบ 2 ปี มีผู้สมัครลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดี 38 คน ซึ่งรวมทั้งรานิล วิกรมสิงเห ที่ลงสมัครในนามอิสระ, ซาจิต ปรีมาดาซา ผู้นำฝ่ายค้าน และนามาล ราชปักษา ลูกชายของอดีตประธานาธิบดีมหินทาด้วย
เขาเป็นประธานาธิบดีคนที่ 9 นับตั้งแต่ศรีลังกามีรัฐธรรมนูญใหม่ในปี 2521 ดิสสะนายาเกได้รับเลือกตั้งครั้งแรกในปี 2543 และเคยเป็นอดีตรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรและชลประทาน ในรัฐบาลประธานาธิบดี จันทริกา กุมารตุงคะ เขาลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีครั้งแรกในปี 2562
ในสุนทรพจน์หลังเข้ารับตำแหน่ง ดิสสะนายาเก ให้คำมั่นว่าจะร่วมมือกับภาคส่วนต่างๆ เพื่อจัดการความท้าทายของประเทศ “เราเข้าใจลึกซึ้งแล้วว่า ประเทศของเราตกอยู่ในความท้าทาย เราไม่เชื่อว่า รัฐบาลเพียงฝ่ายเดียวหรือใครคนเดียวจะแก้ไขวิกฤตที่อยู่มานานนี้ได้”
ในปี 2566 ประธานาธิบดีวิกรมสิงเหกู้เงิน 2.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ดิสสะนายาเกหาเสียงว่าจะผ่อนปรนมาตรการรัดเข็มขัดของอดีตประธานาธิบดีวิกรมสิงเห ซึ่งดำเนินการตามข้อตกลงกับ IMF ที่มีนโยบายทางเศรษฐกิจเข้มงวด
IMF กำหนดให้ศรีลังกาต้องใช้หนี้แก่เจ้าหนี้ทั้งในและต่างประเทศ โดยเน้นไปที่หนี้ต่างประเทศ 36,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในจำนวนนี้มาจากจีน 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เจ้าหนี้รายใหญ่ที่สุด
ระหว่างปี 2562 ถึง 2566 ระดับความยากจนเพิ่มขึ้น 2 เท่า ประชาชนมากกว่า 1 ใน 4 อยู่ต่ำกว่าระดับเส้นความยากจน กลุ่มชาติพันธุ์สิงหลมีสัดส่วนมากที่สุดในศรีลังกา คิดเป็น 3 ใน 4 ของประชากรทั้งหมด รองลงมาเป็นศรีลังกาทมิฬ 11.1 เปอร์เซ็นต์ ชาวมุสลิม 9.3 เปอร์เซ็นต์ และทมิฬอินเดีย 4.1 เปอร์เซ็นต์
อ้างอิง
- Sri Lanka election: What's at stake after economic collapse?
https://www.dw.com/en/sri-lanka-election-whats-at-stake-after-economic-collapse/a-70281051
- Left-leaning leader wins Sri Lanka election in political paradigm shift
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)