Skip to main content
sharethis

"เศรษฐา" มอบนโนบายให้ กอ.รมน.ช่วยเหลือประชาชน ปฏิเสธไม่มีเรื่องยุบแต่อยากให้ดูการทำงานมากกว่า ส่วนพรรคที่จะยุบก็ให้เข็นเข้าสภาเอง ส่วนกองทัพจะส่งมอบที่ดินกว่า 9 พันไร่เป็นโครงการหนองวัวซอที่จะเปลี่ยนประชาชนที่ครอบครองที่ดินโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นผู้เช่าใช้ โครงการจะเป็นต้นแบบให้ทัพอื่นด้วย 

31 ต.ค. 2566 The Reporter ไลฟ์การแถลงข่าวของเศรษฐา ทวีสิน ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน(กอ.รมน.) หลังร่วมการประชุมกับ กอ.รมน.ครั้งแรกในการมอบนโยบาย ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน

เศรษฐากล่าวว่า นอกจากบทบาทของ กอ.รมน.ที่ทำหน้าที่พิทักษ์ปกป้องสถาบันกษัตริย์และและการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง อยากให้ กอ.รมน.มีบทบาทการวางรากฐานความพร้อมให้กับประเทศเพื่อสร้างอนาคตทที่ดีกว่าให้ปับประเทศ ความมั่นคงในวันนี้จึงเกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตและเศรษฐกิจปากท้องของประชาชนด้วย

นายกฯ ได้กล่าวว่าเรื่องที่มอบนโยบายเป็นเรื่องแรก คือการช่วยเหลือประชาชนยามเกิดภัยพิบัติโดยขอให้ตำรวจทหารช่วยกันประสานทุกๆ หน่วยร่วมกันบูรณาการระดมสรรพกำลังทรัพยากรและเครื่องมือของกองทัพ เข้าสนับสนุนประชาชน ซึ่งตอนนี้ก้มีเรื่องน้ำท่วม อีกไม่กี่เดือนเข้าสู่ฤดูแล้งและปัญหาเอลนิโญ่ ก็ได้ขอให้กองทัพช่วยกันพัฒนาในเชิงรุก

ประเด็นต่อมา กองทัพได้ร่วมแก้ไขปัญหาความยากจนแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินโดยการนำพื้นที่ของหน่วยที่เกินความจำเป็นมาใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ที่ดินเพื่อการเกษตรการใช้เป็นแหล่งเรียนรู้เพื่อสร้างรายได้สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ และสร้างความเข้มแข็งทางสังคมของประเทศ ซึ่งตนก็ชื่นชมกองทัพที่ได้ดำเนินนโยบายการนำที่ดินของกองทัพมาให้ประชาชนได้ใช้ในโครงการหนองวัวซอโมเดลซึ่งมีพื้นที่ 9,276 ไร่ โดยมีการกำหนดส่งมอบให้แก่ประชาชนวันที่ 25 ธ.ค.2566 ซึ่งเป็นนโยบายที่ดีที่ให้ประชาชนร่วมเข้ามาจัดสรรทรัพยากร

เศรษฐาได้กล่าวถึงการให้เข้ามาร่วมแก้ปัญหาเรื่อง PM2.5 ที่ กอ.รมน.มีทีมงานร่วมกับนักวิชาการต่างๆ ที่มีองค์ความรู้เรื่องการเปลี่ยนวัสดุการเกษตรให้เป็นรายได้ของประชาชนแทนการเผาแล้วเกิดมลพิษ จึงได้ขอให้ กอ.รมน.ขยายผลเรื่องนี้อย่างจริงจังเพราะเห็นว่ามีความพร้อมอยู่แล้วและขอให้หน่วยข้าราชการให้ความร่วมมือเพื่อให้ทำได้สำเร็จเพื่อคืนคุณภาพอากศและคุณภาพชีวิต สุขภาพที่ดีให้แก่ประชาชนไทย

เศรษฐาได้ตอบคำถามสื่อเรื่องกระแสข่าวการยุบ กอ.รมน.ว่าเป็นไปตามทีได้แถลงคือไม่ได้มีเรื่องนี้อยู่ ซึ่งเรื่องนี้ที่มาที่ไปเรื่อง กอ.รมน.เกี่ยวข้องกับการปราบปรามคอมมิวนิสต์แต่วันนี้ก็ไม่ได้มีแล้วบททบาทการทำงานของ กอ.รมน.ก็เปลี่ยนไป และที่แถลงไปก็คือมีแต่เรื่องของการพัฒนาและทำให้ช่องว่างระหว่างความเข้าใจผิดระหว่างกองทัพกับประชาชนมีน้อยลงและเรื่องที่แถลงไปนี้ก็เป็นเรื่องขั้นต้น อย่างเรื่องการมอบที่ดินให้นี้ก็เป็นขั้นแรกและตนก็ได้ขอให้อย่าหยุดแต่เพียงเท่านี้เพราะมอบที่ดินแล้วแต่ยังไม่มีแหล่งน้ำจึงรวมถึงการขุดแหล่งน้ำเพื่อให้มีระบบชลประทานที่ดี  หรือเรื่องอากาศสะอาด หรือการดูแลเรื่องภัยแล้งหรือเรื่องน้ำท่วม ก็จะเห็นว่าไม่มีเรื่องยุบ กอ.รมน.เลย และไม่มีนโยบายหรือไม่มีความตั้งใจที่จะยุบ กอ.รมน.เลย

