Skip to main content
sharethis

ไทยส่งกลับ 2 ผู้ลี้ภัยพรรคฝ่ายค้านกัมพูชา หลังหนึ่งในนั้นเขียนบทกวีวิจารณ์ฮุนเซนที่เพจเฟซบุ๊กนายกรัฐมนตรี ด้านเพื่อนผู้ลี้ภัยเผยอยู่ระหว่างรวบรวมเงินประกันตัว แต่ทั้งคู่กลับถูกส่งตัวกลับประเทศแบบลับๆ ขณะที่ ผบช.สตม. ปฏิเสธไม่มีข้อมูล ฮิวแมนไรท์วอชท์ชี้ไทยละเมิดหลักการไม่ผลักดันกลับไปเผชิญอันตราย

เรดิโอฟรีเอเชีย (Radio Free Asia: RFA) รายงานเมื่อ 10 พ.ย. 2564 ว่า นักกิจกรรม 2 คน เปิดเผยต่อ RFA ว่า Voeun Veasna และ Voeung Samnang ถูกจับกุมขณะกำลังเดินทางกลับอพาร์ตเมนต์ เมื่อวันที่ 8 พ.ย. 2564 และถูกเรียกเงินเพื่อประกันตัว

9 ต.ค. 2564 Veasna ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Kranhoung Preylang โพสต์บทกวีที่มีชื่อว่า "ฮุนเซนคือผู้ทรยศ" ที่เพจเฟซบุ๊กของนายกรัฐมนตรีกัมพูชา บทกวีวิจารณ์ฮุนเซนที่แก้ไขรัฐธรรมนูญว่านำไปสู่ "การทำลายชาติ"  รวมถึงกล่าวหาว่าฮุนเซนปล่อยให้ป่าถูกทำลายในช่วงที่เขาดำรงตำแหน่งอยู่

ขแมร์ไทม์ส (Khmer Times) รายงานว่า ฮุนเซนโต้ตอบบทกวีของ Veasna อย่างรวดเร็ว โดยเรียกบทกวีของเขาว่าเป็น "ทฤษฎีสุดโต่ง" และเรียกร้องให้มีการจับกุมตัวเขา

Veasna นักกิจกรรมวัย 35 ปีราย ผู้มีความเกี่ยวข้องกับพรรคกู้ชาติกัมพูชา CNRP ลี้ภัยการเมืองอยู่ในประเทศไทย ส่วน Samnang ที่ถูกจับกุมไปด้วยโดยไม่มีคำสั่งจากฮุนเซน ไม่ทราบข้อมูลเกี่ยวกับเขามากนัก

Oeur Narith เพื่อนนักกิจกรรมของพรรคกู้ชาติกัมพูชา ที่ลี้ภัยอยู่ในประเทศไทยเช่นกัน กล่าวว่า เขากำลังทำงานร่วมกับองค์การสหประชาชาติและกลุ่มสิทธิมนุษยชนเพื่อรวบรวมเงินประกันตัว แต่ทางการไทยกลับส่งตัวทั้งคู่กลับกัมพูชาอย่างลับๆ

"เราได้พยายามอย่างเต็มที่ แต่พวกเขากลับถูกพาตัวไปแบบเงียบๆ โชคร้ายที่วันนี้พวกเขาถูกส่งกลับไปแล้ว" Narith กล่าว

อย่างไรก็ตาม แม้ Veasna และ Samnang จะถูกจับกุม แต่ Narith ยืนยันว่าจะไม่ถอดใจจากการสนับสนุนพรรคฝ่ายค้านกัมพูชา

"ฉันเสียสละเสรีภาพของฉัน และถูกกักขังมาบ้าง แต่ฉันจะยืนหยัดเพื่อประเทศชาติต่อไปโดยไม่เห็นแก่ตัว" Narith กล่าว

ขณะที่ พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) ปฏิเสธทางโทรศัพท์ต่อสำนักข่าวเบนาร์นิวส์ (BenarNews) เมื่อวันที่ 9 พ.ย. 2564 ว่า ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลเหล่านี้ ส่วน RFA ไม่สามารถติดต่อ Chhay Kim Khoeun โฆษกตำรวจแห่งชาติของกัมพูชา เพื่อขอความเห็นได้

ด้านฟิล โรเบิร์ตสัน (Phil Robertson) รองผู้อำนวยการฝ่ายเอเชียของฮิวแมนไรท์วอทช์ กล่าวว่า การที่ไทยส่งตัวบุคคลที่ได้รับสถานะผู้ลี้ภัยกลับไปยังกัมพูชาถือเป็นเรื่องรุนแรงและยอมรับไม่ได้ นับว่ารัฐบาลไทยละเมิดพันธกรณีในการคุ้มครองผู้ลี้ภัยโดยสมบูรณ์

"การส่งชายสองคนนี้กลับไปเผชิญการกดขี่ข่มเหง และมีแนวโน้มว่าจะถูกทำร้ายและซ้อมทรมานระหว่างถูกควบคุมตัว รัฐบาลไทยได้แสดงให้เห็นว่าพวกเขาให้คุณค่ากับการแลกเปลี่ยนทางการเมืองด้วยชีวิตคน มากกว่าการยืนหยัดต่อพันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชน" โรเบิร์ตสันกล่าว

ศาลฎีกากัมพูชาสั่งยุบพรรคกู้ชาติกัมพูชาเมื่อเดือน พ.ย. 2560 หลังจับกุมเข็ม โสกา (Kem Sokha) หัวหน้าพรรค ในข้อหาวางแผนโค่นล้มรัฐบาลเพียง 2 เดือน จากนั้นจำนวนผู้สนับสนุนพรรคที่ถูกจับกุมคุมขังก็เพิ่มสูงขึ้น ภายใต้ขั้นตอนทางกฎหมายที่ถูกทำให้ล่าช้า โดยอ้างข้อจำกัดจากโควิด-19

นอกจากฝ่ายค้านแล้ว ฮุนเซนยังใช้อำนาจปราบปรามสื่ออิสระและกลุ่มองค์กรพัฒนาเอกชนที่ไม่แสวงหากำไร (NGOs) จนทำให้พรรคประชาชนกัมพูชา (CCP) ชนะการเลือกตั้งในเดือน ก.ค. 2561 แบบเบ็ดเสร็จ 125 ที่นั่ง เป็นพรรคเดียวในสภา ทำให้สหรัฐอเมริกาคว่ำบาตรและถูกสหภาพยุโรประงับสิทธิพิเศษด้านการค้าไว้ชั่วคราว

ในอดีต ประเทศไทยเคยเป็นที่หลบภัยสำหรับผู้ลี้ภัยจากประเทศเพื่อนบ้าน แต่ก็มีประวัติส่งกลับผู้ลี้ภัยที่เสี่ยงจะถูกจองจำหรือถูกปฏิบัติอย่างโหดร้ายเช่นกัน

เรียบเรียงจาก

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net