ศาลลำปางมีคำพิพากษายกฟ้องคดีม.112 ของบัณฑิต นิติ มธ.ลำปาง เนื่องจากไม่มีหลักฐานยืนยันว่าจำเลยเป็นคนสั่งการให้มีการปลดรูป ร.10 ที่หน้า มธ.ลำปาง อีกทั้งคำให้การในชั้นศาลของตำรวจที่กล่าวอ้างว่าเห็นจำเลยเป็นคนชี้สั่งการก็ไม่ได้มีอยู่ในชั้นสอบสวนตั้งแต่แรก

ภาพการชุมนุมของนักศึกษา มธ.ลำปางเมื่อ 17 ต.ค.2563

17 ม.ค.2566 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่าวันนี้ที่ศาลจังหวัดลำปางอ่านคำพิพากษาคดีของ “ไลลา” (นามสมมติ) บัณฑิตนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วิทยาเขตลำปาง ที่ถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับการปลดพระบรมฉายาลักษณ์ของในหลวงรัชกาลที่ 10 และพระราชินีที่หน้ามหาวิทยาลัยขณะที่มีการชุมนุมของนักศึกษาเมื่อ 17 ต.ค.2563 ที่ออกมาประท้วงการใช้กำลังสลายการชุมนุมนักเรียนนักศึกษาที่แยกปทุมวัน กรุงเทพในคืนวันที่ 16 ต.ค.2563 ซึ่งไลลาให้การปฏิเสธและเลือกที่จะต่อสู้คดีมาโดยตลอด

ศูนย์ทนายความระบุผลของคำพิพากษาโดยสรุปได้ว่า จากพยานหลักฐานของโจทก์มีพยานปาก พ.ต.ต.เจริญ ฝั้นธรรมครั้ง ที่เบิกความยืนยันว่าจำเลยเป็นคนสั่งการและชี้มือให้มีการปีนขึ้นไปดึงรูปลง แต่ในการตอบทนายความจำเลยถามค้าน คำเบิกความดังกล่าวของพยานในชั้นศาลกลับไม่มีปรากฏในเอกสารคำให้การชั้นสอบสวนที่พยานได้ให้การกับพนักงานสอบสวนในครั้งแรก อีกทั้งเอกสารการถอดเทปปราศรัยและภาพเคลื่อนไหวที่ถูกบันทึกไว้เป็นหลักฐานในศาล ก็ไม่ปรากฎยืนยันข้อเท็จจริงดังกล่าว ประกอบกับจำเลยไม่เคยรู้จักกับผู้ดึงภาพจนฉีกขาดมาก่อน จึงผิดวิสัยปกติที่จะเป็นการใช้ให้บุคคลอื่นไปกระทำการในเรื่องร้ายแรงเช่นนั้นได้ กรณีมีความสงสัยตามสมควรว่าจำเลยได้กระทำความผิดหรือไม่ ยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย พิพากษายกฟ้องจำเลย

สำหรับคดีนี้นอกจากไลลาแล้ว ยังมีเบนซ์(นามสมมติ) นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเดียวกันถูกดำเนินคดีด้วยอีกหนึ่งคนจากการถูกกล่าวหาว่าเป็นคนขึ้นไปปลดพระบรมฉายาลักษณ์ แต่เขาได้ให้การรับสารภาพในชั้นศาล ศาลจึงพิพากษาจำคุก 3 ปี แต่ให้ลดเหลือ 1 ปี 6 เดือน และศาลเห็ว่าจำเลยยังเป็นนักศึกษาไม่เคยกระทำความผิดมาก่อนจึงให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี

กรณีนี้หลังเกิดเหตุทาง มธ.ลำปางมีการออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจว่าเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ควรเกิดขึ้นและเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม โดยทางมหาวิทยาลัยจะดำเนินการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดขึ้นอีก

จากแถลงการณ์ของทางมหาวิทยาลัยทำให้นักศึกษา มธ.ลำปางออกแถลงการณ์คัดค้านจุดยืนดังกล่าวของมหาวิทยาลัยรวมถึงประกาศชักชวนให้นักศึกษาหยุดเรียนเพื่อเป็นการประท้วงมหาวิทยาลัยที่ระบุว่าการชุมนุมเพื่อต่อต้านการใช้ความรุนแรงในการสลายการชุมนุมของนักเรียนกนักศึกษาในคืนวันที่ 16 ต.ค.2563 เป็นเรื่องไม่เหมาะสมและไม่ควรเกิดขึ้น