ผลสำรวจคนทำงานในไอร์แลนด์ 8,400 คน พบ 95% เชื่อว่า 'การทำงานทางไกล' (ทำงานที่บ้าน และสถานที่อื่นๆ ที่ไม่ใช่ออฟฟิศ) จะทำให้ชีวิตง่ายขึ้น, 30% ถึงกับยอมเปลี่ยนงานแม้ต้องลดค่าจ้างตนเองเพื่อให้ได้ทำงานทางไกลนี้เลยด้วยซ้ำ
ที่มาภาพประกอบ: Kristin Wilson (Unsplash License)
17 มิ.ย. 2565 เทรนด์ 'การทำงานทางไกล' (Remote Work) ยังคงเป็นที่นิยมสำหรับคนทำงานในหลายภูมิภาคในโลก แม้ว่าสถานการณ์โควิด-19 จะคลี่คลายไปมากแล้วก็ตาม
อย่างที่ประเทศไอร์แลนด์ จากผลการสำรวจ National Remote Working Survey ประจำปีครั้งที่ 3 โดยสถาบัน Whitaker ที่ NUI Galway และ Western Development Commission ซึ่งได้ทำการสำรวจความคิกเห็นคนทำงานทั่วประเทศจำนวน 8,400 คน ในช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. 2565 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถาม ร้อยละ 95 เชื่อว่า 'การทำงานทางไกล' (ทำงานที่บ้าน และสถานที่อื่นๆ ที่ไม่ใช่ออฟฟิศ) จะทำให้ชีวิตของพวกเขาง่ายขึ้น
ร้อยละ 37 ของผู้ตอบแบบสอบถามกล่าวว่าพวกเขาจะเปลี่ยนงานเพื่อให้ได้ทำการทำงานทางไกล แม้ว่าจะหมายถึงโอกาสในการเลื่อนตำแหน่งที่น้อยลงก็ตาม, ร้อยละ 30 ยังระบุด้วยว่าแม้การเปลี่ยนงานจะหมายถึงการลดค่าจ้างด้วยก็ตามพวกเขาก็ยินดีที่จะทำเพื่อให้ได้ทำงานทางไกล
ในบรรดาผู้ที่สามารถทำงานได้จากระยะไกลได้ ร้อยละ 52 กำลังทำงานแบบไฮบริด (ทั้งจากระยะไกลและเข้าออฟฟิศ), ร้อยละ 40 ทำงานจากระยะไกลเพียงอย่างเดียว, มีเพียง ร้อยละ 8 เท่านั้นที่ต้องทำงานในออฟฟิศเพียงอย่างเดียว
แต่เกือบครึ่งของผู้ตอบแบบสอบถาม คือร้อยละ 49 ระบุว่าพวกชั่วโมงการทำงานทางไกลนั้นยาวนานกว่าเมื่อเทียบกับการทำงานในออฟฟิศ
ศาสตราจารย์อัลมา แมคคาร์ธีย์ จาก NUI Galway กล่าวว่าการสำรวจในปีนี้ ได้ถามถึงคำถามใหม่ที่ว่าการทำงานระยะไกลเป็นปัจจัยสำคัญในการเปลี่ยนงานหรือไม่
“เป็นเรื่องน่าสนใจที่เห็นว่าผู้ที่เปลี่ยนนายจ้างตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด-19 เกือบครึ่งคือ 47% ระบุว่าการทำงานทางไกลเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจเปลี่ยนนายจ้าง” แมคคาร์ธีย์ กล่าว
ร้อยละ 50 ของผู้ตอบแบบสอบถามกล่าวว่าองค์กรของพวกเขาได้ยืนยันแล้วว่าพวกเขาจะทำงานอย่างไรในอนาคต และในจำนวนนี้ ร้อยละ 61 ระบุว่าพวกเขาจะทำงานแบบไฮบริด, ร้อยละ 30 จะทำงานจากระยะไกลโดยสมบูรณ์, และมีเพียง ร้อยละ 9 เท่านั้นที่ยังต้องกลับไปทำงานเฉพาะในออฟฟิศอย่างเดียว
โทมัส โอซิโอเชน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Western Development Commission กล่าวว่าผลการสำรวจระดับชาติระบุว่าคนทำงานชาวไอริชคาดหวังที่จะทำงานจากระยะไกลตลอดเวลาต่อไป หรือเพื่อหาสมดุลที่สอดคล้องกับการใช้ชีวิตของพวกเขา
“ผู้นำองค์กรจะถูกท้าทายให้มองหาวิธีสนับสนุนพนักงานและหาจุดสมดุลเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา” เขากล่าว
ฮีเธอร์ ฮัมฟรีย์ รัฐมนตรีกระทรวงกิจการชนบทและชุมชนกล่าวว่าผลการสำรวจจะถูกใช้โดยรัฐบาลเพื่อช่วยในการตัดสินใจเกี่ยวกับการทำงานทางไกล
"นโยบายการพัฒนาชนบทของรัฐบาล อนาคตในชนบทของเรา ตระหนักอย่างชัดเจนถึงบทบาทสำคัญที่การทำงานระยะไกลสามารถมีบทบาทในการบรรลุการพัฒนาภูมิภาคที่สมดุล ในช่วงเวลาที่ตลาดแรงงานขาดแคลน การทำงานระยะไกลสามารถช่วยบริษัทต่างๆ ดึงดูดและรักษาผู้มีความสามารถไว้ในองค์กรได้" ฮัมฟรีย์ กล่าว