เจ้าของผลงาน 'เสาแห่งความอัปยศ' เตรียมเรียกค่าเสียหายจากมหาวิทยาลัยฮ่องกง ฐานทำลายสมบัติส่วนตัว

 

เจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยฮ่องกงเข้าล้อมรั้วและรื้อถอน 'เสาแห่งความอัปยศ' (Pillar of Shame) ประติมากรรมซึ่งเป็นอนุสรณ์รำลึกเหตุการณ์สังหารหมู่ที่จัตุรัสเทียนอันเหมินในปี 2532 ด้าน เยนส์ กัลชุท (Jens Galschiøt) ประติมากรชาวเดนมาร์กผู้สร้างประติมากรรมชิ้นนี้กล่าวว่าจะเรียกร้องค่าเสียหายจากทางมหาวิทยาลัย เพราะผลงานชิ้นนี้ถือเป็นสมบัติส่วนตัวของเขา

24 ธ.ค. 2564 Hong Kong Free Press (HKFP) รายงานว่าเมื่อวันที่ 22 ธ.ค. 2564 เวลาประมาณ 23.00 น. เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของมหาวิทยาลัยฮ่องกง (HKU) นำม่านและแผ่นพลาสติกมาปิดล้อมบริเวณประติมากรรม "เสาแห่งความอัปยศ" (Pillar of Shame) ซึ่งตั้งอยู่ภายในมหาวิทยาลัย และนำประติมากรรมนี้ออกจากที่ตั้งเดิมโดยไม่มีการแจ้งเหตุผลใดๆ ทั้งนี้ ประติมากรรมดังกล่าวสร้างขึ้นเป็นอนุสรณ์เพื่อรำลึกถึงผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์สังหารหมู่ที่จัตุรัสเทียนอันเหมินกลางกรุงปักกิ่งเมื่อ 32 ปีที่แล้ว

อัลวิน หลัม จากซิติเซนนิวส์ รายงานว่าคณะผู้บริหารของมหาวิทยาลัยฮ่องกงมีมติเห็นชอบให้รื้อถอนประติมากรรม 'เสาแห่งความอัปยศ' เพราะถูกกดดันจากหน่วยงานรัฐของจีนแผ่นดินใหญ่ที่ตั้งอยู่ในฮ่องกง นอกจากนี้ ซูซิงฉี (Xinqu Su) ผู้สื่อข่าวของสำนักข่าว AFP ประจำฮ่องกงยังรายงานว่าเจ้าหน้าที่ที่เข้ามารื้อถอนประติมากรรมดังกล่าวปิดหน้าต่างของอาคารที่หันเข้าสู่รูปปั้นนี้เพื่อป้องกันไม่ให้คนเห็นการรื้อถอน และการรื้อถอนยังทำในช่วงเทศกาล ซึ่งเป็นช่วงหยุดการเรียนการสอน และไม่มีนักศึกษาเข้ามาที่มหาวิทยาลัย

'เสาแห่งความอัปยศ' เป็นผลงานของ เยนส์ กัลชุท (Jens Galschiøt) ประติมากรชาวเดนมาร์ก สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2540 เพื่อรำลึกเหตุการณ์สังหารหมู่ประชาชนที่จัตุรัสเทียนอันเหมินปี 2532 ซึ่งเหตุการณ์เป็นเหตุการณ์รัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่พยายามปิดบังและพยายามลบจากประวัติศาสตร์มาโดยตลอด แม้ว่าประติมากรรมนี้ตั้งอยู่ในมหาวิทยาลัยฮ่องมาเป็นเวลามากกว่า 20 ปีแล้ว แต่ในเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา ผู้บริหารมหาวิทยาลัยกลับมีคำสั่งให้รื้อถอนประติมากรรมดังกล่าวออกจากพื้นที่ของมหาวิทยาลัย ซึ่งการสั่งให้รื้อถอน 'เสาแห่งความอัปยศ' ถือเป็นส่วนหนึ่งของการพยายามปราบปรามการรำลึกประวัติศาสตร์เทียนอันเหมินจากทางการจีน

