รวมกรณีวิจารณ์การจัดการวัคซีนโควิด-19 แล้วโดนดคี ม.112 

เมื่อ 13 พ.ค.64 สุทธิพงศ์ ทัดพิทักษ์กุล หรือฮาร์ท อดีตนักร้องชื่อดัง ถูกทนายสำนักนายกฯ แจ้งความ ม.112 และ พ.ร.บ.คอมฯ หลังโพสต์เฟซบุ๊ก วิจารณ์ปัญหาการผูกขาดวัคซีนโควิด-19

ไม่ใช่แค่กรณีของฮาร์ทที่ถูกแจ้ง ม.112 หากย้อนไปตั้งแต่ต้นปี พ.ศ.2564 มีประชาชน นักศึกษา และนักการเมืองฝ่ายค้าน ต้องถูกฟ้องดำเนินคดี เพียงแค่ออกมาวิจารณ์ และชี้ให้สังคมมองเห็นการจัดการวัคซีนโควิด-19 อันบิดเบี้ยวนี้ 

ประชาไทรวมกรณีวิจารณ์การจัดการวัคซีนโควิด-19 แล้วโดนดคี ม.112 ตั้งแต่เดือน ม.ค.64 จนถึงวันที่ 13 พ.ค.64 เพื่อให้เห็นว่า ใครบ้างที่ต้องถูกดำเนินคดี เพียงแค่ส่งเสียงชี้ให้สังคมเห็นถึงปัญหา  

 

18 ม.ค.64 : ‘ธนาธร’ กรณีไลฟ์อภิปราย หัวข้อ ‘วัคซีนพระราชทาน ใครได้-ใครเสีย’ 

หนึ่งในกรณีลำดับต้นๆ ที่ชี้ให้สังคมมองเห็นปัญหาการจัดการวัคซีนโควิด-19 ที่บิดเบื้ยวของรัฐไทย คือ การไลฟ์ถ่ายทอดสด หัวข้อ “วัคซีนพระราชทานใครได้ใครเสีย” โดย ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า เมื่อวันที่ 18 ม.ค.64

ไลฟ์ดังกล่าว ธนาธร อภิปรายเปิดเผยข้อมูลการจัดซื้อวัคซีนโควิด-19 ประเทศต่างๆ ที่เลือกซื้อจากหลากหลายผู้ผลิต ซึ่งต่างจากไทยที่เจรจาซื้อจากบริษัทแอสตราเซเนก้า และซิโนแวกเท่านั้น อีกทั้งยังจัดหามาช้าและไม่ครอบคลุมจำนวนประชากรที่เหมาะสม

ที่เป็นเช่นนี้ เพราะรัฐบาลต้องการเอื้อประโยชน์ให้ บ.เอกชนรายหนึ่ง ซึ่งก็คือ บ.สยามไบโอไซเอนซ์ ซึ่งมี ร.10 เป็นผู้ถือหุ้น เนื่องจากในสัญญาซื้อวัคซีนของแอสตราเซเนก้า มีการระบุ 'สัญญาจ้างผลิต' แก่สยามไบโอไซเอนซ์ อีกด้วย เพื่อที่จะนำวัคซีนที่ผลิตจาก บ.นี้มาแจกจ่ายให้ประชาชนทีหลัง ซึ่งถือเป็นการหาคะแนนนิยมให้สถาบันฯ ใช่หรือไม่ 

ธนาธร ยังทวงถามรัฐบาลเพิ่มว่า หากการทุ่มเลือกซื้อวัคซีนจากแอสตราเซเนก้า-ซิโนแวกแล้ว วัคซีนไม่ได้ประสิทธิผลอย่างที่คาดหวังหรือมาช้า สถาบันจะตกเป็นเป้าวิจารณ์จากประชาชน รัฐบาลนำโดยประยุทธ์ จะรับผิดชอบต่อชื่อเสียงของสถาบันอย่างไร 

สุดท้าย ธนาธร เสนอว่า "รัฐบาลจะต้องเจรจาหาวัคซีนให้เร็ว ให้ครอบคลุม ฉีดให้ประชาชนได้เร็วที่สุด ไม่ฝากความหวังไว้กับบริษัทใดบริษัทหนึ่งโดยเฉพาะ ไม่สร้างความนิยมทางการเมืองบนผลประโยชน์ของประชาชน การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะเร็วกว่านี้ ประเทศไทยจะอยู่ในสถานการณ์ที่ดีขึ้นกว่านี้" 

ต่อมา เมื่อ 21 ม.ค.64 ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบอำนาจให้ อภิวัฒน์ ขันทอง กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง ตามคดีอาญาที่ 21/64 ลงวันที่ 20 ม.ค. เอาผิด ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ 3 ข้อหา ได้แก่ ความผิด ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 ม.14 ความผิดฐานหมิ่นประมาท หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา 

อภิวัฒน์ อ้างว่า การไลฟ์ของธนาธร ที่ระบุว่า รัชกาลที่ 10 เป็นผู้ถือหุ้นบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ 100% และทำสัญญากับบริษัทแอสตราเซเนก้า เกี่ยวกับการผลิตวัคซีน จากนั้น ขายวัคซีนให้รัฐบาลนำไปฉีดให้ประชาชน ถือเป็นการหมิ่นประมาทกษัตริย์ โดยกล่าวหาว่ารัชกาลที่ 10 มีส่วนได้ส่วนเสียในเรื่องนี้ ทำให้ได้รับความเสียหาย 

ทั้งนี้ อภิวัฒน์ กล่าวต่อว่า วัคซีนดังกล่าวไม่ใช่วัคซีนพระราชทาน เพราะรัฐบาลเป็นผู้จัดซื้อมาให้ประชาชน ดังนั้น การกระทำของธนาธร ถือเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง และเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จ ถือเป็นการหมิ่นประมาทกษัตริย์ และนายกรัฐมนตรี 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

'ธนาธร' ไลฟ์อภิปรายหัวข้อ 'วัคซีนพระราชทานฯ : ใครได้-ใครเสีย?'

25 ม.ค.64 : เบนจา-เพนกวิน ทำกิจกรรม ‘กระชากหน้ากากไบโอไซเอนซ์’ วิจารณ์การผูกขาดวัคซีน

25 ม.ค.64 พริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน และเบนจา อะปัญ สองสมาชิกจากแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ทำกิจกรรม ‘กระชากหน้ากากไบโอไซเอนซ์’ หน้าตึกศรีจุลทรัพย์ โดยตึกนี้เป็นที่ทำการของบริษัทไบโอไซเอนซ์ ที่ได้รับการเลือกให้เป็นที่ผลิตวัคซีนโควิด-19 ของแอสตราเซเนก้าอีกด้วย

ทั้งสองปราศรัยชี้ถึงความไม่ชอบมาพากลของการจัดซื้อวัคซีนโควิด-19 จาก ซิโนแวก และแอสตราเซเนก้า และการที่รัฐบาลไทยให้สิทธิ์ บ.ไบโอไซเอนซ์ ผลิตวัคซีนโควิด-19  

จากนั้น ทั้งสองคนถูกแจ้งความจากกิจกรรมดังกล่าว โดย ระพีพงษ์ ชัยยารัตน์ เป็นผู้กล่าวหา ที่ สน.ปทุมวัน ซึ่งเบนจา อะปัญ เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกที่ สน.ปทุมวัน เมื่อวันที่ 11 มี.ค.64 ขณะที่เพนกวิน พ.ต.ท.เจริญสิทธิ์ จงอิทธิ รอง ผกก.(สอบสวน) สน.ปทุมวัน เดินทางไปแจ้งข้อกล่าวหาแก่เพนกวิน ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา 

ทั้งนี้ สองสมาชิกแนวร่วมฯ ถูกแจ้งข้อกล่าวหาด้วยกัน 4 ข้อหา ประกอบด้วย ม.112 ฝ่าฝืนข้อกำหนด พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ และ พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาฯ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

'เพนกวิน-เบนจา' ชูป้ายหน้า บ.สยามไบโอไซเอนซ์ วิจารณ์การแจกจ่ายวัคซีน

25 ม.ค.64 ตร. ออกหมายจับ ม.112 นศ. และประชาชนลำปาง จากกรณีป้าย ‘งบสถาบันกษัตริย์>วัคซีนCOVID19’ 

25 ม.ค.ที่ผ่านมา ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองลำปาง นักศึกษาและประชาชนในจังหวัดลำปาง รวม 5 ราย เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกในข้อหามาตรา 112 เหตุจากการแขวนป้ายผ้าที่มีข้อความ “งบสถาบันกษัตริย์>วัคซีนCOVID19” บริเวณสะพานรัษฎาภิเศก เมื่อวันที่ 30 ธ.ค.63

สำหรับผู้ถูกออกหมายเรียก 5 ราย ได้แก่ 1. พินิจ ทองคำ นักศึกษาวิทยาลัยสหวิทยาการ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์ลำปาง และสมาชิกกลุ่มพิราบขาวเพื่อมวลชน, 2. วรรณพร หุตะโกวิท บัณฑิตคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร และสมาชิกกลุ่ม NU-Movement, 3. ภัทรกันย์ แข่งขัน นักศึกษาคณะมนุษย์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง, 4. ยุพดี กูลกิจตานนท์ แม่ค้าในจังหวัดลำปาง และ 5. “หวาน” (นามสมมติ) นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์ลำปาง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

ตร. จับนศ. แอดมินเพจเชียงรายปลดแอก อ้างเอี่ยวป้าย 'งบสถาบัน>งบเยียวยาประชาชน' ผิด ม.112

26 ก.พ.64 : ตำรวจบุกจับนักศึกษา แอดมินเพจเชียงรายปลดแอก อ้างเอี่ยวป้าย 'งบสถาบัน>งบเยียวยาประชาชน' ผิด ม.112

 

26 ก.พ.64 ตำรวจ สภ.เชียงราย จับกุมนักศึกษาหญิงจากมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย และแอดมินเพจ 'Free Youth CEI- เชียงรายปลดแอก' ตามหมายจับ ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เนื่องจากเธอแชร์ภาพป้าย “งบสถาบัน>งบเยียวยาประชาชน” ซึ่งป้ายนี้ถูกแขวนอยู่ใกล้ภาพ ร.10 และตำรวจเชื่ออีกว่า เธอมีส่วนเกี่ยวข้องกับปฏิบัติการป้ายข้อความดังกล่าว 

แม้ว่าเธอไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรง แต่ก็ตกเป็นผู้ต้องหาจาก ม.112 เพียงแค่แชร์ป้ายข้อความที่มีเนื้อหาวิจารณ์การเยียวยาประชาชนของรัฐบาลช่วงโควิด-19 เท่านั้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

ตร. จับนศ. แอดมินเพจเชียงรายปลดแอก อ้างเอี่ยวป้าย 'งบสถาบัน>งบเยียวยาประชาชน' ผิด ม.112

30 มี.ค.64 : ตร.กาฬสินธุ์ แจ้งข้อหา ม.112 โตโต้ แกนนำกลุ่มวีโว่ เหตุทำป้ายไวนิลวิจารณ์การจัดหาวัคซีนโควิด-19 

โตโต้ กลุ่มวีโว่ (คนที่สองจากขวา) วันที่ได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำกาฬสินธุ์ (ที่มา ศูนย์ทนายเพื่อสิทธิมนุษยชน

30 มี.ค.64 คณะพนักงานสอบสวน ตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ เดินทางไปแจ้งข้อหาหมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ม.14(3) ต่อ ‘โตโต้’ ปิยรัฐ จงเทพ แกนนำกลุ่ม ‘We Volunteer’ หรือวีโว่ ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร จากกรณีจัดทำป้ายไวนิลติดประกาศวิพากษ์วิจารณ์การจัดหาวัคซีนโควิด-19 จำนวน 7 แผ่น และรูปป้ายแชร์บนเพจเฟซบุ๊กชื่อ “โตโต้ ปิยรัฐ -Piyarat Chongthep” และทวิตเตอร์ชื่อ “We Volunteer” 

