เซลายาเผยอยากให้สหรัฐฯ ช่วยหนุนให้คืนตำแหน่ง หมายพบฮิลลารี่ โอบาม่าย้ำช่วยเซลายาเพราะเคารพหลักการสากลของการเลือกผู้แทน ไม่ใช่เพราะเห็นด้วย ด้านหัวหน้าขบวนการ เวีย คัมเปชินา เผย ผู้สนับสนุนเซลายายังมีกำลังใจ ไม่ยอมแพ้คณะรัฐประหาร
เซียวมารา คาสโตร เดอ เซลายา (Xiomara Castro de Zelaya) ภริยาของประธานาธิบดีมานูเอล เซลายา ระหว่างการแถลงข่าวในกรุงเตกูซิกัลปาเมื่อ 7 ก.ค. 52 โดยเธอได้ยังร่วมเดินขบวนกับผู้สนับสนุนนายเซลายาด้วย (ที่มา: Reuters/Daylife.com)
ผู้สนับสนุนประธานาธิบดีเซลายาหลายพันคน เดินขบวนในย่านใกล้กับทำเนียบประธานาธิบดี ในกรุงเตกูซิกัลปา เมื่อ 7 ก.ค. (ที่มา: Reuters/Daylife.com)
เซลายา บินไปสหรัฐฯ หมายพบฮิลลารี่ ระบุจะไม่เปิดเผยวันกลับประเทศอีก
หลังจากที่มานูเอล เซลายา ประธานาธิบดีฮอนดูรัสผู้ถูกทำรัฐประหารและหมายจะกลับประเทศ ไม่สามารถนำเครื่องบินลงจอดในประเทศตนเองได้ในวันที่ 5 ก.ค. ที่ผ่านมา เขาจึงได้เดินทางไปยังเอลซัลวาดอร์ ก่อนจะต่อเครื่องบินไปยังสหรัฐฯ เพื่อเข้าพบฮิลลารี่ คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ
เซลายากล่าวในการแถลงข่าวในคืนวันจันทร์ (6 มิ.ย.) ที่ผ่านมาว่า เขาหวังให้สหรัฐฯ สนับสนุนเขา โดยใช้ความสามารถทางการทูตในการทำให้เขากลับเข้าสู่ตำแหน่งได้อีกครั้ง
เขายังเปิดเผยอีกว่า เขาจะยอมล้มเลิกความตั้งใจที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งก่อนหน้านี้การแก้ไขรัฐธรรมนูญดังกล่าว เป็นสิ่งที่จะทำให้เซลายาสามารถดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีได้ต่ออีกสมัย
ทั้งนี้ เซลายาระบุด้วยว่า เขาจะไม่เปิดเผยวันเวลาที่จะกลับประเทศอีกเพื่อป้องกันการถูกกีดกั้นจากรัฐบาลชั่วคราวของฮอนดูรัส
ขณะที่เจ้าหน้าที่อาวุโสของสหรัฐฯ ออกมาระบุว่า มีทางเลือกหนึ่งเพื่อการตัดสินใจ คือพยายามสร้างการประนีประนอมระหว่างเซลายา มิเชลเลตตี และกองทัพฮอนดูรัส เพื่อจะทำให้ประธานาธิบดีผู้นี้สามารถกลับไปดำรงตำแหน่งจนครบวาระของเขาที่เหลืออยู่ 6 เดือนได้
โดยเจ้าหน้าที่อาวุโสของสหรัฐฯ ยังได้เปิดเผยอีกว่า ก่อนหน้านี้ทางการสหรัฐฯ ได้พยายามบอกให้เซลายาล้มเลิกความตั้งใจที่จะเดินทางโดยเครื่องบินไปลงยังท่าอากาศยานในกรุงเตกูซิกาลปา ซึ่งต่อมาทำให้เกิดการปะทะกันระหว่างผู้ชุมนุมกับทหารตำรวจขึ้น
ขณะเดียวกัน บารัค โอบาม่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก็ย้ำว่าจะพยายามช่วยเหลือให้เซลายากลับคืนสู่ตำแหน่งประธานาธิบดี แม้ว่าโอบาม่าจะชี้ว่าเซลายาเคยต่อต้านนโยบายของสหรัฐฯ อย่างหนักแน่นมาก่อน
"พวกเราไม่ได้ทำเช่นนี้เพราะว่าเห็นด้วยกับเขา แต่เพราะพวกเราทำเพราะเราเคารพในหลักการสากล ที่ว่าประชาชนควรมีสิทธิเลือกผู้นำของตนเอง ไม่ว่าผู้นำคนนั้นจะเป็นคนที่เราเห็นด้วยหรือไม่ก็ตาม" โอบาม่า กล่าว
ทางด้าน แดน อิริคสัน จากองค์กรวิเคราะห์และอภิปรายแลกเปลี่ยนทางการเมือง อินเตอร์อเมริกันไดอะลอก (Inter-American Dialogue) ซึ่งถือเป็นองค์กรมันสมองของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า แม้สหรัฐฯ จะแสดงความเป็นห่วงเรื่องสถานการณ์รัฐประหารในฮอนดูรัส แต่ขณะเดียวกันก็มีความกังวลในการช่วยเหลือให้เซลายากลับคืนสู่ตำแหน่ง
อิริคสันยังได้แสดงความเห็นอีกว่า การที่เซลายามาขอพบฮิลลารี่ คลินตัน ก็เพื่ออาศัยรัฐบาลโอบาม่าในการช่วยเหลือด้านประชาธิปไตย แต่ขณะเดียวกันมันก็เป็นโอกาสที่จะได้พูดคุยกับเซลายาอย่างตรงไปตรงมาถึงการกลับคืนสู่ตำแหน่งที่เซลายามีทางเลือกเหลืออยู่ริบหรี่
"การสนับสนุนของสหรัฐฯ อาจน้อยลงกว่านี้ก็ได้ หากรัฐบาลโอบาม่าเริ่มเชื่อว่าประธานาธิบดีฮอนดูรัสผู้นี้เป็นศัตรูตัวฉกาจของเขา และเป็นผู้ที่ไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นในการเป็นผู้นำของตนเองได้" อิริคสันกล่าว
หัวหน้าขบวนการชาวนาเผยผู้ชุมนุมยังมีกำลังใจ ไม่ยอมแพ้คณะรัฐประหาร
ในวันที่ 6 ก.ค. ที่ผ่านมา มีผู้ชุมนุมเดินขบวนประท้วงอย่างสงบหลายพันคน ที่หน้าที่ทำการประธานาธิบดี แต่ก็มีการแสดงความโกรธแค้นต่อกรณีที่มีชายวัยรุ่นคนหนึ่งถูกยิงเสียชีวิตในการปะทะกับทหารที่สนามบินเมื่อวันอาทิตย์ (5 ก.ค.) ที่ผ่านมา โดยราฟาเอล อัลเลเกรีย ผู้จัดตั้งการชุมนุมเปิดเผยว่าพวกเขาต้องจะต้องเปลี่ยนยุทธวิธี พวกเขาดำรงอยู่ในสภาพแบบนี้ไม่ได้แล้ว
ราฟาเอล ยังได้บอกอีกว่าผู้สนับสนุนเซลายาจะทำการต่อสู้ในระดับประเทศ โดยการปิดถนนทางหลวงสายหลัก และถนนข้ามพรมแดน เพื่อหยุดไม่ให้มีการขนส่งสินค้าและน้ำมัน
