'ภูมิใจไทย' จี้สอบความเป็นสมาชิกภาพ 'พิธา-ทวี' อ้างแทรกแซงโยกย้าย 'หมอสุภัทร' ‘โรม’ บอกโคตรตลกร้าย

  • ส.ส.ภูมิใจไทย ร่วมลงชื่อทำหนังสือถึงประธานสภาฯ ขอให้เสนอเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยความเป็นสมาชิกภาพของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง กรณีแทรกแซงการโยกย้ายข้าราชการ 
  • ‘โรม’ ชี้ ตลกร้าย ‘ก้าวไกล’ ปกป้องข้าราชการน้ำดี กลับถูก ‘ภูมิใจไทย’ ใช้กฎหมายทำลายการตรวจสอบของฝ่ายค้าน ลั่นไม่อยู่เฉยแน่ ติงรัฐบาลไม่ทุ่มเททำงาน หาเสียงเป็นงานหลัก- ดูด ส.ส. เป็นงานรอง
  • ขณะที่ พ.ต.อ.ทวี สั่งตรวจสอบและดำเนินคดีต่อผู้เกี่ยวข้อง 'หมอสุภัทร' ร้อง 'เสรีพิศุทธ์' ปมโยกย้ายไม่เป็นธรรม 

 

2 ก.พ.2566 จากวานนี้ (1 ก.พ.) กรณี 50 ส.ส. พรรคภูมิใจไทย ลงชื่อเสนอต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าสมาชิกภาพของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ สิ้นสุดลงหรือไม่ และให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 185 หลังพรรคก้าวไกลและพรรคประชาชาติออกแถลงการณ์ไม่เห็นด้วยกรณีโยกย้าย นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ จากตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะ จังหวัดสงขลา ไปยังโรงพยาบาลสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา นั้น

‘โรม’ ชี้ ตลกร้าย ‘ก้าวไกล’ ปกป้องข้าราชการน้ำดี กลับถูก ‘ภูมิใจไทย’ ใช้กฎหมายทำลายการตรวจสอบของฝ่ายค้าน ลั่นไม่อยู่เฉยแน่ ติงรัฐบาลไม่ทุ่มเททำงาน หาเสียงเป็นงานหลัก- ดูด ส.ส. เป็นงานรอง

รังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวว่า แถลงการณ์ของพรรคก้าวไกลเป็นสิ่งที่สามารถทำได้ ชอบด้วยกฎหมายและรัฐธรรมนูญ ที่ผ่านมาก็แถลงแบบนี้เป็นประจำ แต่สิ่งที่ต้องตั้งคำถามต่อไปคือ หลังจากออกแถลงการณ์ดังกล่าว ศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ในลักษณะพยายามเชื่อมโยง นพ.สุภัทร กับพรรคก้าวไกล ว่ามีการเคลื่อนไหวทางการเมืองที่สอดรับ สอดคล้องกัน ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่า การโยกย้ายตำแหน่งของ นพ.สุภัทร ไม่ได้เป็นไปในลักษณะการโยกย้ายทั่วไปตามวาระ แต่เกิดจาก นพ.สุภัทร ทำหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของกระทรวงสาธารณสุข แรงจูงใจของการโยกย้ายเกี่ยวข้องกับเหตุผลทางการเมืองหรือไม่ ดังนั้น ใครกันแน่ที่เป็นคนผิด

รังสิมันต์ กล่าวต่อไปว่า พรรคก้าวไกลเป็นพรรคฝ่ายค้านที่ทำหน้าที่ตรวจสอบและตั้งคำถามต่อรัฐบาล ที่ผ่านมาพรรคแสดงจุดยืนในการปกป้องข้าราชการชั้นผู้น้อย ข้าราชการน้ำดีที่ถูกกลั่นแกล้งจากผู้บริหารระดับสูง ตนจึงมองว่าเป็นเรื่องตลกร้ายมาก ที่พรรคภูมิใจไทยเข้าชื่อเพียงเพราะหัวหน้าพรรคก้าวไกลมีจุดยืนปกป้องข้าราชการ และหาก นพ.สุภัทรทำหน้าที่ไม่โปร่งใส พรรคก้าวไกลก็คงไม่สามารถคัดค้านการโยกย้ายนี้ได้ แต่ในทางกลับกัน นพ.สุภัทรเป็นข้าราชการน้ำดีแต่ถูกรังแก พรรคก้าวไกลจึงต้องแสดงจุดยืนปกป้อง จึงมองว่าการกระทำนี้ของพรรคภูมิใจไทย เป็นการใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือทำลายกลไกการตรวจสอบของพรรคการเมืองฝ่ายค้าน และตนขอยืนยันว่าพรรคก้าวไกลจะไม่อยู่เฉยกับเรื่องนี้อย่างแน่นอน