ต่อมา เมื่อวันที่ 2 เม.ย.64 หลังปิยรัฐได้รับการปล่อยตัวที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ จากคดีอั้งยี่-ซ่องโจร โตโต้ถูกตำรวจอายัดตัวตามหมายจับของศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ที่ 76/2564 ข้อหา ม.112 และ พ.ร.บ.คอมฯ จากกรณีป้าย #หาวัคซีนให้วัง โดยถูกพาตัวไปที่ สภ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ในช่วงกลางคืน และวันที่ 3 เม.ย.64 ศาล จ.กาฬสินธุ์ อนุญาตฝากขังแกนนำวีโว่ที่เรือนจำกาฬสินธุ์  

ทั้งนี้ โตโต้ ได้รับอนุญาตประกันตัวในขั้นตอนพิจารณาคดี เมื่อวันที่ 5 พ.ค. หลังถูกฝากขังที่เรือนจำกาฬสินธุ์นาน 33 วัน โดยต้องวางเงิน 2 แสนบาท พร้อมติดกำไร EM บริเวณข้อเท้า และมีเงื่อนไข ห้ามทำกิจกรรมเสื่อมเสียต่อสถาบันกษัตริย์ และเดินทางออกนอกประเทศ 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ให้ประกันปุ๊บ ออกหมายจับปั๊บ! อายัดตัว 'โตโต้' ไปกาฬสินธุ์ คดี 112 วิจารณ์วัคซีน

โตโต้ ได้รับประกันตัว วางเงิน 2 แสน มีเงื่อนไขห้ามทำกิจกรรมเสื่อมเสียสถาบัน

13 พ.ค.64 : อดีตนักร้องดัง ‘ฮาร์ท’ ถูกแจ้ง ม.112 ปมวิจารณ์ผูกขาดวัคซีนโควิด-19 บนเฟซ

สุทธิพงศ์ ทัดพิทักษ์กุล หรือฮาร์ท อดีตนักร้องและพิธีกรชื่อดัง

กรณีสุดท้าย และล่าสุด คือ 13 พ.ค.64 ที่ สน.นางเลิ้ง เสกสกล อัตถาวงศ์ หรือแรมโบอีสาน อภิวัฒน์ ขันทอง กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และทนายความประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.อธิชย์ ดอนนันชัย รองผู้กำกับสอบสวน สน.นางเลิ้ง เพื่อแจ้งความในคดีประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 แก่ สุทธิพงศ์ ทัดพิทักษ์กุล หรือฮาร์ท อดีตนักร้องและพิธีกรชื่อดัง พร้อมนำเอกสารหลักฐาน ข้อความการโพสต์มามอบให้พนักงานสอบสวน 

ทั้งนี้ ข้อความที่เป็นประเด็นนั้น มาจากการโพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊กของฮาร์ท ที่ระบุว่า "ยาเจ้านายขายไม่ออก สต๊อคไม่เคลื่อนที่ ลิ่วล้อต้องออกมาช่วยเรื่องการตลาด (ผมไปก๊อปคนอื่นเขามาอีกที)" พร้อมติดแฮชแท็กว่า "#ผูกขาดวัคซีนนี่ถ้าไม่เหี้ยมจริงทำไม่ได้นะ"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

ทนายนายกฯ แจ้งความ ม.112 'ฮาร์ท' กรณีโพสต์วิจารณ์ ผูกขาดวัคซีนโควิด-19

หมายเหตุ ประชาไทมีการปรับเปลี่ยนรูปภาพมาเป็นรูปปัจจุบัน เมื่อเวลา 13.20 น. วันที่ 17 พ.ค.64  

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท