Skip to main content
sharethis

โฆษกไทยสร้างไทยเตือน 'แพทองธาร' เดินเกมการเมืองผิดทิศทาง ต้องเจอศึก 3 ด้าน "ฝ่ายค้านในสภา+ฝ่ายแค้นนอกสภา+นิติสงคราม" - ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา’ 35 แนะควรแสดงภาวะผู้นำด้วยตนเองอย่าเป็นรัฐบาลเปลือกหอยมีคนคอยครอบงำบงการ


แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ขณะร่วมถ่ายภาพหมู่กับคณะรัฐมนตรี ณ บริเวณสนามหญ้า หน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 7 ก.ย. 2567 | แฟ้มภาพเว็บไซต์รัฐบาลไทย

8 ก.ย. 2567 สำนักข่าวไทย รายงานว่านายปริเยศ อังกูรกิตติ โฆษกพรรคไทยสร้างไทย ให้ความเห็นถึงสถานการณ์การเมืองที่ร้อนแรงในปัจจุบันว่า ตนเองคิดว่าการเดินเกมการเมืองของอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร รวมถึงคณะทำงานรอบข้างนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร นั้นเป็นไปในทิศทางที่ผิดทิศผิดทาง เพราะนอกจากจะไม่เป็นประโยชน์กับประชาชนแล้วยังสร้างศัตรูทางการเมืองขึ้นมาอย่างต่อเนื่องโดยไม่จำเป็นอีกด้วย การดูด สส.ฝ่ายค้านเข้าไปเป็นรัฐบาล การสร้างภาพผู้นำคนใหม่ว่ามีประชาชนรักใคร่และมีความเป็นมืออาชีพ รวมถึงการโยนพรรคร่วมรัฐบาลเก่าออกจากเรือ เป็นการเมืองที่น่าขยะแขยง น่าเห็นใจประชาชนที่กำลังเจอสถานการณ์การกินรวบทั้งด้านเศรษฐกิจและด้านการเมือง ส่วนด้านหน้าใช้วิธีการฉาบหน้าเป็นคนดีศรีสังคม การทำการเมืองแบบนี้ล่อแหลมมากเพราะถือเป็นการสร้างความขัดแย้งระลอกใหม่โดยไม่จำเป็น ทั้งที่การเมืองมาถึงจุดที่ควรสู้กันทางด้านนโยบายแล้วในปัจจุบัน

โฆษกไทยสร้างไทยกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า นอกจากนี้จากการกระทำหลายๆ เหตุการณ์ของรัฐบาลเพื่อไทยในปัจจุบัน เป็นเหมือนสายล่อฟ้า ให้เกิดการใช้นิติสงครามเข้ามาในการเมืองโดยไม่จำเป็น ทั้งด้านการผิดจริยธรรมนักการเมือง รวมถึงการถูกร้องเรียนด้านการยุบพรรค เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากการกระทำของทีมผู้บริหารพรรคเพื่อไทยในยุคปัจจุบันทั้งสิ้น ทั้งเรื่องนโยบายต่างๆ ที่คาดว่าจะเดินหน้าล้วนเป็นนโยบายที่สุ่มเสี่ยงด้านกฏหมาย สร้างประโยชน์น้อยมากสำหรับคนในประเทศ รวมถึงการสร้างปัญหาไม่รู้จบทั้งการเมืองภาพใหญ่จนถูกร้องเรียนและการเมืองท้องถิ่นจนต้องมีการเลือกตั้งซ่อม จึงเห็นได้ว่ารัฐบาลนี้กำลังทำงานขับเคลื่อนด้านการเมืองเป็นหลักมากกว่าด้านการสร้างผลประโยชน์ให้พี่น้องประชาชน สิ่งที่ตนสะท้อนออกมานี้ล้วนเป็นการแทนความรู้สึกของคนที่กำลังมีปัญหาหนี้สิน คนที่เจอปัญหาน้ำท่วม, เด็กๆที่หลุดออกจากระบบการศึกษานับล้านคน และหากรัฐบาลเพื่อไทยยังไม่สำนึกและกลับตัว หันมาใส่ใจเรื่องความเดือดร้อนของคนในประเทศ ตนเองจะทำหน้าที่นอกสภาให้แรงขึ้นเป็นทวีคูณและต่อเนื่องมากขึ้นไปอีก โฆษกไทยสร้างไทยกล่าว

ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา’ 35 แนะควรแสดงภาวะผู้นำด้วยตนเองอย่าเป็นรัฐบาลเปลือกหอยมีคนคอยครอบงำบงการ

