Skip to main content
sharethis

ชาวกะเหรี่ยงลุ่มน้ำสาละวินร่วมสร้างสถานพยาบาลช่วยผู้ลี้ภัย เขตมือตรอ รัฐกะเหรี่ยง ตรงข้ามบ้านแม่สามแลบ จ.แม่ฮ่องสอน-แบ่งเบาภาระ รพ.ชายแดนไทย ผู้ว่าฯ มือตรอ คาดผู้อพยพไม่ทะลักไทยเหมือนปีก่อน เหตุกองทัพพม่ามีกำลังพลไม่เพียงพอ-ไม่กล้าเปิดศึกรอบด้าน ลูกชายอดีตนายพลโบเมี๊ยะ แห่งกองกำลัง KNDO ปลุกขวัญ ยกรัสเซียบุกยูเครนยังไม่สำเร็จ

ชาวกะเหรี่ยงร่วมเปิดงานสถานพยาบาล จ.มือตรอ รัฐกะเหรี่ยง ประเทศพม่า

10 มี.ค. 65 สำนักข่าวชายขอบ รายงานวันนี้ (10 มี.ค.) ที่บริเวณริมแม่น้ำสาละวิน รัฐกะเหรี่ยง ประเทศพม่า เขตกองพล 5 แห่งกองกำลังปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNLA) ตั้งอยู่ตรงข้าม อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ชาวบ้านที่อาศัยบริเวณลุ่มแม่น้ำสาละวินกว่า 100 คน เดินทางมาร่วมเปิดสถานพยาบาลอุเมท่า โดยมีนายซอเทนเดอร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมือตรอ ของสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) เป็นประธาน

ทั้งนี้ สถานพยาบาลอุเมท่า ถือว่าเป็นสถานพยายาลแห่งแรกริมแม่น้ำสาละวินในรัฐกะเหรี่ยง โดยใช้งบประมาณในการก่อสร้างกว่า 3 ล้านบาท ซึ่งทั้งหมดเป็นเงินบริจาคจากชาวกะเหรี่ยงจากพื้นที่ต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มที่เดินทางไปอยู่ในประเทศที่ 3 ที่ทราบปัญหาความยากลำบากของชาวบ้านลุ่มแม่น้ำสาละวินที่ได้รับผลกระทบจากการบุกโจมตีของกองทัพพม่าเมื่อปีที่ผ่านมา ทำให้มีทหารและชาวบ้านได้รับบาดเจ็บจำนวนมากและต้องอพยพหนีตายมอาศัยอยู่ริมแม่น้ำสาละวินหลายพันคน และหลบอยู่ในป่าอีกนับหมื่นคน โดยที่ผ่านมา หากเป็นการเจ็บป่วยหนักหรือบาดเจ็บรุนแรง จะต้องลงเรือไปที่บ้านแม่สามแลบ และถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลแม่สะเรียง แม้รัฐบาลไทยจะให้การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมกรณีนี้ แต่กลับต้องประสบความลำบากจากการเดินทาง และท่ามการสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด ทำให้การส่งตัวผู้ป่วยยิ่งเป็นไปได้ยาก ดังนั้น ชาวกะเหรี่ยงจึงได้รวมกันสร้างสถานพยาบาลแห่งนี้

นายหนี่เล เจ้าหน้าที่สถานพยาบาลให้สัมภาษณ์ว่า คาดว่าสถานพยาบาลแห่งนี้จะสามารถแบ่งเบาภาระผู้ป่วยที่อาการหนักและต้องข้ามไปรักษาที่ฝั่งไทยได้ถึง 50% หากมีการพัฒนาเครื่องไม้เครื่องมือและมีห้องผ่าตัดที่สมบูรณ์ นอกจากนี้ ยังมีอาคารสำหรับผู้หญิงตั้วครรภ์เพื่อคลอดบุตร เนื่องจากที่ผ่านมามีผู้หญิงจำนวนไม่น้อยที่มีอาการตกเลือดทำให้ลูกพิการหรือเสียชีวิต เนื่องจากไม่ได้รับการดูแลด้านโภชนาการ เพราะต้องหลบซ่อนตัวจากการโจมตีของทหารพม่า ส่วนผู้ป่วยทั่วไปอาการที่พบมากสำหรับชาวบ้านคือไข้ป่า และไข้มาลาเรีย โรคนิ่วซึ่งเกิดจากการกินน้ำที่ไม่สะอาด

