มติบอร์ด สปสช.เห็นชอบลงนามประกาศหลักเกณฑ์งบกองทุนหลักประกันสุขภาพปี 66 

บอร์ด สปสช.ทบทวนประกาศหลักเกณฑ์งบกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติปี 66 เผยที่ผ่านมาตรวจสอบให้ถูกต้องเพื่อให้ประชาชนได้สิทธิประโยชน์สร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคตามที่กำหนดไว้ พร้อมมีมติเห็นชอบให้ลงนามในประกาศฯ ต่อไป  

7 พ.ย. 2565 ทีมสื่อสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) รายงานว่า วันนี้ ที่ สปสช. ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ถ.แจ้งวัฒนะ กทม. อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ที่ประชุมมีวาระพิจารณาเรื่อง การทบทวนประกาศ เรื่อง หลักเกณฑ์การดำเนินงานและการบริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปีงบประมาณ พ.ศ.2566 กรณีบริการด้านสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคให้แก่ประชาชนไทยทุกคน ซึ่งที่ประชุมได้มีมติดังนี้  

1.เห็นชอบตามหนังสือสำนักงบประมาณ ลงวันที่ 3 พฤศจิกายน 2565 มีความเห็นโดยสรุปว่า มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ ครม.อนุมัติและเห็นชอบตามความเห็นของสำนักงบประมาณนั้น สำนักงบประมาณได้พิจารณาค่าใช้จ่ายให้สอดคล้องกับผลการดำเนินงานและอัตราค่าใช้จ่ายที่เหมาะสม โดยคงวัตถุประสงค์ตามที่ สปสช.เสนอต่อ ครม. ทั้งนี้เมื่อ ครม.มีมติอนุมัติและเห็นชอบ จึงเป็นกรณีที่ ครม.มอบหมายให้คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติดำเนินการ ทั้งนี้ งบประมาณตาม พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 งบประมาณของ สปสช.สำหรับกองทุนหลักประกันสุขภาพในส่วนการจัดสรรค่าบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค จัดสรรให้จำนวน 66.286 ล้านคน 

2.เห็นชอบให้ลงนามในประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์การดำเนินงานและการบริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปีงบประมาณ พ.ศ.2566 

ด้าน นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ในส่วนของบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคนั้น ในปีงบประมาณ 2566 คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ได้เตรียมงบประมาณบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคสำหรับประชาชนไทยทุกคน และในช่วงที่ผ่านมานั้น บอร์ด สปสช.ได้อนุมัติสิทธิประโยชน์ในการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคสำหรับคนไทยทุกคนไว้จำนวนมาก  

ดังนั้นเพื่อความรอบคอบและรัดกุมในการดำเนินการด้านงบประมาณ จึงต้องมีการตรวจสอบหลักเกณฑ์การใช้จ่ายงบประมาณให้ถูกต้องเพื่อให้ประชาชนได้รับสิทธิประโยชน์ตามที่ได้กำหนดไว้ และหน่วยบริการหรือสถานพยาบาลในระบบหลักประกันสุขภาพได้รับงบประมาณเพื่อการดำเนินการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคให้กับประชาชนได้ถูกต้องตามระเบียบและประกาศที่ได้กำหนดไว้ ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข อนุทิน ชาญวีรกูล ได้ให้ความสำคัญในเรื่องนี้เป็นอย่างมากเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนไทย   

“ขอยืนยันว่าการโอนงบประมาณล่าช้าไม่กระทบการให้บริการของหน่วยบริการต่อประชาชนแต่อย่างใด ประชาชนยังคงไปรับบริการได้เหมือนเดิม และยังคงได้รับบริการตามสิทธิประโยชน์เช่นเดิม ทั้งนี้การลงนามในประกาศหลักเกณฑ์การบริหารงบกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติประจำปีงบประมาณ 2566 นั้น จำเป็นต้องตรวจสอบให้ถูกต้องตามกฎหมายเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ทุกฝ่ายมากที่สุด ซึ่งที่ผ่านมาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด” เลขาธิการ สปสช. กล่าว  

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท