Skip to main content
sharethis

นักเรียน ม.ปลาย วัย 17 ปี ใน อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ ถูกตำรวจ สภ.หนองกี่ เรียกไปลงนามทำข้อตกลง “ห้ามจัดกิจกรรมระหว่างมีขบวนเสด็จฯ” ของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จฯ ผ่านเขต อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ ในวันนี้ (5 ม.ค. 2565) อ้างเป็น "บุคคลต้องระวัง" ด้านเจ้าตัวเผยไม่มีแผนจัดกิจกรรมใดๆ ชี้ ตำรวจกลัวเกินเหตุ

5 ม.ค. 2565 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานเมื่อวันที่ 3 ม.ค. ที่ผ่านมาว่ากันตพัฒน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 17 ปี นักเรียนชั้นมัธยมปลายของโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ ถูกตำรวจ สภ.หนองกี่ เรียกให้เข้าพบและขอให้ลงชื่อในบันทึกประจำวันเพื่อทำข้อตกลงรับทราบว่าเขาจะไม่ทำกิจกรรมใดๆ ในวันที่ 5 ม.ค. 2565 ซึ่งจะมีขบวนเสด็จฯ ของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จฯ ผ่านเขต อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ โดยศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนระบุเพิ่มเติมว่าก่อนหน้านี้ 2-3 วัน ตำรวจยังเฝ้าติดตามกันตพัฒน์ถึงที่บ้านอีกด้วย

กันตพัฒน์เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวประชาไทวันนี้ (5 ม.ค. 2565) ว่าเมื่อวันที่ 2 ม.ค. 2565 มีตำรวจนายหนึ่งโทรศัพท์มาหาตน และขอให้ตนไม่ทำกิจกรรมใดๆ ในวันนี้ เนื่องจากขบวนเสด็จฯ ของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จฯ ผ่านเขต อ.หนองกี่ ไปยังโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนใน อ.ละหานทราย และ อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ นอกจากนี้ ตำรวจยังได้เรียกตัวกันตพัฒน์ให้ไปลงชื่อในบันทึกประจำวัน เพื่อเป็นหลักฐานว่าจะไม่ทำกิจกรรมใดๆ ระหว่างมีขบวนเสด็จฯ และต้องยินยอมให้ตำรวจโทรศัพท์ติดตามว่าตนทำอะไร อยู่ที่ไหน ตลอดช่วงวันที่ 3-5 ม.ค. 2565 อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง

กันพัฒน์ขณะเข้าพบตำรวจ สภ.หนองกี่ เมื่อวันที่ 3 ม.ค. 2565 (ภาพโดยศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน)
 

กันตพัฒน์ กล่าวว่า ตนเพิ่งทราบว่าจะมีขบวนสเด็จฯ เมื่อช่วงหลังปีใหม่เพราะเพิ่งมีการประดับธงสัญลักษณ์ของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้าฯ แต่ตนไม่ทราบวันและเวลาเสด็จฯ ที่แน่ชัด จนกระทั่งตำรวจโทรศัพท์เรียกให้ตนไปลงนามในบันทึกประจำวัน ขอให้ไม่จัดกิจกรรมระหว่างมีขบวนเสด็จฯ ในวันนี้ (5 ม.ค. 2565) ในระหว่างการลงบันทึกประจำวันที่ สภ.หนองกี่ ตำรวจได้แจ้งเส้นทางขบวนเสด็จฯ ให้เขารับทราบ พร้อมชี้แจงเหตุผลว่าเขาเป็น ‘บุคคลต้องระวัง’ จึงต้องเรียกมาลงนามในบันทึกประจำวันเพื่อทำข้อตกลงว่าจะไม่จัดกิจกรรมในวันดังกล่าว โดยมี ร.ต.อ.ไพฑูรย์ แฟสันเทียะ รองสารวัตรสอบสวน สภ.หนองกี่ เป็นผู้ลงนามรับแจ้งความในบันทึกประจำวัน และมี ด.ต.ประกอบ งาหอม เป็นผู้บันทึก

บันทึกประจำวันที่ตำรวจ สภ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ เรียกให้กันตพัฒน์ไปลงนามทำข้อตกลง
 

