อัยการเลื่อนฟังคำสั่งฟ้อง 'โตโต้ ปิยรัฐ' ในคดี ม.112 ปมโพสต์เฟซบุ๊กวิจารณ์การใช้ภาษีของสถาบันกษัตริย์เมื่อปีที่แล้วออกไปเป็น 30 พ.ย. นี้ หลังทนายความยื่นใบรับรองแพทย์แจ้งว่าป่วยอยู่ในโรงพยาบาล ขณะที่ศาลมีคำสั่งเลื่อนสืบพยานคดี #ม็อบ14พฤศจิกา เมื่อปีที่แล้วของ 'เพนกวิน' ออกไปเป็น ม.ค. ปีหน้า เหตุอาการหอบหืดกำเริบ ปวดหัว อ่อนเพลียจนไม่สามารถเดินทางมาศาลได้

24 พ.ย. 2564 วันนี้ (24 พ.ย. 2564) เวลาประมาณ 10.00 น. จากไลฟ์ของ The Reporters ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ทนายความของปิยรัฐ จงเทพ หรือโตโต้ อดีตผู้อำนวยการกองงานมวลชนอาสา (WeVo) กล่าวว่าสำนักงานอัยการพิเศษ ฝ่ายคดีอาญา 8 นัดหมายปิยรัฐให้เข้ารับฟังคำสั่งฟ้องคดี ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ จากกรณีโพสต์เฟซบุ๊กพาดพิงการใช้เงินภาษีของสถาบันกษัตริย์เมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 2563 แต่ปิยรัฐได้แจ้งกับทนายความว่าวันนี้ตนป่วยจึงไม่สามารถเข้ารับฟังคำสั่งของอัยการได้ ด้วยเหตุนี้ ปิยรัฐจึงได้มอบหมายให้ทนายความมาดำเนินการยื่นเอกสารขอเลื่อนรับฟังคำสั่งอัยการออกไปก่อน พร้อมแนบใบรับรองแพทย์เพื่อยืนยันว่าป่วยจริง โดยทนายความของปิยรัฐแจ้งว่าอัยการจะใช้เวลาดำเนินการตรวจสอบและพิจารณาเอกสารคำร้องเลื่อนฟังคำสั่งให้เสร็จสิ้นภายในเวลาราชการวันนี้ คาดว่าจะทราบผลไม่เกิน 16.00 น.

“ถ้าหากการยื่นคำร้องมีเหตุสมควร มีเหตุจำเป็น ป่วยจริง มีใบรับรองแพทย์ ในทางปฏิบัติก็อาจจะใช้ดุลยพินิจในการเลื่อน ซึ่งส่วนนี้ผมไม่ก้าวล่วง ต้องให้[อัยการ]เจ้าของสำนวนเขาดูก่อน แต่ถ้าหากไม่ดำเนินการตามระเบียบ ตามขั้นตอน ก็คือบอกว่าไม่ได้ยื่นคำร้องเป็นกิจลักษณะ ไม่ได้ยื่นคำร้อง ไม่มีใบรับรองแพทย์ กล่าวอ้างลอยๆ ทางพนักงานอัยการก็อาจจะมองว่าเป็นการประวิงคดี เป็นเรื่องที่ไม่มีเหตุผลสมควร ถ้ากรณีอย่างนี้ก็อาจจะใช้ดุลยพินิจไม่ให้เลื่อน โดยแจ้งพนักงานสอบสวนให้ไปนำตัวมาเพื่อฟังคำสั่งฟ้อง ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าจะฟ้องหรือไม่ฟ้อง เพราะวันนี้เป็นการนัดฟังคำสั่ง” ทนายความของปิยรัฐ กล่าว

ทนายความกล่าวเพิ่มเติมว่าในกรณีที่อัยการมีความเห็นสั่งฟ้อง พนักงานสอบสวนจะต้องไปนำตัวปิยรัฐมาดำเนินคดี แต่หากนำตัวมาไม่ได้ก็จะต้องออกหมายจับ ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย ทั้งนี้ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานเพิ่มเติมผ่านทวิตเตอร์ว่าปิยรัฐมีอาการท้องเสีย หน้ามืด ความดันสูง จนต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาล ทนายความจึงได้ยื่นหนังสือขอเลื่อนนัด พร้อมแนบใบรับรองแพทย์ แต่อัยการยังไม่ยอมรับหนังสือดังกล่าว

ต่อมาเวลา 15.26 น. ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่าอัยการมีคำสั่งเลื่อนการฟ้องคดี ม.112 ของปิยรัฐ ไปเป็นวันที่ 30 พ.ย. 2564 แทน โดยให้ยื่นหนังสือและใบรับรองแพทย์ถึงอาการป่วยที่เกิดขึ้น

ล่าสุดอัยการให้เลื่อนการฟ้องคดี #ม112 ของ "โตโต้" ปิยรัฐ จงเทพ ไปเป็นวันที่ 30 พ.ย. 64 แทน โดยให้ยื่นหนังสือและใบรับรองแพทย์ถึงอาการป่วยที่เกิดขึ้น

— TLHR / ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน (@TLHR2014) November 24, 2021

สำหรับคดีโพสต์เฟซบุ๊กพาดพิงการใช้เงินภาษีของสถาบันกษัตริย์ของปิยรัฐเมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 2563 นั้น มีนพดล พรหมภาสิต ประธานศูนย์ช่วยเหลือด้านกฎหมายผู้ถูกล่วงละเมิดบูลลี่ทางสังคมออนไลน์ (ศชอ.) และอดีตรองประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย เป็นผู้แจ้งความร้องทุกข์เมื่อวันที่ 1 ม.ค. 2564 โดยศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่าปิยรัฐและทนายความได้เดินทางเข้ารายงานตัวต่อพนักงานสอบสวนที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท) แล้วในวันที่ 27 พ.ค. 2564) เวลา 10.30 น.

