Skip to main content
sharethis

รัฐบาลคอมมิวนิสต์จีนรื้อทำลาย 'พระพุทธรูปปัทมสมภพ' ของทิเบตในเมืองดราโก นับเป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 3 เดือนที่รัฐบาลจีนทำลายพระพุทธรูปอันเป็นที่สักการะของพุทธศาสนิกชน ท่ามกลางการละเมิดเสรีภาพในการนับถือศาสนาของชาวพุทธในทิเบตอย่างต่อเนื่อง 


ที่มาภาพ: Google Earth, CNES/Airbus (อ้างใน RFA)

เมื่อช่วงปลายเดือน ก.พ. 2565 มีรายงานว่าพระพุทธรูปองค์นี้มีความสูง 3 ชั้น เคยตั้งอยู่ที่วัดชานาง เมืองดราโก (หลูฮั่ว ในภาษาจีน) เขตปกครองตนเองชนชาติทิเบตคาร์ดเซ (ก่านซี) ในมณฑลเสฉวน รัฐบาลจีนเริ่มกระบวนการถูกทุบทำลายในช่วงปลาย ธ.ค. 2564 และเสร็จสิ้นลงเมื่อปลาย ม.ค. 2565 ข้อมูลนี้ได้รับการยืนยันโดยสำนักข่าว RFA ผ่านการใช้ข้อมูลจากภาพดาวเทียม และแหล่งข่าวชาวทิเบตที่ลี้ภัยอยู่ในต่างประเทศ

ตามความเชื่อของศาสนาพุทธแบบวัชรยานของชาวทิเบตพระ "ปัทมสมภพ" หรือ "ปัทมสัมภวะ" แปลว่า "ผู้เกิดจากดอกบัว" โดยมีอีกชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "คุรุริมโปเช" หรือ "คุรุรินโปเช"  พระปัทมสมภพเป็นพระสงฆ์ที่เชื่อว่าเข้ามาเผยแผ่ศาสนาและก่อตั้งวัดแห่งแรกในทิเบตในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 8-9 และชาวทิเบตเชื่อว่าพระปัทมสมภพจะกลับชาติมาเกิดเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต 

แหล่งข่าวชาวทิเบตที่ลี้ภัยอยู่ในต่างประเทศระบุว่า "นี่เป็นการทำลายล้างครั้งใหญ่รอบที่ 2 ในดราโกในเดือนมกราคมเพียงเดือนเดียว" ก่อนหน้านี้ RFA รายงานว่าพระพุทธรูปสูง 3 ชั้นองค์ที่ 2 ถูกรื้อทำลายเมื่อต้น ม.ค. 2565 โดยทิ้งช่วงจากการทำลายพระพุทธรูปองค์แรกเพียงไม่กี่สัปดาห์ นอกจากนี้ ยังมีการบังคับให้ชาวทิเบตมาดูการทุบทำลายดังกล่าว และจับกุมผู้แชร์ข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย

อ่านเพิ่มเติม

รัฐบาลจีนทำลายพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ในทิเบต-เกณฑ์บังคับพระสงฆ์ชาวบ้านมาดูแล้วทุบตี

จากการตรวจสอบผ่านดาวเทียมพบว่า ภาพถ่ายวัดชานางเมื่อวันที่ 3 ต.ค. 2564 แสดงให้เห็นพระพุทธรูปปัทมสมภพขนาดสูง 3 ชั้นตั้งตระหง่านอยู่ แต่จากภาพถ่ายเมื่อวันที่ 25 ก.พ. พบว่าพระพุทธรูปไม่อยู่แล้ว แต่มีการนำวัตถุขนาดใหญ่ที่มองจากด้านบนเป็นรูปทรงกลมมาวางไว้แทน

"แม้จะไม่มีการอธิบายเหตุผลของการรื้อทำลาย[พระพุทธรูปดังกล่าว] แต่มันก็เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลจีนในการทำลายสถานที่ทางศาสนาของชาวทิเบตในเขตดังกล่าว" ชาวทิเบตที่ลี้ภัยอยู่ในต่างประเทศกล่าว "แม้ทางการจีนเคยเตือนว่าพวกเขาจะรื้อทำลายพระพุทธรูปตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่พระองค์หนึ่งของวัดได้ส่งเอกสารเพื่อแสดงให้เห็นความสำคัญของพระพุทธรูปดังกล่าว ดังนั้นการรื้อทำลายถูกขยับออกไปเป็นวันอื่น"

"หลังการแต่งตั้งหวัง ตง เชิง เป็นเลขาธิการพรรคประจำเขตดราโกในปี 2564 เขาก็ให้ความสำคัญกับการทำลายพระพุทธรูปมากขึ้น โดยเป็นไปตามนโยบายสุดโต่งของพรรคคอมมิวนิสต์ที่ต่อต้านชาวทิเบต" ก่อนหน้านี้ RFA เคยรายงานว่าหวัง ตง เชิง เคยเป็นผู้รับผิดชอบในการเผาทำลายบ้านเรือนของชาวทิเบต รวมถึงทำลายโรงเรียนพุทธลารังกาส่งผลให้พระและแม่ชีถูกขับไล่กว่าหลายพันคน 

บางครั้ง ทางการจีนยังออกระเบียบใหม่เพื่ออ้างความชอบธรรมในการรื้อทำลายพระพุทธรูปทิเบตด้วย ตามคำให้การของแหล่งข่าวชาวทิเบตอีกคนหนึ่งของ RFA 

"เมื่อรัฐบาลจีนทำลายพระพุทธรูปขนาด 99 ฟุต และพระศรีอริยเมตไตรยที่วัดกาเด็น นามยาล ลิง ในเมืองดราโก พวกเขาเอาข้ออ้างเหลือเชื่อมาใช้ [สนับสนุนการรื้อทำลายพระพุทธรูป] เช่นว่าความสูงของพระพุทธรูปไม่เหมาะสม หรือมันขวางทางเดินภายในอาคารของวัด แต่พระพุทธรูป 'ปัทมสัมภพ' ไม่ได้ขวางทางในวัด ดังนั้นจึงชัดเจนว่ามันไม่ใช่อะไรเลย แต่เป็นการล่วงล้ำเสรีภาพในการนับถือศาสนาของชาวทิเบตโดยรัฐบาลจีน" แหล่งข่าวคนที่ 2 บอกกับ RFA 


ที่มา
Chinese government destroys third Tibetan Buddhist statue in 3 months (RFA, 28 February 2022)

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net