Skip to main content
sharethis

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเผยประชาชนลงทะเบียนรับสิทธิ์ Digital Wallet กว่า 24 ล้านคนแล้ว - รัฐบาลยืนยัน แอปฯ “ทางรัฐ” มีมาตรการป้องกันการโจรกรรมข้อมูลอย่างรัดกุม มีความปลอดภัยสูง ย้ำระบบคลาวด์ภาครัฐ มีระดับเสถียรภาพไม่น้อยกว่า 99.5% อย่ากังวลเรื่องถูกแฮ็กข้อมูล

4 ส.ค. 2567 นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ขอบคุณความร่วมมือของทุกหน่วยงาน รวมทั้งภาคเอกชน ช่วยอำนวยความสะดวกประชาชนในการลงทะเบียนรับสิทธิ์ Digital Wallet โดยข้อมูลล่าสุดมีคนลงทะเบียนตรวจสอบตัวตนแล้วกว่า 24 ล้านคน (สถานะ ) รวมทั้ง โฆษกรัฐบาลกล่าวว่า กระแสตอบรับยอดลงทะเบียนของประชาชนเป็นกำลังใจในการเดินหน้าทำงาน สู้กับเสียงคัดค้าน ด้อยค่า หวังผลทางการเมือง แต่ไม่ได้ทำให้กำลังใจของรัฐบาลลดลงเพราะมีเสียงสะท้อนที่มีค่าจากประชาชน ซึ่งขอให้ประชาชนรับฟังการประชาสัมพันธ์จากหน่วยงานรัฐบาล อย่าหลงเชื่อข่าวลวงสร้างความสับสน

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีระบุว่า ขณะนี้หน่วยงานจากทุกภาคส่วนร่วมอำนวยความสะดวกในการลงทะเบียนให้กับประชาชนกลุ่มผู้ที่มีสมาร์ทโฟน ที่อาจประสบปัญหา และไม่ได้รับความสะดวกเท่าที่ควร หรือต้องการความช่วยเหลือจากเดิมมีกว่า 5,000 จุด ปัจจุบัน เพิ่มเติมที่ธนาคารกรุงไทย 900 จุด รวมเป็นกว่า 6,000 จุด

โดยรัฐบาลได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อำนวยความสะดวกในการลงทะเบียนฯ ให้กับประชาชน โดยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีประชาสัมพันธ์สถานที่จุดให้บริการ (Walk – in) สอบถามข้อมูล และให้บริการรับลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ดังนี้

- ศูนย์ดิจิทัลชุมชน จำนวน 1,722 ศูนย์ทั่วประเทศ
- ที่ทำการไปรษณีย์ จำนวน 1,200 แห่ง ทั่วประเทศ (ยกเว้น ไปรษณีย์อนุญาต (เอกชน) และร้านค้าให้บริการ)
- ธนาคารออมสิน 1,047 แห่ง ทั่วประเทศ
- ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จำนวน 1,238 แห่งทั่วประเทศ
- ธนาคารกรุงไทย จำนวน 900 แห่ง ทั่วประเทศ

ทั้งนี้ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคท (ดีอี) กระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้จัดเตรียมเจ้าหน้าที่ให้บริการอำนวยความสะดวกประชาชนตลอดเวลาทำการ ส่วนพี่น้องประชาชนกลุ่มผู้ที่ไม่มีสมาร์ทโฟน ซึ่งจะเปิดให้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ย. – 1 ต.ค. 2567 โดยรัฐบาลจะมีการแจ้งวิธีการลงทะเบียนและจุดให้บริการอย่างเป็นทางการต่อไป

รัฐบาลยืนยัน แอปฯ “ทางรัฐ” มีมาตรการป้องกันการโจรกรรมข้อมูลอย่างรัดกุม มีความปลอดภัยสูง

ด้านนายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลเรื่องสมัครแอปฯ ทางรัฐด้วยบัตรประชาชนและสแกนใบหน้า เสี่ยงถูกแฮ็ก เพราะเป็นระบบเปิดเชื่อมไปยังบัญชีธนาคาร นั้น

นายคารม กล่าวว่า สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า แอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ที่ สพร. หรือ DGA ได้พัฒนาขึ้น เพื่อเป็นศูนย์รวมบริการต่าง ๆ ที่รวบรวมบริการภาครัฐ ง่าย จบ ครบทุกช่วงวัย ในแอปพลิเคชันเดียว เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการภาครัฐได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ช่วยอำนวยความสะดวก ลดขั้นตอน ลดการใช้กระดาษ ตอบรับสังคม Paper less รวมถึงทำให้การทำงานโปร่งใส ตรวจสอบได้ และลดการเกิดปัญหาคอร์รัปชัน โดยได้รับความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐต่าง ๆ ในการนำข้อมูลและบริการต่าง ๆ ของหน่วยงานภาครัฐมาให้บริการผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ซึ่งข้อมูลและบริการต่าง ๆ เหล่านี้จะได้รับการเชื่อมโยงไปยังหน่วยงานรัฐผู้รับผิดชอบข้อมูลและบริการนั้น ๆ โดยตรง ไม่ได้มีการคัดลอกหรือสำเนาข้อมูล มาไว้ที่ สพร. แต่อย่างใด

ทั้งนี้ สพร. ทำหน้าที่เชื่อมโยงข้อมูลไปที่หน่วยงานเจ้าของบริการและข้อมูลนั้น ๆ เท่านั้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนเรียกดูข้อมูลส่วนตัว ซึ่งแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” เป็นเพียงช่องทางในการเชื่อมโยงข้อมูลไปยังหน่วยงานต้นทาง และจะไม่มีการเก็บข้อมูลของประชาชนไว้ที่แอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” แต่อย่างใด

ซึ่งการเชื่อมโยงไปยังระบบดิจิทัลของหน่วยงานภาครัฐต่าง ๆ ผ่านแพลตฟอร์มที่ติดตั้งอยู่บนระบบคลาวด์ภาครัฐ (Government Cloud) มีระดับเสถียรภาพ (SLA) ไม่น้อยกว่า 99.5% และเป็นระบบที่มีมาตรการป้องกันการโจรกรรมข้อมูลอย่างรัดกุม มีความปลอดภัยสูง ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO/IEC 27001:2013 ระบบการบริหารจัดการความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ (Information Security Management Systems – ISMS) ตลอดจนแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” และระบบงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง มีการดำเนินการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และ พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ พ.ศ. 2562 ดังนั้น ข้อมูลส่วนบุคคลที่แสดงในแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” สามารถเข้าถึงได้เฉพาะเจ้าของข้อมูลและผู้มีอำนาจตามกฎหมายในการเข้าถึงข้อมูลเท่านั้น

“รัฐบาลยืนยันแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” และระบบงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องมีการดำเนินการตามมาตรการป้องกันการโจรกรรมข้อมูลอย่างรัดกุม มีความปลอดภัยสูง ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO/IEC 27001:2013 ระบบการบริหารจัดการความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ (Information Security Management Systems – ISMS) มั่นใจได้ว่า ข้อมูลจะไม่ถูกเปิดเผยไปภายนอกได้” นายคารม ย้ำ

 

ที่มาเรียบเรียงจากเว็บไซต์รัฐบาลไทย [1] [2] 

 

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net