Skip to main content
sharethis

มีการตั้งข้อสังเกตว่า หลายภูมิภาคของรัสเซียใช้งบประมาณขยายสุสานเพิ่มเกือบ 3 เท่าในช่วง 2 ปีแรกที่มีการทำสงครามกับยูเครน เมื่อเทียบกับ 2 ปีก่อนหน้านั้น ที่ใช้งบประมาณน้อยกว่า


ที่มาภาพ: YeahDog/Flickr (CC BY-NC 2.0) 

28 ก.ค. 2567 สื่อมอสโกไทม์รายงานโดยอาศัยข้อมูลการจัดซื้อของรัฐบาลรัสเซีย ระบุว่าในหลายภูมิภาคของรัสเซียมีการใช้งบประมาณมากกว่า 225 ล้านรูเบิล (ราว 89 ล้านบาท) ไปกับการขยายสุสานเมื่อปี 2566 ซึ่งนับเป็นจำนวน 2 เท่าเมื่อเทียบกับปี 2565 และเกือบจะ 6 เท่าเมื่อเทียบกับปี 2563 ก่อนที่จะมีการระบาดใหญ่ของ COVID-19

ในปีนี้ (2567) ทางการรัสเซียได้ใช้เงินงบประมาณไปแล้ว 136 ล้านรูเบิล (ราว 54 ล้านบาท) ช่วงครึ่งปีแรกเพื่อการขยายสุสาน เทียบกับก่อนหน้านี้ในปี 2563 ที่มีการใช้งบเพื่อการนี้ไป 38 ล้านรูเบิล (ราว 15 ล้านบาท) ขณะที่ในปี 2564 มีการใช้งบไปตรงนี้มากกว่า 124 ล้านรูเบิล (ราว 50 ล้านบาท) และในปี 2565 ใช้ไป 122 ล้านรูเบิล (ราว 49.8 ล้านบาท)

ในช่วงก่อนหน้าการระบาดของ COVID-19 คือปี 2561-2562 ภูมิภาคในรัสเซียได้ใช้งบประมาณ 1,100 ล้านรูเบิล (ราว 456 ล้านบาท) ไปกับสุสานแต่ในช่วงเวลานั้นเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่รัฐบาลทำโครงการรีโนเวทสุสาน จากกราฟของมอสโกไทม์ เมื่อพิจารณาโดยไม่รวมเรื่องการรีโนเวทสุสานแล้ว ปี 2561 มีการใช้งบขยายสุสานอยู่ที่ 80 ล้านรูเบิล (33 ล้านบาท) และในปี 2562 ใช้ไป 45.4 ล้านรูเบิล (ราว 18.9 ล้านบาท) เท่านั้น

สถิติของทางการรัสเซียไม่ได้ระบุถึงการเสียชีวิตที่มาจากสงครามในยูเครนโดยตรง แต่มีการระบุถึงจำนวนผู้เสียชีวิตโดยรวมว่าลดลงร้อยละ 22 ในปี 2565 และลดลงอีกร้อยละ 7.6 ในปี 2566

ในขณะเดียวกันเว็บไซต์สื่ออิสระเมดูซ่าก็วิเคราะห์กรณีการรับมรดกในรัสเซีย จนทำให้สามารถประเมินได้ว่ามีจำนวนชาวรัสเซียผู้เสียชีวิตจากสงครามประมาณ 120,000 ราย ในขณะที่นักข่าวจากสื่อมีเดียโซนาและบีบีซีรัสเซียก็สามารถยืนยันตัวตนของทหารรัสเซียผู้ถูกสังหารในสงครามยูเครนว่ามีจำนวนมากกว่า 58,000 นาย

ข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติรัสเซียระบุว่า มีการเสียชีวิตเพิ่มมากขึ้นร้อยละ 18 ในปี 2563 เทียบกับปีก่อนหน้านี้ และในปี 2564 อัตราการเสียชีวิตก็เพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 15.1 จนอยู่ในระดับเดียวกับยุคสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งทางการรัสเซียยืนยันว่าตัวเลขมากกว่า 680,000 รายเป็นการเสียชีวิตด้วยสาเหตุจาก COVID-19 ในช่วง 2 ปีแรกของการระบาดใหญ่ อย่างไรก็ตามกลุ่มนักวิทยาศาสตร์จากสถาบันนานาชาติเพื่อการวิเคราะห์ระบบที่มีฐานปฏิบัติการในออสเตรีย ได้ทำการประเมินว่าตัวเลขที่แท้จริงของผู้เสียชีวิตจากการระบาดใหญ่ในรัสเซียนั้นมีมากเกินกว่า 1 ล้านราย

แต่ถึงแม้จะเป็นช่วงโรคระบาดใหญ่ แต่ก็มีการใช้งบประมาณไปกับการขยายสุสานในรัสเซียเพียงครึ่งเดียวเท่านั้นเมื่อเทียบกับช่วง 2 ปีที่ทำสงคราม

