ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง “สายน้ำ” นักกิจกรรม คดีม.112 กรณีพ่นสีทับข้อความ “ทรงพระเจริญ” และติดป้าย“Cancel Law 112”บนพระบรมฉายาลักษณ์ เหตุพยานหลักฐานไม่พอและไม่น่าเชื่อถือ แต่ยังปรับ 4พันบาทข้อหา พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เนื่องจากไปชุมนุมจริง

8 ก.ค. 2567 เวลา 8.30 น. ที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง นภสินธุ์ ตรีรยาภิวัฒน์ หรือ สายน้ำ เดินทางไปฟังคำพิพากษาของศาลชั้นอุทธรณ์ในคดีที่อัยการฟ้องในข้อหาหมิ่นประมาทกษัตริย์ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 กรณีถูกกล่าวหาว่าพ่นสีทับข้อความ “ทรงพระเจริญ” และติดกระดาษข้อความ “Cancel Law 112” บนพระบรมฉายาลักษณ์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการอ่านคำพิพากษาวันนี้มีสส.จากพรรคก้าวไกลมาร่วมสังเกตการณ์ด้วย ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด และ ปิยรัฐ จงเทพ หรือโตโต้ พร้อมกับมีประชาชนมาติดตามให้กำลังใจด้วย

ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายกฟ้องตามศาลชั้นต้นโดยให้เหตุผลเชนเดียวกันว่า พยานและหลักฐานของโจทก์ไม่มีน้ำหนักเพียงพอที่จะรับฟังได้ จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้กับจำเลย แต่ยังให้ลงโทษปรับเงิน 4,000 บาท ในข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินอยู่

ทั้งนี้ในศาลชั้นต้นเคยยกฟ้องโดยให้เหตุผลว่าภาพที่ใช้เป็นหลักฐานนั้นเป็นภาพด้านหลังของชายชุดดำกำลังพ่นสีและสุดไฟเผาไม่เห็นหน้าตาหรือด้านหน้าอย่างชัดเจน และวันเกิดเหตุยังมีคนแต่งกายคล้ายกับจำเลยจึงสามารถพิสูจน์ได้ว่าจำเลยเป็นผู้กระทำตามที่ถูกกล่าวหา อีกทั้งภาพที่ใช้กล่าวหายังเป็นภาพจากเพจในเฟซบุ๊กชื่อ “ปราชญ์ สามสี” เท่านั้นแล้วตำรวจก็ไม่ได้นำตัวผู้โพสต์มาสอบสวนถึงที่มาของภาพดังกล่าวอีกด้วย จึงให้สงสัยว่าภาพดังกล่าวถูกต้องและน่าเชื่อถือหรือไม่ด้วย แต่ให้ลงโทษปรับเงิน 6,000 บาท เนื่องจากฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เหตุพบว่าจำเลยไปชุมนุมจริง แต่ศาลให้ลดโทษเหลือ 4,000 บาท