มีบางคนตะโกนด่าทหารที่หลบอยู่หลังโล่ว่า "ฆาตกร!" ขณะเดินขบวนผ่านหน้าที่ทำการประธานาธิบดี โดย AFP รายงานว่า ในครั้งนี้มีผู้ประท้วงน้อยกว่าวันที่เกิดเหตุปะทะที่สนามบิน
มีการทำศพเทียมที่ละเลงด้วยเลือดเทียมไปวางไว้ใต้ธงชาติฮอนดูรัสเพื่อแสดงให้เห็นว่ามีผู้เสียชีวิตรายแรกจากวิกฤติทางการเมืองในครั้งนี้แล้ว
โดย ฮวน บาราโฮนา หัวหน้าขบวนการชาวนา เวีย คัมเปชินา (Via Campesina) ในฮอนดูรัส เปิดเผยว่า "พวกเราจะยังคงชุมนุมต่อต้านอย่างสงบต่อไป แม้จะมีการปราบปราม" และยังได้บอกอีกว่าประชาชนยังคงมีกำลังใจที่จะต่อสู้กับคณะรัฐประหาร
ซึ่งทางสำนักข่าวของคิวบารายงานว่า หัวหน้าขบวนการชาวนาผู้นี้เป็นหัวเรือใหญ่ในการเดินขบวนของผู้สนับสนุนเซลายาที่สนามบินในวันอาทิตย์ (5 ก.ค.) ที่ผ่านมา และเขาได้แสดงความเสียใจที่การประท้วงดังกล่าวเป็นผลให้มีผู้เสียชีวิตสองราย และบาดเจ็บอีกหลายราย
บาราโฮนา ยังได้ประณามคณะรัฐประหารและเรียกพวกเขาว่าเป็นอาชญากรที่แท้จริง เขายังได้บอกอีกว่าการไม่ยอมให้เครื่องบินของของเซลายาลงจอดที่ท่าอากาศยานนั้นแสดงให้เห็นว่า "ผู้ที่ช่วงชิงอำนาจ" จากประธานาธิบดีไปนั้น ไม่ต้องการให้ประธานาธิบดีที่มีความชอบธรรมผู้นี้กลับประเทศ เพราะกลัวว่าหากเขากลับมาได้ เขาจะสามารถกลับคืนสู่ตำแหน่งร่วมกับประชาชนที่สนับสนุนเขาได้
ทางด้าน มานูเอล เซลายา ออกมาประกาศว่า จะไม่ปล่อยให้ผู้ที่ต้องรับผิดชอบกับการเสียชีวิตในเหตุประท้วงที่สนามบินลอยนวล โดยก่อนหน้านี้เซลายาเคยเรียกร้องให้มีการต่อต้านรัฐประหาร โดยทางอารยะขัดขืน, นัดหยุดงาน หรือ การเดินขบวนประท้วง
หัวหน้าพรรคเสรีนิยมเผยมิเชลเลตตีจะเป็นรัฐบาลถึงมกรา ปีหน้า
นายเซลายาถูกต่อต้านจากรัฐบาลทุกสายของฮอนดูรัสและกองทัพ เขายังกลายเป็นผู้ที่แปลกแยกจากพรรคของตนเอง จนทำให้ทางสภาลงมติโหวตให้ประธานสภาซึ่งอยู่พรรคเสรีนิยมเช่นเดียวกับเซลายาอย่างมิเชลเลตตีเป็นรักษาการประธานาธิบดี
จอร์จ อิลเลสกา (Jorge Illescas) หัวหน้าพรรคเสรีนิยมคนปัจจุบันระบุว่า มิเชลเลตตีจะดำรงตำแหน่งรัฐบาลอยู่ไม่นานนัก จนถึงเพียงแค่เวลาจะช่วยทำให้อะไรๆ ในฮอนดูรัสดีขึ้น ซึ่งเขาจะดำรงตำแหน่งอยู่ถึงเดือนมกราคมปี 2010 หลังจากที่มีการเลือกตั้งในเดือนกันยายนเท่านั้น
ที่มา แปลและเรียงเรียงจาก