ภาพ "เซอร์ไพรส์นโยบาย "พลังประชารัฐ" ที่ถูกลบ

26 พ.ค.2565 จากกรณีรณรงหาเสียงเลือกตั้งทั่วไปเมื่อปี 62 หนึ่งในนโยบายที่ถูกพูดถึงจนถึงปัจจุบันของพรรคที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลอย่างพรรคพลังประชารัฐ คือนโยบายเกี่ยวกับสวัสดิการ ค่าแรง ราคาสินค้าเกษตรและการยกเว้นภาษีในชื่อ "เซอร์ไพรส์นโยบาย "พลังประชารัฐ" โดยที่มีความพยายามทวงถามถึงความคืบหน้านโยบายเหล่านี้ที่เปรียบเหมือนสัญญาประชาคมทั้งจากในโลออนไลน์และการชุมนุมติดตามความคืบหน้าของเครือข่ายแรงงาน แต่เหมือนจะไม่มีความคืบหน้า จนล่าสุดวานนี้ (25 พ.ค.65) โพสต์ประชาสัมพันธ์ของเฟซบุ๊กแฟนเพจ 'พรรคพลังประชารัฐ' URL : https://www.facebook.com/493026767870664/photos/a.493831194456888/562418130931527 ไม่สามารถเข้าถึงได้แล้ว พร้อมปรากฏข้อความ "ขออภัย เนื้อหานี้ไม่พร้อมใช้งานในขณะนี้"

ภาพเครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชนชุมนุมหน้าทำเนียบในชื่อ กิจกรรม 'รวมพลคนไม่มีจะกิน' โดนมีการนำป้าย "เซอร์ไพรส์นโยบาย "พลังประชารัฐ" มาติดบนเวทีเพื่อทวงถามความคืบหน้า เมื่อวันที่ 25 ก.พ.64

'ไพบูลย์' แจงพรรคลบโพสต์นโยบายเป็นแค่การปรับยุทธศาสตร์ด้านโซเชียล 

มติชนออนไลน์ รายงานว่า ไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐกล่าวถึงกรณีที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการลบนโยบายในเพจของพรรคฯ ว่า ผู้บริหารพรรคมีมติจะปรับปรุงระบบโซเชียลเน็ตเวิร์กครั้งใหญ่ของพรรคให้ทันสมัย และมีประสิทธิภาพสูงสุด อีกทั้งสามารถเชื่อมต่อกับผู้สมัครส.ส.ทั้งประเทศ เพื่อเป็นการเตรียมเลือกตั้งใหญ่ในครั้งหน้า และควรจะลบนโยบายนั้นออกตั้งนานแล้ว เพราะนโยบายที่ผ่านมา มีบางนโยบายที่เราทำไม่ได้ เนื่องจากทางพรรคไม่ได้ดูแลกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับนโยบายนั้นๆ เช่น มารดาประชารัฐ เพราะพรรคอื่นดูแล ส่วนเรื่องค่าแรง หลังจากที่นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเข้าไปดูแล ตอนนี้ก็ค่อยๆ เพิ่มขึ้นตามลำดับ

“สิ่งที่ไม่ได้ระบุ แต่เราทำก็มีมาก เช่น บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และโครงการคนละครึ่งที่ผลักดันโดยพรรคร่วมรัฐบาล แต่ทั้งหมดขอย้ำว่า เพจที่ลบออกไปคือเพจโฆษณา ซึ่งมันควรจะลบออกหลังสิ้นสุดการโฆษณา 1 ปี ตอนนี้พรรคพลังประชารัฐได้มีนโยบายใหม่ๆ ที่น่าตื่นเต้น และจัดให้สอดรับกับกระทรวงที่ดูแล เพื่อให้เกิดผลประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้การปรับกลยุทธ์โซเชียลเน็ตเวิร์กใหม่ เป็นนโยบายแรกในการบริหารพรรค ซึ่งจะได้เห็นความทันสมัยทั้งของทีมงาน กระบวนการ และการสร้างเครือข่าย โดยมอบหมายให้ ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นผู้ประสานงานกับฝ่ายต่างๆ” ไพบูลย์ กล่าว

'ชัยวุฒิ' บอกไม่ทราบ แต่มีหลายนโยบายอยู่ระหว่างทำไปแล้ว หลายนโยบายอาจปรับเปลี่ยนไปบ้าง ย้ำอดีตผ่านไปแล้ว อยากให้มองไปข้างหน้ามากกว่า

ขณะที่ The Momentum รายงานว่า ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคอีกคน กล่าวว่า ไม่ทราบเรื่องที่พรรคพลังประชารัฐลบโพสต์หาเสียงเมื่อปี 2562 จากเฟซบุ๊กของพรรค เรื่องเซอร์ไพรส์นโยบาย อาทิ ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท เงินเดือนปริญญาตรี 2 หมื่นบาท พร้อมกับกล่าวว่า “อย่าถามผมเลย”

รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐยังกล่าวต่อไปว่า สำหรับนโยบายเก่าที่ยังทำไม่สำเร็จนั้น มีหลายนโยบายอยู่ระหว่างทำไปแล้ว หลายนโยบายอาจปรับเปลี่ยนไปบ้าง แต่ก็ทำทุกเรื่อง ทั้งนี้ อดีตผ่านไปแล้ว อยากให้มองไปข้างหน้ามากกว่า และอย่าลืมว่า รัฐบาลชุดนี้มีพรรคร่วมรัฐบาลหลายพรรค จึงต้องปรับนโยบายหลายอย่างตามพรรคอื่นด้วย สำหรับเรื่องค่าแรงขั้นต่ำนั้นก็อยู่ระหว่างการหารือกัน แต่กลไกการปรับขึ้นค่าแรงที่แท้จริง เป็นเรื่อง ‘ไตรภาคี’ ระหว่างนายจ้าง ลูกจ้าง และรัฐบาล โดยทั้งหมดต้องคุยกันหลายฝ่าย

ทั้งนี้ กระบวนการด้านโซเชียลมีเดียและการประชาสัมพันธ์ของพรรคพลังประชารัฐนั้น พรรคยืนยันว่ามีการทำงานอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด แต่วันนี้ การสื่อสารบางประเด็นให้ประชาชนรับรู้อาจจะไม่ดี ก็ปรับปรุงเท่านั้น สำหรับเรื่องนโยบายต่างๆ กำลังอยู่ระหว่างตั้งทีมขึ้นมาพิจารณา

“พรรคการเมืองก็เป็นแบบนี้ มีคนเก่าออกไป มีคนใหม่เข้ามา อะไรที่เป็นของเก่าก็เปลี่ยนได้ พรรคการเมืองต้องเปลี่ยนตามเศรษฐกิจ สังคม คนที่เข้ามาทำงาน อย่าไปยึดติดกับเรื่องในอดีตมาก แต่เรื่องที่มีปัญหา ไม่ประสบความสำเร็จ ก็ต้องปรับเปลี่ยน พรรคต้องปรับเปลี่ยนการทำงานให้ตรงกับความต้องการพี่น้องประชาชน” ชัยวุฒิ กล่าว

'ปริญญา' ฝาก 'ประยุทธ์' ดูนโยบายพลังประชารัฐด้วย หลังบอก 'ชัชชาติ' ทำให้ได้อย่างที่พูด

ทั้งนี้กระแสการทวงถามความคืบหน้าของนโยบายชุดนี้ กลับมาเป็นประเด็นหลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึง ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ที่เพิ่งชนะเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยทั้งคู่กล่าวในทำนองว่า หาเสียงอะไรไว้ต้องทำให้ได้อย่างที่พูด

วานนี้ (25 พ.ค.) ปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว 'Prinya Thaewanarumitkul' ในลักษณะสาธารณะแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ด้วยว่า การเลือกตั้ง ไม่ว่าในระดับใด จะไม่ใช่เพียงแค่การเลือกตัวบุคคล แต่จะเป็น กระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนในการกำหนดนโยบายสาธารณะ ถ้าเราสามารถทำให้ผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง หรือพรรคการเมืองต้อง ทำตามสิ่งที่หาเสียงไว้ วิธีการก็คือถ้าผู้สมัครหรือพรรคการเมืองไม่ทำตามที่หาเสียงไว้ ก็อย่าเลือกในการเลือกตั้งครั้งหน้า การติดตามว่าผู้ได้รับการเลือกตั้งได้ทำตามที่หาเสียงไว้หรือไม่ จึงเป็นเรื่องสำคัญไม่น้อยไปกว่าการไปเลือกตั้ง 

ดังนั้น การที่ท่านนายกรัฐมนตรี ฝากผู้ว่ากทม.คนใหม่ ว่าทำให้ได้อย่างที่พูด และท่านรัฐมนตรีกระทรวงแรงงานกล่าวว่า ขอผู้ว่า กทม.ทำตามสัญญาที่หาเสียงไว้ ทำไม่ได้ประชาชนจะลงโทษ จึงถูกต้องตามหลักการดังกล่าวอย่างยิ่ง ประชาชนจึงต้องติดตามการทำงานของผู้ว่าฯ กทม. คนใหม่ ซึ่งเป็นการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น เช่นเดียวกับที่ต้องติดตามการเลือกตั้งระดับชาติด้วยว่า พรรคที่เป็นรัฐบาลได้ทำตามนโยบาย หรือ สัญญาที่หาเสียงไว้ในตอนเลือกตั้งหรือไม่

"แล้วท่านคิดว่าพรรคการเมืองที่เป็นพรรครัฐบาล ได้ทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้แล้วหรือไม่ ? ตอนนี้เวลาผ่านไป 3 ปีกว่า และใกล้จะเลือกตั้งครั้งใหม่แล้ว นับว่าเป็นเวลาอันเหมาะสมที่จะ ช่วยกันประเมินผล เริ่มจาก พรรคพลังประชารัฐ ที่ท่านนายกรัฐมนตรีเป็นว่าที่นายกฯ และเป็นพรรคของท่านรัฐมนตรีกระทรวงแรงงานก่อนเลยครับ" ปริญญา โพสต์