Skip to main content
sharethis

'สุริยะ' ยืนยันที่ประชุม สส.พรรคเพื่อไทย สนับสนุน ‘แพทองธาร’ เหมาะนั่งเก้าอี้เป็นนายกฯ ส่วน ‘จุลพันธ์’ คาดนโยบายดิจิทัลวอลเลตจะมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้นหลังตั้ง ครม.ใหม่

 

15 ส.ค. 2567 เพจเฟซบุ๊ก อมรินทร์ทีวี โพสต์คลิปวิดีโอวันนี้ (15 ส.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 14.30 น. สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) พรรคเพื่อไทย กล่าวยืนยันว่า ที่ประชุม สส.พรรคเพื่อไทยสนับสนุน แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวของทักษิณ ชินวัตร แคนดิเดทนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย คนที่ 2 เหมาะสมนั่งตำแหน่งนายกฯ 

"หลังคำตัดสินออกมาก็ได้มีการพูดคุยกันในพรรคร่วมรัฐบาล และท่านคงจะทราบว่า ในที่สุดเช้านี้เอง พรรคเพื่อไทยก็มีการประชุม สส.กัน ทุกคนก็คงจะเห็นว่าน้องอุ๊งอิ๊งค์ หรือแพทองธาร ควรจะได้รับการสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งผมคิดว่า การที่ยังสาวอยู่ มีกำลังแข็งแรง พร้อมจะทุ่มเทให้กับประเทศชาติ ผมชื่อชมท่าน เพราะว่าท่านเสียสละ ผมเชื่อว่าท่านเองจริงๆ ต้องดูแลลูกน้อยอยู่ แต่พอสถานการณ์อย่างนี้ท่านคิดว่าจำเป็นแล้ว ท่านก็ลงมาช่วย" สส.พรรคเพื่อไทย กล่าวต่อว่า ต่อไปจะมีการโหวตนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ (16 ส.ค.)

เมื่อเข้าไปเสนอกรรมการบริหารพรรคแล้วจะไม่มีการเปลี่ยนใจใช่หรือไม่ สุริยะ กล่าวว่า หาก กก.บห.พรรคทำอะไรที่แตกต่างจากมติของ สส. เขาขอใช้คำว่าพรรคมันจะอยู่ไม่ได้ เชื่อว่า กก.บห.จะทำตามมติของที่ประชุม สส.

ต่อกรณีที่สื่อถามว่าจะไม่มีการปรับเปลี่ยนนโยบายทางเศรษฐกิจของรัฐบาลใช่หรือไม่ สุริยะ กล่าวว่า เขาคิดว่านโยบายเศรษฐกิจ ถ้าเรามองย้อนไปมีความแข็งแกร่งตั้งแต่สมัยทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรี และถ้าจำได้ว่าเราเผชิญวิกฤตต้มกุ้ง แต่เราสามารถจ่ายเงินให้ IMF ได้ก่อนเวลา ซึ่งเป็นจุดแข็งของการมองปัญหาทางเศรษฐกิจ ซึ่งเขาคิดว่าเรื่องนี้เป็นจุดแข็งของพรรคเพื่อไทย ในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้แน่นอน

ต่อประเด็นที่สื่อถามว่าหลังจากแพทองธาร ได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 แล้ว บทบาทของทักษิณ ต่อพรรคเพื่อไทยจะเป็นอย่างไร สุริยะ กล่าวว่า ใครเคยอยู่สมัยไทยรักไทย ความรู้ความสามารถของทักษิณ ท่านได้ออกรายการนายกฯ พบประชาชน พูดถึงมุมมองการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจมองในภาพรวม เรียกความเชื่อมั่น พอลูกสาวได้มาเป็นนายกรัฐมนตรี คงได้มีโอกาสทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด และสามารถให้คำแนะนำแพทองธาร หัวหน้าพรรคฯ ได้

มีความกังวลเรื่องสถานการณ์ทางการเมืองที่ไม่มีความแน่นอนหรือไม่ สุริยะ กล่าวว่า เขาคิดว่าในส่วนของรัฐธรรมนูญที่เขียนไว้มันเป็นปัญหาอุปสรรคแน่ๆ ที่คุยกันในพรรคร่วมรัฐบาล และคงต้องดูว่าจะมีการปรับแก้ไขอย่างไร พรรคเพื่อไทยจะมีนักกฎหมายที่เข้ามาอยู่ในคณะรัฐมนตรีด้วย ซึ่งจะช่วยดูแลให้เกิดความรอบคอบ เรื่องที่เป็นประเด็นสุ่มเสี่ยงและเกิดการโต้แย้ง ก็คงจะหลีกเลี่ยง