กันตพัฒน์กล่าวกับผู้สื่อข่าวประชาไทว่าตนไม่มีแผนจะทำกิจกรรมใดๆ เพื่อขัดขวางขบวนเสด็จฯ ในวันนี้อยู่แล้ว เพราะเป็นช่วงสอบกลางภาค ซึ่งโรงเรียนกำหนดให้จัดสอบทันทีช่วงเปิดเรียนหลังวันหยุดยาวปีใหม่ แต่ต้องเลื่อนการสอบออกไปก่อนตามประกาศใหม่ของโรงเรียน ลงวันที่ 30 ธ.ค. 2564 และต้องเรียนออนไลน์ในช่วงวันที่ 5-7 ม.ค. 2565 อีกทั้งตอนนี้ ตนผันตัวมาทำกิจกรรมด้านการศึกษาอย่างเต็มรูปแบบ จึงไม่ได้มีแผนจัดกิจกรรมเคลื่อนไหวหรือแสดงออกเรื่องการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ แม้ว่าจะเห็นด้วยกับข้อเรียกร้องปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ของกลุ่มคณะราษฎรและกลุ่มนักเคลื่อนไหวต่างๆ ก็ตาม ดังนั้น กันตพัฒน์จึงมองว่าการที่ตำรวจเรียกตนไปลงนามในข้อตกลงเช่นนี้ เป็นการ ‘หวาดวิตกเกินเหตุ’ ทั้งๆ ที่ยังไม่มีเหตุใดๆ เกิดขึ้น

กันตพัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ประมาณ 2-3 วันก่อนหน้าที่ตำรวจจะโทรมาเรียกให้ตนไปลงชื่อในบันทึกประจำวันต่อกรณีขบวนเสด็จฯ นั้น มีตำรวจนอกเครื่องแบบขับรถติดตามตนมาถึงที่บ้าน รวมถึงเมื่อวานนี้ (4 ม.ค. 2564) ก็มีตำรวจติดตามตนไปที่โรงเรียน เพื่อสอบถามว่ามาทำอะไร ซึ่งตนตอบไปว่ามาถ่ายรูปเล่นที่โรงเรียนเท่านั้น ซึ่งกันตพัฒน์บอกว่าการถูกตำรวจติดตามในทุกฝีก้าวช่วงไม่กี่วันมานี้ทำให้ตนรู้สึกว่าถูกคุกคามและรู้สึกรำคาญ

ตำรวจติดตามกันตพัฒน์ (สงวนนามสกุล) ไปยังโรงเรียนเมื่อวันที่ 4 ม.ค. 2565
 

นอกจากนี้ ช่วงเดือน พ.ย. ปีที่แล้ว กันตพัฒน์บอกว่าตนตั้งใจจะมาร่วมชุมนุม #ม็อบ14พฤศจิกา64 ของกลุ่มไม่เอาระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 2564 แต่ก่อนหน้านั้น 1-2 วัน มีตำรวจนอกเครื่องแบบมาติดตามตนถึงที่บ้าน ทำให้ตนไม่สามารถเดินทางมา กทม. เพื่อเข้าร่วมชุมนุมในวันดังกล่าวได้

ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือน ธ.ค. 2563 กันตพัฒน์เคยแจ้งมาที่ประชาไทว่าทางโรงเรียนเรียกผู้ปกครองเข้าพบหลังจากเขาเพิ่งโพสต์เฟซบุ๊กวิจารณ์ท่าทีของผู้อำนวยการโรงเรียนต่อนักเรียนที่ทำกิจกรรมทางการเมืองว่ามีนักการเมืองให้เด็กออกหน้าสู้แทน และในเดือน เม.ย. 2564 เขาได้รับคำสั่งจากทางโรงเรียนให้ถูกควบคุมความประพฤติและถูกบังคับให้เซ็นใบลาออก เนื่องจากไม่ผ่านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ข้อ 1 ของทางโรงเรียน คือ ‘รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์’ เพราะนักเรียนคนดังกล่าวทำกิจกรรมเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยภายในโรงเรียน

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวประชาไทตรวจสอบข้อมูลจากเว็บไซต์สำนักงานวัฒนธรรม จ.บุรีรัมย์ พบว่าในวันนี้ (5 ม.ค. 2565) สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จพระราชดำเนินมาทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจที่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ชมรม 9 สมาคมจีนแห่งประเทศไทย เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 5 ธันวาคม 2542 (บ้านโรงเลื่อย) อ.ละหานทราย และโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนทรัพย์ทรายทอง อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง:

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net