“ฟังเรื่องที่ผมแถลงไปวันนี้ หน่วยงานรัฐที่ทำงานได้รวดเร็ว พูดกันอย่างผู้ใหญ่ๆ ท่านข้าวกับผู้บัญชาการเหล่าทัพไปขอไปเรื่องเดียวขอไปแป๊ปเดียว เดือนครึ่งก็ออกมาแล้ว เราพูดด้วยผลงานดีกว่า ผมว่าอย่าไปพูดเรื่องวาทกรรมเรื่องอื่น ก็เป็นเรื่องของพรรคนั้นๆ ไปแล้วกันก็ไปเข็นเข้าสู่สภาเองแล้วกัน ทางฝ่ายกองทัพทางฝ่ายหน่วยงานรัฐฝ่ายพรรคการเมืองที่เกี่ยวข้องเราทำงานอย่างเดียวก็ให้พี่น้องประชาชนเป็นคนตัดสินแล้วกัน” นายกฯ ตอบคำถามนักข่าวถึงประเด็นที่พรรคก้าวไกลมีการรณรงค์แก้ พ.ร.บ.ความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ที่จะมีการยุบ กอ.รมน. ซึ่งเขา

เศรษฐาได้ย้ำเรื่องว่าไม่ได้มีการคุยเรื่องการเมืองกับผู้บัญชาการกองทัพเลยมีแต่เรื่องเกี่ยวกับการช่วยเหลือแรงงานที่ติดอยู่ที่อิสราเอล และได้ช่วยคุยกับกระทรวงการคลังและกรมธนารักษ์ที่จะดำเนินการทางด้านกฎหมายเพื่อนำที่ดินสู่ประชาชนได้ ไม่มีเรื่องการเมืองเลยแม้แต่นิดเดียว

พลเอก เจริญชัย หินเธาว์ รอง ผอ.รมน. ได้กล่าวเพิ่มเติมในรายละเอียดเรื่องการนำที่ดินของกองทัพมาใช้ช่วยเหลือประชาชนเพิ่มเติมว่า ที่ดินที่จะนำมาใช้ครั้งนี้ไม่ได้มีแต่ของกองทัพบกอย่างเดียวแต่เป็นของหน่วยราชการในกระทรวงกลาโหม และเรื่องนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมก็ได้เร่งรัดมาด้วยโดยมอบให้กองทัพบกเป็นเจ้าภาพ จึงได้มีการเชิญจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงการคลังและผู้นำเหล่าทัพมาประชุมที่กองทัพบก

รายละเอียดการประชุมครั้งนั้นคือที่ดินของเหล่าทัพต่างๆ มีพื้นที่ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์และมีพี่น้องประชาชนที่ต้องการนำไปประกอบอาชีพเท่าไหร่ ซึ่งบางพื้นที่กองทัพมีความพร้อมที่จะส่งคืนแต่ด้วยระบบที่ติดกับระเบียบบางเรื่องรัฐบาลโดยนายกฯ ได้ช่วยขจัดและแก้ปัญหาเหล่านี้ทำให้ที่ดินเหล่านั้นสามารถนำมาใช้ประโยชน์ให้กับประชาชนได้ เช่น ที่ผ่านมากองทัพบกเคยทำเรื่องส่งคืนที่ดินกว่า 5 แสนไร่ในปี 2552 แต่ด้วยระเบียบทำให้เกิดความไม่พร้อมในการส่งคืนทำให้ส่งคืนได้ 5 หมื่นไร่ แต่ด้วยรูปแบบที่นายกฯ ให้ไว้คือหนองวัวซอโมเดลนี้ขั้นตอนในปัจจุบันมีการสอบสวนสิทธิการครอบครองใช้ประโยชน์ และรับคำร้องขอเช่าที่ราชพัสดุโดยกระบวนการเหล่านี้จะเสร็จสิ้นในวันที่ 25 ธ.ค.2566 เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่แก่ประชาชนตามที่นายกฯ กล่าวไป

โครงการหนองวัวซอจะใช้เป็นต้นแบบในการจัดระเบียบที่ดินของกระทรวงกลาโหมในเบื้องต้นในอีก 3 พื้นที่คือที่ดินของกองบัญชาการกองทัพไทยบ้านแก่นประลอง และบ้านพุลวด อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี รวมเนื้อที่ 2,300 ไร่เศษ และที่ดินของกองทัพเรือ ต.แหลมฟ้าผ่า อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ขนาด 300 ไร่เศษ และพื้นที่ของกองทัพอากาศเป็นสนามบินนครพนม อ.เมือง จ.นครพนม เนื้อที่ประมาณ 500 ไร่เศษ ซึ่งนโยบายของรัฐบาลนี้จะช่วยแก้ไขปัญหาขาดแคลนที่ดินทำกินของประชาชนและจะเป็นการเปลี่ยนสถานะของประชาชนที่ครอบครองที่ดินโดยไม่ได้รับอนุญาตให้กลายเป็นผู้เช่าใช้ที่ดินอย่างถูกกฎหมายก็จะลดปัญหาความขัดแย้งระหว่างประชาชนและเจ้าหน้าที่รัฐได้เป็นอย่างด

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net