สภาสหภาพแรงงานสหราชอาณาจักร (TUC) เรียกร้องให้รัฐบาลรับประกันสิทธิการทำงานที่ยืดหยุ่นให้กับคนทำงานทุกคน ในงานทุกประเภทอย่างเท่าเทียม ไม่เช่นนั้นจะมีการแบ่งชนชั้นใหม่ระหว่าง 'คนทำงานที่บ้าน-คนทำงานที่ทำงาน'
13 ก.ค. 2564 ตามที่นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ ระบุว่าจะมีการปลดล็อกมาตรการล็อกดาวน์วันที่ 19 ก.ค. 2564 นี้ ซึ่งจะครอบคลุมการยกเลิกการบังคับสวมหน้ากากอนามัยภายในอาคาร แต่ให้ทำตามความสมัครใจ การใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม 1 เมตร หากไม่สามารถทำได้ในระยะ 2 เมตร รวมทั้งยกเลิกข้อกฎหมายว่าด้วยการจำกัดจำนวนคนที่พบกันในอาคารและนอกอาคาร จากที่กำหนดให้คนที่ไม่ได้อาศัยอยู่บ้านหลังเดียวกันสามารถพบปะกันในร่มได้ไม่เกิน 6 คน ยกเลิกการจำกัดจำนวนผู้เข้าชมคอนเสิร์ต ละครเวที และการแข่งขันกีฬา ธุรกิจทุกประเภทจะกลับมาเปิดได้ตามปกติได้นั้น
สภาสหภาพแรงงานสหราชอาณาจักร (TUC) ได้ระบุว่าเมื่อคำแนะนำการทำงานจากที่บ้านสิ้นสุดลง นายจ้างต้องยอมรับว่าการกลับเข้ามาทำงานยังออฟฟิศอาจจะยังไม่เหมาะสมกับพนักงานทุกคน พวกเขาควรปรึกษาพนักงานและสหภาพแรงงานเกี่ยวกับความยืดหยุ่นอย่างต่อเนื่องในรูปแบบการทำงานและสถานที่ เช่นอาจจะมีพนักงานบางรายที่สมัครใจทำงานที่บ้านต่อ
TUC ระบุว่าการทำงานที่ยืดหยุ่นไม่ได้เกี่ยวกับการทำงานที่บ้านเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่อาจหมายถึงการมีชั่วโมงที่คาดการณ์ได้ หรือพนักงานกำหนดชั่วโมงการทำงานเองได้
"พนักงานทุกคนควรเข้าถึงสิทธิในการทำงานที่ยืดหยุ่น รัฐบาลต้องรับประกันสิทธิในการทำงานที่ยืดหยุ่นให้กับคนทำงานทุกคน ในงานทุกประเภท อย่างเท่าเทียม ไม่เช่นนั้นจะมีการแบ่งชนชั้นใหม่ระหว่างผู้ที่สามารถทำงานจากที่บ้านได้อย่างคล่องตัว กับผู้ที่ไม่สามารถทำได้" TUC ระบุ
ทั้งนี้จากผลสำรวจของ TUC ที่เผยแพร่เมื่อเดือน มิ.ย. 2564 พบว่า
- คนทำงาน 4 ใน 5 (ร้อยละ 82) ระบุว่าพวกเขาต้องการทำงานที่ยืดหยุ่นในอนาคต
- แต่มีพนักงานเพียงครึ่งเดียว (54%) ที่บอกว่าพวกเขามีสิทธิในงานทำงานที่ยืดหยุ่น เช่นการขอเปลี่ยนแปลงชั่วโมงทำงานปกติให้สอดคล้องกับภาระผูกพันอื่น ๆ
- คนทำงานในอาชีพที่มีรายได้สูงมีแนวโน้มที่จะทำงานจากที่บ้านในช่วงการระบาดใหญ่ (ร้อยละ 60) มากกว่าคนงานในชนชั้นแรงงาน (ร้อยละ 23)
ที่มาเรียบเรียงจาก
TUC calls for right to work flexibly to be extended as people urged to return to the office (7 July 2021)