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนเปิดเผยข้อความโดยสังเขปในสำนวนคดีที่พนักงานสอบสวนเป็นผู้แจ้งความผิดดังกล่าวต่อปิยรัฐ ซึ่งระบุว่าเมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 2563 เฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า ‘โตโต้ ปิยรัฐ – Piyarat Chongthep’ ได้ปรากฎข้อความทำนองวิจารณ์การทำงานที่บกพร่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจชายแดน เป็นเหตุให้เชื้อโควิดแพร่ระบาดเข้ามาในประเทศ ส่งผลให้เศรษฐกิจพัง รวมถึงประณามการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สลายกิจกรรมการขายกุ้งของกลุ่มวีโว่ ซึ่งข้อความบางส่วนได้พาดพิงถึงการใช้เงินภาษีของพระมหากษัตริย์

บันทึกแจ้งข้อกล่าวหาระบุว่า การโพสต์ข้อความดังกล่าวข้างต้น เป็นการนําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อความที่มีลักษณะเป็นการหมิ่นประมาท และดูหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นการดูหมิ่นพระเกียรติ และหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ทั้งนี้ โดยประการที่น่าจะทําให้สถาบันพระมหากษัตริย์เสื่อมเสียพระเกียรติยศ เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น และถูกเกลียดชัง โดยเจตนาทําให้ประชาชนเสื่อมศรัทธา ไม่เคารพสักการะ ซึ่งองค์พระมหากษัตริย์ ทรงดํารงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะผู้ใดจะละเมิดมิได้

พนักงานสอบสวนจึงแจ้ง 2 ข้อกล่าวหาต่อปิยรัฐ ได้แก่ ข้อหา “หมิ่นประมาทกษัตริย์” ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3)

ศาลเลื่อนไต่สวนคดี Mob Fest ของ ‘เพนกวิน’ เป็นปีหน้าเพราะปัญหาสุขภาพ

ขณะเดียวกันในวันนี้ (24 พ.ย. 2564) ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่าเมื่อเวลา 10.40 น. ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลมีคำสั่งเลื่อนนัดสืบพยานคดีการปราศรัยของพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน ในการชุมนุมม็อบเฟส เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 2563 จากเดิมที่มีกำหนดนัดสืบพยานในวันนี้ ออกไปเป็นวันที่ 27 ม.ค. 2565 แทน เนื่องจากทนายความของพริษฐ์แจ้งว่าพริษฐ์ไม่สามารถเดินทางมาศาลได้ เพราะอาการหอบหืดกำเริบ ปวดหัว อาเจียนและอ่อนเพลีย โดยทนายความขอให้ศาลสั่งให้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ต้องตรวจหาเชื้อโควิด-19 แก่จำเลยด้วยวิธี RT-PCR ก่อนเดินทางมาศาลตามนัดหมายครั้งหน้า

สำหรับคดีการปราศรัยในการชุมนุมม็อบเฟสเมื่อวันที่ 14 พ.ย. ปีที่แล้ว บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยนั้น ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่าอัยการยื่นฟ้องพริษฐ์ในฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112, มาตรา 116, ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และใช้เครื่องเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต

พริษฐ์ถูกคุมขังระหว่างพิจารณาคดีนี้และคดีชุมนุม #19กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร มาเป็นระยะเวลารวม 92 วัน (ราว 3 เดือน) หลังศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว แม้ยื่นประกันถึง 10 ครั้ง และยื่นอุทธรณ์คำสั่งไม่ให้ประกันอีก 2 ครั้ง โดยพริษฐ์เพิ่งได้รับการปล่อยตัวในวันที่ 11 พ.ค. 2564 หลังวางเงินประกัน 200,000 บาท พร้อมรับเงื่อนไขห้ามกระทำเสื่อมเสียต่อสถาบันกษัตริย์ ห้ามเข้าร่วมการชุมนุมที่ก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง และห้ามเดินทางออกนอกประเทศ อย่างไรก็ตาม พริษฐ์ถูกคุมขังอีกครั้งหลังเข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อวันที่ 8 ส.ค. ที่ผ่านมา ในคดีสาดสีหน้า ตชด. ภาค 1 จากการจัดกิจกรรม #ม็อบ2สิงหา เมื่อวันที่ 2 ส.ค. 2564 ซึ่งหากนับจากการเข้ามอบตัวครั้งล่าสุด พริษฐ์ถูกคุมขังมาแล้วกว่า 3 เดือน