เยนส์ กัลชุท (ภาพจากเฟซบุ๊ก Jens Galschiøt Official)
 

กัลชุท เจ้าของผลงานกล่าวว่า "ผมรู้สึกตกใจมากที่มหาวิทยาลัยฮ่องกงกำลังทำลาย 'เสาแห่งความอัปยศ'... ประติมากรรมนี้เป็นทรัพย์สินส่วนบุคคล และมันเป็นของส่วนตัวของผม... ผมจะเรียกร้องเงินชดเชยค่าเสียหาย หากเกิดความเสียหายใดๆ ขึ้นกับประติมากรรมนี้"

"เป็นเรื่องน่าอัปยศและเป็นการกระทำเลวร้ายที่แสดงให้เห็นว่าฮ่องกงกลายเป็นที่ที่โหดร้าย ไร้ซึ่งกฎหมายคุ้มครองประชาชนของตัวเอง ไม่มีการคุ้มครองศิลปะและทรัพย์สินส่วนบุคคล... และที่พิลึกหนักกว่านั้นคือพวกเขาทำลายงานศิลปะในวันหยุดตามเทศกาลตะวันตกอย่างวันคริสต์มาสนี่แหละ" กัลชุทกล่าวเสริม

อาเทอร์ ลี ประธานสภามหาวิทยาลัยฮ่องกง และสมาชิกผู้บริหารสูงสุดและคณะรัฐมนตรีเขตบริหารพิเศษฮ่องกง กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า [มหาวิทยาลัย]ไม่แน่ใจว่าเจ้าของงานศิลปะชิ้นนี้คือใคร และกำลังสืบสวนเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม กัลชุทบอก HKFP ว่าเขาแจ้งผ่านทีมกฎหมายของตนเองไปยังมหาวิทยาลัยฮ่องกงอยู่ตลอดว่าเขาเป็นเจ้าของผลงานชิ้นนี้ แแต่ทางมหาวิทยาลัยกลับเพิกเฉยต่อเรื่องนี้

เยนส์ กัลชุท พร้อมด้วยอาจารย์และนักศึกษามหาวิทยาลัยฮ่องกงเมื่อปี 2013
ขณะถ่ายรูปกับประติมากรรม 'เสาแห่งความอัปยศ' (ภาพจากเฟซบุ๊ก Jens Galschiøt Official)
 

HKFP รายงานเพิ่มเติมว่ากัลชุทระบุในจดหมายเปิดผนึกเมื่อเดือน พ.ย. 2564 ที่ส่งถึงมหาวิทยาลัยและทีมทนายความของเขาในฮ่องกงว่า "ผมเชื่อว่าเป็นเรื่องสำคัญที่จะรักษาประวัติศาสตร์ของประเทศเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นประเทศใดก็ตาม ดังนั้น ผมจึงได้รู้สึกเสียใจที่ประติมากรรมของผม ซึ่งเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงเหตุการณ์จัตุรัสเทียนอันเหมินในจีนปี 2532 ไม่ได้รับการต้อนรับอีกต่อไป"

ทั้งนี้ ช่วงเช้าของที่ 23 ธ.ค. ที่ผ่านมา คีธ ริชเบิร์ก (Keith Richburg) อดีตนักข่าวชาวอเมริกันของเดอะวอชิงตันโพสต์ ซึ่งปัจจุบัน ดำรงตำแหน่งหัวหน้าภาควิชาวารสารศาสตร์ของมหาวิทยาลัยฮ่องกงระบุในทวิตเตอร์สั้นๆ ว่า "อย่าทำแบบนี้!" ซึ่งหมายถึงห้ามรื้อถอนประติมากรรมดังกล่าวออกจากพื้นที่มหาวิทยาลัย

เหตุการณ์สังการหมู่ที่จัตุรัสเทียนอันเหมินเกิดขึ้นในวันที่ 4 มิ.ย. 2532 โดยรัฐบาลจีนวางกำลังกองทัพปราบปรามผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยและความเป็นธรรมทางเศรษฐกิจในกรุงปักกิ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก และอาจมีผู้เสียชีวิตมากถึงหลายพันราย

เรียบเรียงจาก:

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท