มูลนิธิผสานวัฒนธรรม และสมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชนออกแถลงการณ์ เรียกร้องยกเลิกการออกหมายเรียกบุคคลที่ใช้เสรีภาพเรียกร้องโดยสงบ กรณี ‘วันเฉลิม’ หน้าสถานทูตกัมพูชา เพื่อแสดงให้เห็นว่ารัฐไทยได้ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญและพันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศอย่างจริงจัง
ภาพนักกิจกรรมชุมนุมที่หน้าสถานทูตกัมพูชา เรียกร้องให้รัฐบาลไทยและกัมพูชามีความกระตือรือร้นในการสืบสวนกรณีการหายตัวไปของ ‘วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์’ เมื่อ 8 มิ.ย. 63 | แฟ้มภาพ: Banrasdr Photo
15 มิ.ย.2563 จากกรณีเมื่อวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา กลุ่มประชาชน เอ็นจีโอและนักศึกษาเดินทางไปสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชา ถนนประชาอุทิศ เพื่อเรียกร้องให้ทางการกัมพูชาติดตามตัว วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ผู้ลี้ภัยทางการเมืองไทย ที่ถูกกลุ่มชายพร้อมอาวุธนำตัวขึ้นรถสีดำออกไปจากบริเวณหน้าที่พักภายในประเทศกัมพูชาเมือช่วงเย็นของวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา ต่อมากลุ่มที่เดินทางไปเรียกร้องทั้ง 2 กลุ่มคือ สมยศ พฤกษาเกษมสุข และพวกรวม 6 คน และ ณัฐวุฒิ อุปปะและพวกรวม 4 คน ถูกตำรวจนครบาลวั
มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ออกแถลงการณ์แสดงความเห็นต่อการประทำของกลุ่มดังกล่าวว่า มิใช่เป็นการมั่วสุมหรือการ “ร่วมกันชุมนุม ทำกิจกรรม หรือกระทำการอันเป็นการยุยงให้
มูลนิธิฯ จึงขอเรียกร้องรัฐบาลไทย ดังต่อไปนี้ 1. ขอให้ยุติการดำเนินคดีทั้งหมดโดยทันที เนื่องจากการกระทำดังกล่าวถื
3. ขอให้ดำเนินการแก้ไข พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เพื่อให้ฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่
เช่นเดียวกับ สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน(สสส.) ออกแถลงการณ์ เรียกร้องให้ นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้กำกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจยกเลิกการออกหมายเรียกบุคคลที่ใช้เสรีภาพเรียกร้องโดยสงบ เพื่อแสดงให้เห็นว่ารัฐไทยได้ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญและพันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศอย่างจริงจัง
รายละเอียดแถลงการณ์ 2 องค์กรมีดังนี้
แถลงการณ์ เรื่อง ขอให้ยุติการใช้กฎหมายเพื่อปิดกั้นการใช้เสรีภาพเรียกร้องโดยสงบหน้าสถานทูตกัมพูชา ประจำประเทศไทย
ตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจนครบาลวังทองหลางได้ออกหมายเรียกนายสมยศ พฤกษาเกษมสุขกับพวกรวม 6 คน และนายณัฐวุฒิ อุปปะกับพวกรวม 4 คน ในข้อหาได้ร่วมกันชุมนุมทำกิจกรรม หรือกระทำการอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยที่ได้กระทำการฝ่าฝืนข้อกำหนดที่ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดบริหารราชการฉุกเฉิน พ.ศ.2548 นั้น
สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน(สสส.) เห็นว่าการออกหมายเรียกของเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าวไม่เป็นไปตามความมุ่งหมายในการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินครั้งนี้ เนื่องจากเป็นการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขที่มุ่งป้องกันและแก้ไขโรคระบาดไวรัสโควิด 19 เท่านั้น ข้อกำหนดดังกล่าวจึงไม่อาจใช้บังคับกับการไปเรียกร้องหน้าสถานทูตประเทศกัมพูชาเพื่อให้รัฐบาลกัมพูชาเร่งสืบสวนสอบสวนการถูกอุ้มหายของนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ เป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพในการแสดงออกโดยสงบตามรัฐธรรมนูญเพื่อปกป้องสิทธิในชีวิตและร่างกายนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ที่พลเมืองไทยถูกอุ้มหายในประเทศกัมพูชา ซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐหรือรัฐบาลไทยไม่เพียงแต่ไม่บังควรปิดกั้นขัดขวางการใช้เสรีภาพของกลุ่มประชาชนดังกล่าว หากยังต้องคุ้มครองการใช้เสรีภาพของกลุ่มประชาชนดังกล่าวอีกด้วย ซึ่งถือเป็นพันธหน้าที่ของรัฐตามรัฐธรรมนูญ อีกทั้งรัฐไทยต้องมีพันธกรณีต้องปฏิบัติตามกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง “บุคคลทุกคนมีสิทธิที่จะมีความคิดเห็นโดยปราศจากการแทรกแซง” และ “บุคคลทุกคนมีสิทธิในเสรีภาพแห่งการแสดงออก สิทธินี้รวมถึงเสรีภาพที่จะแสวงหา รับและ เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารและความคิดทุกประเภท โดยไม่คำนึงถึงพรมแดน ทั้งนี้ ไม่ว่าด้วยวาจาเป็นลายลักษณ์ อักษรหรือการตีพิมพ์ ในรูปของศิลปะ หรือโดยอาศัยสื่อประการอื่นตามที่ตนเลือก”
ดังนั้น สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน(สสส.) จึงขอให้นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้กำกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจยกเลิกการออกหมายเรียกบุคคลที่ใช้เสรีภาพเรียกร้องโดยสงบ เพื่อแสดงให้เห็นว่ารัฐไทยได้ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญและพันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศอย่างจริงจัง
สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน(สสส.)
15 มิถุนายน 2563
แถลงการณ์ เรื่อง ยุติการดําเนินคดีผู้ยื่นหนังสือเรียกร้อง กรณี ‘วันเฉลิม’ ที่หน้าสถานทูตกัมพูชา
วันที่ 11 มิถุนายน 2563 ตำรวจนครบาลวั
การชุมนุมดังกล่าวเป็นการรวมกลุ่
แม้จะมีกระแสเรียกร้
มูลนิธิผสานวัฒนธรรมเห็นว่า มิใช่เป็นการมั่วสุมหรือการ “ร่วมกันชุมนุม ทำกิจกรรม หรือกระทำการอันเป็นการยุยงให้
ทางมูลนิธิฯ จึงขอเรียกร้องรัฐบาลไทย ดังต่อไปนี้
1. ขอให้ยุติการดำเนินคดีต่
2. รัฐบาลจะต้องไม่ฉวยโอกาสใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ กลั่นแกล้งทางการเมืองต่อฝ่
3. ขอให้ดำเนินการแก้ไข พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เพื่อให้ฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่
4. ขอให้รัฐบาลไทยดำเนินการอย่
แถลงการณ์ ณ วันที่ 15 มิถุนายน 2563
มูลนิธิผสานวัฒนธรรม
กรุงเทพมหานคร