Skip to main content
sharethis

ผู้เสียหายจากดิไอคอนกรุ๊ปในต่างประเทศส่งตัวแทนร้อง ปคบ. ดำเนินคดีกับผู้บริหาร หลังสมัครสมาชิกและสั่งสินค้าไปขายแต่กลับไม่ได้สินค้า รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 20 ล้านบาท - โฆษกรัฐบาล เผยนายกเข้มเอาจริงแก้ปัญหาหลอกลวงขายตรง กำชับ ตร.จัดช่องทางแจ้งความ-เบาะแส สั่ง ก.คลัง ตรวจสอบธุรกิจเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่

19 ต.ค. 2567 นายอิทธิเดช ธเนศวัฒนะ ตัวแทนผู้เสียหายชาวต่างชาตินำเอกสารบิลเงินสด การสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ ในเครือ บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด /รูปภาพร้านค้า ซึ่งมีการนำผลิตภัณฑ์ดังกล่าวไปจำหน่ายในต่างประเทศ และรูปภาพผู้เสียหายซึ่งถ่ายคู่กับนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ พอล มอบให้พ.ต.ท.ปริญญา ปาละ รองผู้กำกับการ (สอบสวน) กองกำกับการ 1 บก.ปคบ. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มผู้บริหารบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด

ตัวแทนผู้เสียหายชาวต่างชาติ เปิดเผยว่า ในวันนี้เดินทางมาในฐานะตัวแทนผู้เสียหายคนไทยและชาวต่างชาติในต่างประเทศ รวมกว่า 10 ประเทศ ประกอบด้วย จีน ฮ่องกง มาเก๊า อิตาลี เยอรมัน แคนาดา เอสโตเนีย และ ลักเซมเบิร์ก ซึ่ง กลุ่มผู้เสียหายส่วนใหญ่ไม่ได้ต้องการจะเข้ามาเป็นแม่ข่ายแต่ต้องการจะนำสินค้าไปขายจริง ๆ ซึ่งรูปแบบความเสียหาย คือการโอนเงินเพื่อชำระค่าสินค้าสำหรับนำไปจำหน่ายแต่กลับไม่ได้สินค้า และได้รับแจ้งจากผู้ค้าในประเทศไทยว่าให้รอสินค้าก่อนแต่เมื่อรอก็ยังไม่ได้รับ ซึ่งกลุ่มผู้เสียหายส่วนใหญ่เป็นกลุ่มแม่ค้าที่นิยมจะนำสินค้าไทยไปขายในต่างประเทศ และบังเอิญได้เห็นโฆษณาผ่าน Facebook ประกอบกับเห็นว่ามีบอสดาราร่วมอยู่ในบริษัททำให้เกิดความต้องการที่จะนำสินค้าดังกล่าวไปขายในต่างประเทศ รวมแล้วตอนนี้มีผู้เสียหายจากการนำสินค้าไปขายผู้เสียหายกว่า 40 คน แบ่งเป็นโซนเอเชีย 20 คน และ โซนยุโรป 20 คน โดยเป็นชาวต่างชาติ 4-5 คน นอกนั้นคือคนไทยที่อาศัยในต่างประเทศ รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 20 ล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมาพบกลุ่มผู้เสียหายบางคนเคยพบกับบอส พอลและบอสดาราที่ต่างประเทศ จึงทำให้เกิดความเชื่อมั่น

ทั้งนี้ ตัวแทนผู้เสียหาย ยังระบุว่า มีหนึ่งในผู้เสียหายซึ่งเป็นคนไทยในฮ่องกง ที่ได้ลงทุนสั่งสินค้าเป็นเงินกว่า 1 ล้านบาท โดยมีการสั่งซื้อผงโกโก้ กาแฟ ครีม คอลลาเจน ซึ่งหลังการสั่งสินค้าก็ได้รับสินค้าจริงแต่เป็นปริมาณที่ไม่ ตรงกับยอดสั่งซื้อ เมื่อพยายามติดต่อไปยังแม่ข่ายที่แนะนำ ก็ถูกปฏิเสธความรับผิดชอบ

นอกจาก คนไทยที่อยู่ในฮ่องกงแล้วยังพบว่า มีผู้เสียหาย ชาวจีนรวมถึง ชาวต่างชาติอีกหลายคนซึ่งส่วนใหญ่มีความกังวล เกี่ยวกับการติดตามดำเนินคดี เนื่องจากติดปัญหาเรื่องภาษาและค่าเดินทาง ซึ่งส่วนนี้อาจจะมีการมอบอำนาจให้ญาติหรือคนรู้จักในประเทศไทย เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนบก.ปคบ. ซึ่งการเข้าแจ้งความดังกล่าวกลุ่มผู้เสียหายก็คาดหวังว่าจะได้รับเงินคืน

ด้าน พ.ต.ท.ปริญญา ปาละ รองผู้กำกับการ (สอบสวน) กองกำกับการ 1 บก.ปคบ. เปิดเผยว่า คดีดังกล่าวเป็นคดีนอกราชอาณาจักร อาจจะต้องพิจารณาเชิญพนักงานอัยการมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายด้วย ซึ่งหลังจากรับเอกสารแล้ว ก็จะพิจารณาเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย โดยยืนยันว่าการแจ้งความสามารถดำเนินการแจ้งความได้ไม่มีกำหนด

โฆษกรัฐบาล เผยนายกเข้มเอาจริงแก้ปัญหาหลอกลวงขายตรง

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐ กล่าวในรายการ “เสียงจากใจ…ไทยคู่ฟ้า” ทางสถานีวิทยุแห่งประเทศไทย กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เรื่องการขายตรงและการขายสินค้าออนไลน์ ว่า ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดช่องทางให้ประชาชนสามารถแจ้งเบาะแสและแจ้งความได้อย่างรวดเร็ว โดยประสานโรงพักทั่วประเทศให้ดำเนินการอย่างรวดเร็ว กรณีที่มีประชาชนมาแจ้งความเรื่องความเสียหายการโดนหลอกลวงทางไซเบอร์

นอกจากนี้ ขอให้กระทรวงสาธารณสุขโดยเฉพาะสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ตรวจสอบป้องกันการนำเข้าสินค้าที่ไม่มีคุณภาพ ไม่มีมาตรฐานรับรองไปขายในระบบออนไลน์หรือการขายตรง พร้อมสั่งการให้กระทรวงการคลัง ตรวจสอบป้องกันการทำธุรกิจที่เข้าข่ายลักษณะแชร์ลูกโซ่

‘ชูศักดิ์’ แจงปมร้องพระเอี่ยวดิไอคอน เป็นเรื่องของ พศ.

นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีผู้ร้องนำหลักฐานคลิปวิดีโอขณะที่พระเมธีวชิโรดม หรือพระอาจารย์ ว.วชิรเมธี ไปเทศน์ที่บริษัทดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด มาแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับพระเมธีวชิโรดมในข้อหาสนับสนุนให้เกิดการฉ้อโกงประชาชน ว่า เป็นเรื่องของเขาให้เขาว่ากันไป

เมื่อถามว่า ได้มีการกำชับกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) อย่างไรบ้างเพราะดูเหมือนไม่ค่อยกล้าที่จะดำเนินการอะไร เนื่องจากอาจเป็นพระผู้ใหญ่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ตนก็บอกให้ผู้อำนวยการ พศ. ดูว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร และต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง ซึ่งไม่ใช่เรื่องกล้าหรือไม่กล้าอะไร แต่ตนเรียนไปแล้วว่าเป็นเรื่องของคณะสงฆ์ เพราะท่านเป็นพระ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ ก็มีองค์กรที่ดูแลอยู่ ซึ่งในส่วนของพศ.ก็ว่ากันมาว่ามีอะไรที่เกี่ยวข้อง

รมว.ดีอี ชี้มี กม.สอบเส้นเงินดิจิทัล ปมดิไอคอน

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งกำกับดูแลรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่กำกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) กล่าวถึงความคืบหน้าหลังแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคเกี่ยวกับธุรกิจออนไลน์ และได้ตั้งคณะอนุกรรมการมาตรวจสอบ ว่ายังไม่ได้มีการรายงานความคืบหน้า แต่ตนได้สั่งการให้คณะกรรมการมารายงานภายในสัปดาห์หน้า ซึ่งอยู่ระหว่างการทำงาน

ส่วนกรณีการโยกย้ายสกุลเงินดิจิทัล ทางกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จะดำเนินการได้อย่างไรบ้าง นายประเสริฐ ระบุว่า ได้ให้ทางสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. ติดตามตรวจสอบอยู่ ซึ่งเมื่อวาน (18 ต.ค.) ได้พูดคุยกัน พบว่ามีเส้นทางการเงินและมีบุคคลเกี่ยวข้องจำนวนมากนับได้หลักแสนคน เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ต้องใช้เวลา ยืนยันว่ากฎหมายของไทยสามารถไปถึงได้ ไม่ใช่เรื่องที่กฎหมายไปไม่ถึง เป็นการบังคับใช้กฎหมายตามข้อกล่าวหา เนื่องจากมีผู้เสียหายมาร้องทุกข์กล่าวโทษ พร้อมระบุว่าจะใช้เวลาไม่นานในการแกะเส้นทางการเงิน เพราะได้ทำงานร่วมกับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางด้วย ตนเชื่อว่าตำรวจเร่งดำเนินการอยู่ ส่วนคณะกรรมการหาข้อเท็จจริงที่เราตั้งขึ้นให้เวลา 30 วัน ก็เร่งทำงานอยู่เช่นเดียวกัน ทั้งคู่ต้องทำงานร่วมกัน และต้องมีการรายงานชี้แจงให้ประชาชนรับทราบ

เมื่อถามถึงเจ้าหน้าที่ใน สคบ. ที่มีส่วนในการให้บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จดทะเบียน จะมีการติดตามอย่างไร นายประเสริฐ บอกว่า ขอให้มีความชัดเจนว่าเป็นใคร ตอนนี้อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน ทั้งส่วนของ สคบ. และส่วนใดที่เกี่ยวข้องที่มีข่าวปรากฏก็ตามอยู่ รวมถึงส่วนที่เกี่ยวข้องกับกรรมาธิการด้วย

นอกจากนักการเมืองที่เป็นข่าวแล้ว ยังมีเพิ่มอีกหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า เรายังระบุไม่ได้ ต้องได้ข้อมูลที่เพียงพอก่อน เราต้องแกะเส้นทางการเงิน เพื่อเชื่อมโยงคนเกี่ยวข้องทั้งหมดด้วย

ส่วนกรณีที่มีรายชื่อเจ้าหน้าใน สคบ. ปรากฏตามข่าวว่าเกี่ยวข้องกับบริษัทดังกล่าวจะต้องสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ก่อนหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า เรื่องนี้ นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้กำกับดูแลตรงนี้ ตนคิดว่าท่านคงไม่ปล่อยให้เกิดความเสียหาย

ส่วนที่หลายฝ่ายกังวลว่าจะสืบไปไม่ถึงบิ๊กบอสที่เรียกว่าเทวดารายใหญ่ นายประเสริฐ ยืนยันว่า ไม่ต้องห่วง รัฐบาลให้ความมั่นใจ ถ้าสาวไปถึงใครไม่ว่าจะนักการเมือง ข้าราชการ เอกชน หรือดารารายใดก็ตามที่เกี่ยวข้อง คนนั้นต้องรับผิดชอบ ไม่ว่าจะอยู่ฝ่ายไหน และเชื่อว่าจะขยายไปถึงแม่ค่ายต่างๆ เราดำเนินการอยู่


ที่มาเรียบเรียงจาก: NBT Connext | สำนักข่าวไทย [1] [2] [3]



 

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net