“ทารกที่เสียชีวิตเพราะถูกสายสะดือพันก็เยอะ บางส่วนมีพัฒนาการที่ไม่สมบูรณ์ทำให้เติบโตไม่ดีเท่าที่ควรจะเป็นเพราะไม่ค่อยได้กินนม” นายหนี่เล กล่าว

บรรยากาศภายในสถานพยาบาล

ซอเทนเดอร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมือตรอ กล่าวถึงสถานการณ์การสู้รบว่า กองทัพพม่าพยายามส่งทหารเข้ามาในรัฐกะเหรี่ยงโดยเฉพาะในจังหวัดมือตรอจำนวนมาก เพราะต้องการควบคุมพื้นที่เป้าหมายให้ได้ทั้งหมด ซึ่งในช่วงตอนเย็นมักยิงปืนใหญ่เข้ามาในเขตชุมชน แต่ถูกสกัดจากทหารกะเหรี่ยง KNU ทั้งนี้ทหารพม่าต้องการสร้างความหวาดกลัวให้กับประชาชนเพื่อไม่ให้ออกไปทำมาหากิน ไม่กล้าไปทำไร่ทำสวน และทหารพม่าจะได้ฉวยโอกาสเข้าพื้นที่และลำเลียงเสบียงส่งไปยังฐานทหารในจุดต่างๆ แต่ขณะนี้ก็ยังไม่สามารถทำได้
 
“เขาพยายามทำทุกทางให้ประชาชนรู้สึกกลัว เช่น ส่งเครื่องบินมาลาดตระเวน ส่งโดรนมาสอดแนม แต่เราเชื่อว่าเขายังไม่บุกเหมือนปีที่แล้ว เพราะมีกำลังพลไม่เพียงพอ และไม่กล้าเปิดศึกรอบด้าน” ผู้ว่าราชการฯ กล่าว

เมื่อถามว่าคาดว่าจะมีชาวบ้านหนีภัยการสู้รบครั้งใหญ่มาริมแม่น้ำสาละวินเหมือนปีก่อนหรือไม่ นายซอเทนเดอร์ กล่าวว่า การอพยพในลักษณะดังกล่าวจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อมีสถานการณ์วิกฤตจริงๆ แต่ในปีนี้อาจไม่เป็นเช่นนั้น เพราะได้มีการซักซ้อมแผนการหลบภัยให้ชาวบ้านไว้แล้ว แต่ปีก่อนเป็นสถานการณ์ฉุกเฉิน และเชื่อว่าหากกองทัพพม่าไม่สามารถลำเลียงเสบียงมาส่งให้ฐานทหารของเขาได้ ก็คงไม่กล้าเปิดศึกใหญ่ เพราะอาหารไม่เพียงพอ

“ผมเชื่อว่าเมืองมือตรอ จะเป็นจุดสุดท้ายที่ทหารพม่าจะเข้ามาโจมตีใหญ่ เพราะขณะนี้เขาต้องไปรบที่อื่นก่อน และบริเวณนี้ก็ติดกับชายแดนไทย” ผู้ว่าฯ กล่าว

ขณะที่ พล.ท.เนอดา เมียะ อดีตผู้บัญชาการกองทัพพิทักษ์กะเหรี่ยงแห่งชาติ หรือ KNDO - Karen National Defence Oganization บุตรชายนายพลโบเมียะ กล่าวตอนหนึ่งระหว่างพิธีเปิดสถานพยาบาลว่า การสร้างสถานพยายานจนประสบความสำเร็จในครั้งนี้เป็นความร่วมมือที่น่านับถือ หากชาวกะเหรี่ยงช่วยดูแลกันและกันเช่นนี้ก็จะสามารถปกป้องจากศัตรูได้ โดยมีตัวอย่างกรณีที่รัสเซียบุกยูเครน ซึ่งเดิมทีต่างคิดว่าภายใน 3-4 วันรัสเซียจะสามารถทำลายยูเครนได้ แต่ผ่านมานับสัปดาห์ก็ยังทำลายไม่ได้เพราะชาวยูเครนต่างร่วมมือกันปกป้องบ้านเมือง
 

พิธีเปิดสถานพยาบาล

แผนที่ชายแดนไทย-พม่า ก่อน เม.ย. 64

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net