Skip to main content
sharethis
กรุงเทพโพลล์ เผย สอบเข้าศึกษาต่อชั้น ม.1 ปีนี้ “ชื่อเสียงโรงเรียน” ถือเป็นเหตุผลส่วนใหญ่ของผู้ปกครองในการตัดสินใจพาลูกๆ ไปสอบ แต่หวังว่าการศึกษาในยุคไทยแลนด์ 4.0 ควรมีมาตรฐานเท่ากันทุกโรงเรียนและควรยกเลิกค่านิยมโรงเรียนดัง
 
4 เม.ย.2561 ช่วงนี้เป็นช่วงที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) มีกำหนดให้มีการสมัครสอบเข้าศึกษาต่อของนักเรียนชั้น ม.1 ซึ่งจะประกาศผลสอบและรายงานตัว วันนี้ (4 เม.ย.61) กรุงเทพโพลล์โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นเรื่อง “สอบเข้า ม.1 เด็กไทย...ค่านิยม กับ ความทุกข์ใจของผู้ปกครอง” โดยเก็บข้อมูลจากผู้ปกครองที่พาบุตรหลานไปสอบเข้าศึกษาต่อชั้น ม.1 ในโรงเรียนต่างๆ ของรัฐบาล ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมทั้งสิ้น 1,085 คน พบว่า เหตุผลที่ผู้ปกครองส่วนใหญ่ร้อยละ 65.3 ตัดสินใจเลือกโรงเรียนให้แก่บุตรหลานในการสอบเข้าศึกษาต่อชั้น ม.1 คือ ชื่อเสียงของโรงเรียน รองลงมาร้อยละ 63.7 ระบุว่าความสะดวกในการเดินทาง และร้อยละ 57.7 ระบุว่ามั่นใจในระบบการเรียนการสอน
 
สำหรับการเตรียมความพร้อมให้บุตรหลานเพื่อสอบเข้า ม.1 นั้น ผู้ปกครองส่วนใหญ่ร้อยละ 57.2 ระบุว่าให้อ่านหนังสือและซื้อแบบฝึกหัดเตรียมสอบมาหัดทำเอง รองลงมาร้อยละ 56.2 ระบุว่าให้เรียนพิเศษตั้งแต่ ป4-ป.5-ป.6 และร้อยละ 45.1 ระบุว่า พาไปสอบPre-test ม.1/ซ้อมสอบเสมือนจริงตามโรงเรียนต่างๆ
 
ส่วนเรื่องที่ผู้ปกครองส่วนใหญ่ร้อยละ 59.7 กังวลมากที่สุดในการสอบเรียนต่อระดับ ม.1 ของบุตรหลานในครั้งนี้ คือ อัตราการสอบแข่งขันสูง รองลงมาร้อยละ 13.5 คือกลัวลูกสอบไม่ติดและไม่มีโรงเรียนรัฐบาลรองรับ  และร้อยละ 10.7 คือกลัวลูกสอบไม่ติดแล้วต้องไปหาโรงเรียนเอกชนค่าเทอมแพง
 
เมื่อถามว่า อยากให้ระบบการสอบเข้า หรือ ศึกษาต่อระดับ ม.1 ของนักเรียนในประเทศไทยเป็นอย่างไร ผู้ปกครองส่วนใหญ่ร้อยละ 74.8 ระบุว่าควรมีการสอบคัดเลือก (โดยร้อยละ 27.7 ระบุว่าอยากให้มีการสอบมากกว่า 1 รอบ เพื่อให้โอกาสเด็ก รองลงมาร้อยละ19.2 ระบุว่าสอบคัดเลือก100% เหมือนสมัยก่อน  และร้อยละ 15.3 ระบุว่าให้สอบเหมือนปัจจุบันที่แบ่งสัดส่วนนักเรียนในพื้นที่กับนอกพื้นที่) ขณะที่ร้อยละ 25.2 ระบุว่าไม่ต้องมีการสอบคัดเลือก (โดยร้อยละ 11.4 ระบุว่าให้นักเรียนมีโอกาสเข้าเรียนได้ตามเขตพื้นที่  รองลงมาร้อยละ 10.6 ระบุว่ามีโรงเรียนและที่นั่งให้พอเพียงกับนักเรียน และร้อยละ 3.4 ระบุว่าให้ใช้การทดสอบวิธีการอื่นที่เหมาะสม)
 
ด้านองค์ประกอบของระบบการศึกษาไทยที่หวังและอยากให้บุตรหลานได้รับขณะศึกษาในยุคไทยแลนด์ 4.0 นั้น ผู้ปกครองส่วนใหญ่ร้อยละ 72.6 มีความเห็นว่าการเรียนการสอนควรมีมาตรฐานเท่ากันทุกโรงเรียน ไม่ควรมีการจัดระดับ/ควรยกเลิกค่านิยมโรงเรียนดัง รองลงมาร้อยละ 59.0 มีความเห็นว่าครู/อาจารย์ควรมีความทันสมัย เข้าใจหลักสูตร ไม่เอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง และร้อยละ 51.7 มีความเห็นว่ารัฐบาล/ผู้บริหารการศึกษาของประเทศให้ความสนับสนุนค่าเทอมค่าใช้จ่ายเพื่อสร้างโอกาสเท่าเทียมกันทางการศึกษา
 
 

รายละเอียดในการสำรวจ

วัตถุประสงค์ในการสำรวจ

         เพื่อสอบถามความคิดเห็นของผู้ปกครองที่พาบุตรหลานไปสอบเข้าศึกษาต่อชั้น ม.1  เกี่ยวกับเหตุผลที่พามาสอบ การเตรียมความพร้อมในการสอบ ความกังวลต่างๆ รวมถึงรูปแบบการเข้าศึกษาต่อชั้น ม.1และองค์ประกอบของระบบการศึกษาไทยที่คาดหวังและอยากให้ลูกหลานได้รับขณะที่ศึกษาในยุคไทยแลนด์ 4.0  ทั้งนี้เพื่อเป็นประโยชน์ต่อระบบการศึกษาและสังคมไทยโดยรวม

ระเบียบวิธีการสำรวจ

         การสำรวจใช้การสุ่มตัวอย่างผู้ปกครองที่พาบุตรหลานไปสอบเข้าศึกษาต่อชั้น ม.1 ในโรงเรียนต่างๆ ของรัฐบาล จำนวน 15 แห่ง ทั้งในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยสุ่มประชากรเป้าหมายที่จะสัมภาษณ์อย่างเป็นระบบ ได้กลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้น 1,085 คน

 ความคลาดเคลื่อน (Margin of Error)

          ในการประมาณการขนาดตัวอย่างมีขอบเขตของความคลาดเคลื่อน  ± 4% ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%

 วิธีการรวบรวมข้อมูล

          ใช้การสัมภาษณ์แบบพบตัว (Face-to-face Interview) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเป็นแบบสอบถาม

ที่มีโครงสร้างแน่นอน ประกอบด้วยข้อคำถามแบบเลือกตอบ (Check List Nominal) จากนั้นคณะนักวิจัยได้นำแบบสอบถามทุกชุดมาตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ก่อนบันทึกข้อมูลและประมวลผล

ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล    :  31 มีนาคม 2561

วันที่เผยแพร่ผลสำรวจ          :  4 เมษายน 2561

 

 
สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net