ยาน ไบรด์ นักประชากรศาสตร์กล่าวว่าสงครามยูเครนเป็นเพียงแค่ปัจจัยหนึ่งเท่านั้นที่เป็นสาเหตุของการขยายสุสานในรัสเซียช่วง 2 ปีที่ผ่านมา สาเหตุอื่นๆ อย่างการเสียชีวิตด้วยสาเหตุธรรมชาติ กรณีประชากรสูงวัยและการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับแอลกอฮอล์ก็เป็นสิ่งที่นำไปสู่การขยายสุสานเพิ่มเช่นกัน

รัสเซียขยายสุสานในพื้นที่รอบนอกมากกว่าในเมืองใหญ่

ภูมิภาคในรัสเซียที่ทำการขยายสุสานมากที่สุดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาคือ เขตปกครองตนเองคันตี-มันซี ซึ่งมีการใช้เงินงบประมาณขยายสุสานไปกว่า 262 ล้านรูเบิล (109 ล้านบาท) เขตปกครองตนเองแห่งนี้ได้รับการจัดอันดับว่าเป็นภูมิภาคที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจสูงเป็นอันดับที่ 2 รองจากมอสโก ในขณะที่พื้นที่ๆ เมืองใหญ่ในรัสเซียพื้นที่อื่นๆ นั้นใช้งบประมาณขยายสุสานน้อยกว่ามากเมื่อเทียบกับ คันดี-มันซี

ในเขตปกครองตนเองคันดี-มันซี มีการขยายสุสานในพื้นที่ชุมชนหลายแห่ง ในขณะที่ข้อมูลการจัดซื้อของรัฐบาลระบุว่าอัตราการเสียชีวิตของผู้คนในภูมิภาคนี้ลดลง สำนักงานสถิติรัสเซียระบุว่า มีจำนวนผู้เสียชีวิตในปี 2566 ลดลงราวร้อยละ 4 ข้อมูลจากรัฐบาลรัสเซียระบุอีกว่าในเมือง นีซนีวาร์ตอฟสค์ มีการใช้งบขยายสุสานมากกว่า 233 ล้านรูเบิล (ราว 97.5 ล้านบาท) โดยมีการดำเนินโครงการเป็น 4 ลำดับขั้น มีข้อมูลระบุว่าพื้นที่ๆ ใช้ขยายสุสานนั้นมีการตัดป่ามากกว่า 18.75 ไร่ คิดเป็นสนามฟุตบอลราว 4 สนาม

มอสโกไทม์คำนวณแล้วพบว่าภูมิภาคทิวเมนที่ประกอบด้วยเขตปกครองตนเองคันดี-มันซี และ เขตปกครองตนเองยามาโล-เนเนตส์ เป็นภูมิภาคที่ใช้งบประมาณไปกับการจัดงานศพให้กับทหารมากที่สุดช่วงระหว่างปี 2565-2566 นอกจากนี้ในเมือง คาเมนสค์ อูราลสกี ก็มีการขยายสุสานโดยมีการจัดสรรที่ดินสองบล็อกไว้ให้กับผู้ที่เสียชีวิตจากการไปรบในสงครามยูเครน

สำหรับภูมิภาคที่มีการฝังทหารผู้เสียชีวิตสงครามยูเครนมากที่สุดนั้นคือบูเรียเทีย ที่มีทหารและเจ้าหน้าที่ทหารถูกฝังอยู่ราว 1,500 นาย

การขยายสุสานราวร้อยละ 40 เกิดขึ้นในพื้นที่ที่อยู่อาศัยในเมืองหรือในหมู่บ้าน ขณะที่ร้อยละ 60 เกิดขึ้นในเมืองเล็กๆ โดยในเมืองใหญ่หรือเมืองหลวงระดับภูมิภาคอย่าง มอสโก, เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก และ มูร์มันสค์ นั้นมีสุสานอยู่เพียง 3 แห่งเท่านั้น

เซอร์เก คริเวนโก ผู้อำนวยการขององค์กรสิทธิมนุษยชน กราซดานิน, อาร์มิยา, ปราโว ("พลเมือง กองทัพ สิทธิ") กล่าวว่า "สำหรับสุสานเล็กๆ ในชนบท แค่โลงศพที่มาจากยูเครน 10-20 โลงก็ถือว่าเยอะแล้ว ดังนั้นแล้วพวกเขาจะขยายสุสานที่นั่นอย่างแน่นอนเนื่องจากสงครามและปัจจัยอื่นๆ นอกจากนี้แล้ว ในบางภูมิภาคมีการตัดสินใจฝังทหารไว้ที่สุสานในชนบทแทนที่จะเป็นสุสานภายในเมือง นี่เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่เอามาอ้างใช้ขยายสุสานในพื้นที่ชนบทได้"


เรียบเรียงจาก
Russian Spending on Cemetery Expansion Triples Since Ukraine Invasion, The Moscow Times, 22-07-2024
 

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net