จับตา 'อรรถสิทธิ์ นุสสะ' เหยื่อซ้อมทรมาน สน.ดินแดง เมื่อปี 64 ฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย สตช. สืบพยานเสร็จแล้ว นัดฟังคำพิพากษา 26 ส.ค 2567 ด้านคดีอาญายังค้างที่ สน.ดินแดง แม้ผ่านไป 3 ปี

27 มิ.ย. 2567 มูลนิธิผสานวัฒนธรรม รายงานวันนี้ (27 มิ.ย.) ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ได้สืบพยานโจทก์และพยานจำเลยต่อเนื่อง รวม 11 ปาก และนัดฟังคำพิพากษาวันที่ 26 ส.ค. 2567 เวลา 09.00 น.คดีนี้ อรรถสิทธิ์ นุสสะ ผู้เสียหายจากการถูกซ้อมทรมานโดนเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ดินแดง เป็นโจทก์ยื่นฟ้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) หน่วยงานต้นสังกัดของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กระทำความผิด เป็นจำเลยในคดี เพื่อเรียกร้องให้ชดใช้ค่าเสียหาย ตาม พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 รวมเป็นเงินกว่า 3.3 ล้านบาท

ในการสืบพยานโจทก์ มีพยานโจทก์เบิกความ 6 ปาก ได้แก่ อรรถสิทธิ์ นุสสะ (โจทก์) แพทย์ผู้ทำการตรวจร่างกายอรรถสิทธิ์ หลังจากเกิดเหตุ พยานผู้อยู่ในเหตุการณ์ขณะที่มีการจับกุมอรรถสิทธิ์ ผู้เชี่ยวชาญประเด็นการกระทำทรมานและการกระทำโหดร้ายย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ทนายความผู้เข้าพบอรรถสิทธิ์ ในวันเกิดเหตุ และผู้ใกล้ชิดของอรรถสิทธิ์ ในวันเกิดเหตุ

ในส่วนของการสืบพยานจำเลย มีพยานจำเลยเบิกความ 5  ปาก ได้แก่ รองผู้กำกับ สน.ดินแดง ในขณะเกิดเหตุทำหน้าที่เป็นหัวหน้าชุดปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน รองสารวัตรสืบสวน สน.ดินแดง 2 นาย ทำหน้าที่สืบสวนติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดตามกฎหมาย พยานผู้เห็นเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุ ผู้กำกับ สน.ดินแดง ในขณะเกิดเหตุทำหน้าที่สืบสวนติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดตามกฎหมาย

สำหรับคดีนี้สืบเนื่องจากเหตุการณ์วันที่ 29 ต.ค. 2564 เวลาประมาณ 18.00 น. อรรถสิทธิ์เดินทางไปเข้าร่วมรำลึกไว้อาลัยและทวงถามความยุติธรรมให้แก่ วาฤทธิ์ สมน้อย เยาวชนอายุ 15 ปี ที่ถูกยิงเสียชีวิตหน้า สน.ดินแดง ระหว่างที่มีการชุมนุม โดยระหว่างที่เข้าร่วมกิจกรรมนั้น อรรถสิทธิ์ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ดินแดง เข้าจับกุมและควบคุมตัวไว้ใน สน.ดินแดง เป็นเวลา 1 คืนและถูกซ้อมทำร้ายร่างกายบังคับให้บอกข้อมูลภายในคืนนั้น จนได้รับบาดเจ็บบริเวณดวงตาและร่างกาย ก่อนที่อรรถสิทธิ์จะได้รับการปล่อยตัวในช่วงบ่ายของวันที่ 30 ต.ค. 2564 ภายหลังจากเกิดเหตุการณ์อรรถสิทธิ์ต้องเข้ารับการรักษาพยาบาลอย่างต่อเนื่องจากอาการบาดเจ็บทางร่างกายรวมถึงจิตใจ

บาดแผลหลังถูกควบคุมตัว และซ้อมทรมานของ อรรถสิทธิ์ นุสสะ แฟ้มภาพ เมื่อ 1 พ.ย. 2564

นับแต่เกิดเหตุ เส้นทางของการเรียกร้องความยุติธรรมเดินทางเข้าสู่ปีที่ 3 โดยที่ปัจจุบันยังคงไม่มีความคืบหน้าใดๆ แม้อรรถสิทธิ์ จะเดินหน้าเข้าแจ้งความร้องทุกข์ ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นคณะกรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร รวมถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เพื่อขอให้ช่วยสอบสวนหาข้อเท็จจริงและดำเนินคดีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกราย  ปัจจุบันคดีอาญา สำนวนคดียังคงอยู่ที่ สน. ดินแดง และไม่มีความคืบหน้าใดๆ

ทั้งนี้ มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ร่วมกับภาคีนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน ขอเชิญชวนสื่อมวลชนและประชาชนที่สนใจร่วมกันติดตามผลคำพิพากษาในวันและเวลาข้างต้น เพื่อให้มั่นใจว่าอรรถสิทธิ์จะได้รับความเป็นธรรมและได้รับการชดใช้เยียวยาจากการถูกซ้อมทรมาน เพื่อให้รับสารภาพ

อนึ่ง สิทธิที่จะไม่ถูกซ้อมทรมาน ปฏิบัติโหดร้ายไร้มนุษยธรรม ย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เป็นสิทธิอันสัมบูรณ์ที่ไม่อาจพรากไปจากบุคคลใดได้  และสังคมจะต้องร่วมกันป้องปรามไม่ให้กรณีเช่นนี้เกิดขึ้นกับประชาชนคนใดได้อีก รวมถึงยุติวัฒนธรรมลอยนวลของเจ้าหน้าที่รัฐให้ได้อย่างแท้จริง