รอความชัดเจนนโยบายดิจิทัลวอลเลตหลังแถลงนโยบาย ครม.ใหม่

เพจเฟซบุ๊ก The Reporters รายงานเมื่อเวลาประมาณ 14.38 น. จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รักษาการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์สื่อว่า กรณีโครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเลต 10,000 บาท ว่าโครงการนี้ได้รับการอนุมัติในหลักการ และรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังก็ได้สั่งการให้เดินหน้า ตนเองในฐานะที่ดูในเรื่องนี้ จึงเดินหน้าทำต่อตามกรอบอำนาจหน้าที่ของรักษาการคณะรัฐมนตรีที่มีอยู่

จุลพันธ์ ยอมรับว่า ในอนาคตจะเป็นอย่างไรนั้นต้องให้เกียรติรัฐบาลใหม่ และนายกรัฐมนตรีใหม่ ที่จะมีการเลือกในวันพรุ่งนี้ (16 ส.ค.) หลังจากนั้นเมื่อมีนายกรัฐมนตรีมีการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีได้รับโปรดเกล้าฯ ครบถ้วน ก็ต้องมีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งต้องดูว่าหลังจากการเจรจาหารือโครงการใดบ้างจะได้รับการบรรจุอยู่ในแนวนโยบายของรัฐบาล เราถึงจะได้เห็นความชัดเจน ซึ่งในส่วนของพรรคเพื่อไทยเรื่องนี้เป็นนโยบายของพรรค หากเพื่อไทยเป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาลเราต้องเสนอนโยบายนี้ไปอยู่ในการเจรจา ฉะนั้นผลเป็นอย่างไร ต้องรอความชัดเจนต่อไป และแน่นอนว่าจะต้องรอการแถลงนโยบายของนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง ส่วนขั้นตอน ณ เวลานี้ถ้ายังไม่มีคำสั่งเปลี่ยนแปลงจากคณะรัฐมนตรี เราก็มีหน้าที่ทำตามภาระหน้าที่ ที่ได้รับการสั่งการมา

"ประชาชนรออยู่เราก็รู้ เราจะทำให้ดีที่สุด" รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าว

จุลพันธ์ กล่าวต่อว่า การประชุม ครม.ในวันนี้จะมี 2 เรื่องหลัก คือ เรื่องที่นายกรัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่ง ก็ต้องมีการมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีท่านใดท่านหนึ่งเป็นรักษาการ และต้องคุยกันในเรื่องของกรอบอำนาจหน้าที่ในการเป็นรักษาการว่าจะทำอะไรได้หรือไม่ได้ แม้แต่ตนเอง จะมีการประชุมที่กระทรวงฯ ก็ต้องสั่งเลื่อนไว้ก่อน เพราะต้องรอความชัดเจนจากที่ประชุมในวันนี้ว่าอำนาจในส่วนใดที่สามารถขับเคลื่อนต่อไปได้ ในส่วนใดที่ต้องชะลอไว้ก่อนต้องมาหารือกัน แต่ก็ถือว่าเป็นโชคดีที่ทางสภา นัดหมายให้มีการเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ในวันพรุ่งนี้ หากราบรื่น และสามารถเดินหน้าได้ก็จะเป็นประโยชน์เพราะประเทศไทยไม่ควรอยู่ในภาวะเว้นว่างนานเกินไป มันกระทบเศรษฐกิจ สังคม การเมืองทุกอย่าง

รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงนโยบายหลักพรรคเพื่อไทยต้องเดินต่อไปหรือไม่ว่า ต้องมาคุยกัน แต่ตอนนี้ยังไม่ได้มีการคุยกันในรายละเอียด ตนเองในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ก็มีการพูดคุยกันในเรื่องของการฟอร์มรัฐบาล มีการคุยเพื่อจับกลุ่มรวมกันเป็นรัฐบาล แต่ในรายละเอียดปลีกย่อย ต้องมีการหารือพอสมควรในระยะเวลาข้างหน้า

จุลพันธ์ ยืนยันว่า งบประมาณที่ล่าช้าออกไปจะไม่กระทบโครงการ เพราะงบประมาณปี 2567 ผ่านสภาไปแล้วเรียบร้อย และงบปี 2568 อยู่ในขั้นตอนของสภาผู้แทนราษฎร มันพ้นจากฝ่ายบริหารไปแล้ว ขั้นตอนในการประชุมกรรมาธิการฯ ก็ยังคงอยู่ เมื่อพิจารณาเสร็จแล้วจะเข้าสู่การประชุมในวาระที่ 2-3 และส่งให้วุฒิสภาพิจารณาต่อไป เป็นไปตามกรอบไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

ผู้สื่อข่าวถามว่าในงบปี 2567 เพิ่มเติมวงเงิน 2 แสนล้านบาท หากไม่ทำโครงการดิจิทัลวอลเลตจะนำเงินไปทำอย่างอื่นได้หรือไม่ จุลพันธ์ กล่าวว่าตรงนี้ยังไม่ได้คิด เดี๋ยวไปดูอีกที
 

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net