ด้านนายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ผู้ก่อตั้งสภาที่ 3 และประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา’ 35 กล่าวถึงรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ภายหลังการถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ ว่า ขอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) น้อมนำพระบรมราโชวาทของ ในหลวง เป็นแนวทางในการทำหน้าที่เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติและประชาชน อย่างเคร่งครัด  สำหรับการแต่งตั้ง ครม.ของ นางสาวแพทองธาร  เป็นปรากฏการณ์ ที่มีนายกรัฐมนตรีอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์  สามารถตั้งรัฐมนตรีที่มีคุณสมบัติเหมาะสมถูกกับงาน มองเห็นประชาชนอยู่ในสมการ ขอชมเชยการยกระดับรัฐบาลที่สนับสนุนคนรุ่นใหม่มีโอกาสได้เข้ามาบริหารชาติบ้านเมือง จึงขอให้นายกรัฐมนตรี แสดงภาวะการนำด้วยตัวเอง อย่าเป็นรัฐบาลเปลือกหอยมีคนคอยครอบงำบงการ ทำให้ประชาชนเริ่มมั่นใจรัฐบาลภายใต้การนำของนางสาวแพทองธาร จะเป็นรัฐบาลแห่งความคาดหวัง ในภาวะที่ประชาชนคนไทยมีความทุกข์ยากแสนสาหัส ใครที่สามารถแก้วิกฤตเศรษฐกิจในช่วงนี้ได้ย่อมเป็นที่ยอมรับ

“ในภาวะที่เศรษฐกิจไทยยังฟื้นตัวช้า รัฐบาลต้องหยุดปล้นเงินจากกระเป๋าประชาชน ด้วยการลดราคาพลังงาน ลดความเดือดร้อนของประชาชนและลดต้นทุนการผลิต อย่างเร่งด่วน ออกมาตรการตามนโยบายของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และรมว.พลังงาน นอกจากนี้ต้องกับปรับลดส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยเงินกู้กับเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ลงตามมาตรฐานธนาคารทั่วโลก ส่วนโครงการเติมเงิน 1 หมื่นบาทผ่าน Digital Wallet  นั้น ให้แจกเป็นเงินสด เฉพาะผู้ได้รับผลกระทบจากปัญหาการครองชีพหรือกลุ่มเปราะบางที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวนเงิน 1.4 แสนล้านบาท เท่านั้น ไม่จำเป็นต้องแจกทั้งหมด เพราะจะกระทบต่อวินัยการเงินการคลังของประเทศ” นายอดุลย์ กล่าว    

นายอดุลย์ กล่าวถึงนโยบายที่ต้องทบทวนว่า การให้ต่างชาติเช่าซื้อที่ดินถึง 99 ปี  เป็นการปั่นราคาอสังหาริมทรัพย์ในประเทศให้สูงขึ้นเกินจริง ทำให้คนไทยไม่สามารถซื้อบ้านในราคาที่เหมาะสมได้  จึงต้องมีความรอบคอบ กำหนดทุนขั้นต่ำเพื่อไม่ให้กระทบผู้มีรายได้น้อย และมีมาตการทางภาษีที่สูงขึ้น  ส่วนนโยบายเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์และกาสิโนหรือบ่อนการพนันถูกกฎหมาย ไม่เหมาะกับสังคมไทย ซึ่งเคยมีการพนันถูกกฎหมายแล้วตั้งแต่สมัยต้นรัตนโกสินทร์ และยกเลิกในสมัยรัชกาลที่ 7    ต่อมาสมัยจอมพล.ป.ได้เปิดอีกครั้ง แต่ก็ต้องปิดตัวลง เนื่องจากคนไทยเล่นการพนันกันจนหมดเนื้อหมดตัวบางรายถึงกับฆ่าตัวตาย ผลการวิจัยทั่วโลกก็บ่งชี้ว่าได้ไม่คุ้มเสียจะเกิดผลกระทบทางสังคมในระยะยาว ประเทศไทยมีทรัพยากรธรรมชาติสวยงามมากมายที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาได้โดยไม่รีบร้อนหารายได้จาก ”เงินบาป” หากลดการโกงบ้านกินเมืองก็เหลือเงินมาพัฒนาประเทศอีกมากมาย   และอย่าให้มีการคอร์รัปชันเชิงนโยบายอีก

ประธานญาติวีรชนพฤษภา’35 กล่าวด้วยว่า รัฐบาลนส.แพทองธาร ต้องเร่งการนิรโทษกรรมคดีทางเมืองผลักดันการดำเนินการของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม สภาผู้แทนราษฎร  กฎหมายเดิมรวม 3 อำนาจอยู่ในฉบับเดียว จึงเป็นไปไม่ได้ถ้าไม่แยกอำนาจให้ชัดเจน ฉบับแรกเป็นหน้าที่สภาผู้แทนราษฎร นิรโทษคดีการเมืองทั่วไปก่อนได้เลย ส่วนคดี ม.112 ยังมีคนไม่เห็นด้วยอีกมากอย่าดันทุรังจะเกิดความขัดแย้งใหม่ จึงต้องรอฉบับที่ 2 นิรโทษคดี ม.112 ซึ่งเป็นพระราชอำนาจผู้ใดจะละเมิดมิได้ เชื่อว่าพระองค์ทรงมีพระเมตตาพสกนิกรทุกหมู่เหล่าอยู่แล้ว ซึ่งทราบโดยทั่วไปทรงมีภาระหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญในฐานประมุขของประเทศ ทรงทำทุกโอกาส เพื่อสร้างความสงบสุขในประเทศและความผาสุกของราษฎร

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net