โฆษกพรรคก้าวไกล ยังให้ความเห็นเพิ่มเติมกรณีทิศทางทางการเมือง โดยตำหนิการทำงานช่วงโค้งสุดท้ายของรัฐบาลว่า รัฐบาลไม่ยอมทำงาน มีงานหลักคือการหาเสียง งานรองคือการดูด ส.ส. เชื่อว่าหากรัฐบาลตั้งใจทำงานตามหน้าที่จริง ปัญหาบ้านเมืองคงไม่เกิดขึ้นอย่างมากมายในช่วงนี้ ส่วนเนื้อหาของการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 มั่นใจว่าจะสามารถเปิดแผลรัฐบาลได้เหมือนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ขอให้ทุกคนรอติดตาม

ขณะที่ นพ.สุภัทร โพสต์ภาพพร้อมข้อความผ่านเฟซบุ๊ก 'Supat Hasuwannakit' ช่วงเช้าวันที่ 2 ก.พ.66 ในหัวข้อ "กำลังใจจากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลจะนะ" มีรายละเอียดดังนี้

กำลังใจจากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลจะนะ

ผมอยู่โรงพยาบาลจะนะมาตั้งแต่ปี 2542 ถึงวันนี้ 24 ปี แรกมาที่นี่มีหมอ 3 คน(รวมผมด้วยนะ) สิบปีแรกที่จะนะผมทำหน้าที่หมอ80%ทำหน้าที่ ผอ.20% ตรวจคนไข้ ราวด์วอร์ดผู้ป่วยใน ทำคลอด อยู่เวร ออกชุมชน เป็นสิบปีแรกที่เหนื่อยมากแต่ก็มีความสุขมาก

สิบปีที่ 2 งานของกระทรวงยุ่งมากขึ้น ระบบเริ่มซับซ้อน ต้องให้เวลากับการทำหน้าที่ ผอ.มากขึ้น เป็นหมอ50%ผอ.50% ประสานงานวางระบบ แก้ปัญหา งานราชการมีความยากลำบาก ทรัพยากรน้อยไม่พอกับการตอบสนองความต้องการประชาชน

4ปีหลังนี้ เป็นช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลงใหญ่ วิกฤตโควิดที่จะนะที่มีผู้ติดเชื้อ2หมื่นคน การขยายโรงพยาบาลขึ้นตึก8ชั้นที่จะมีระบบการแพทย์เฉพาะทาง ICU ศูนย์ฟอกไต วันนี้จะนะมีแพทย์23คนแล้ว ระบบงานการแพทย์กำลังเติบโต

การแสดงออกของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลจะนะวันนี้ ผมจะถูกย้ายหรือไม่ ผมก็มีความสุขแล้ว

หมายเหตุ : วันนี้ 2 กุมภาพันธ์ 2566 เวลาช่วงเช้า ผมยังไม่เห็นคำสั่งครับ

พ.ต.อ.ทวี สั่งตรวจสอบและดำเนินคดีต่อผู้เกี่ยวข้อง 

ด้านปฏิกิริยาจากพรรคประชาชาติ มูฮัมหมัดรุสดี เชคฮารูณ รองโฆษกพรรคประชาชาติ ระบุว่า พ.ต.อ.ทวี ยืนยันว่าการแถลงข่าวดังกล่าว เป็นกล่าวอ้างข้อมูลที่เป็นเท็จ ไม่มีข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน เป็นการกล่าวหาปรักปรำใส่ร้ายให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย ซึ่งพันตำรวจเอก ทวีไม่เคยให้สัมภาษณ์หรือให้ข่าวแก่สื่อมวลชนในเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด การกล่าวอ้างถึงแถลงการณ์พรรคประชาชาติ เมื่อตรวจดูแถลงการณ์แล้วเป็นการแสดงจุดยืนทางสังคมของพรรคที่ชอบด้วยกฏหมาย หน้าที่และอำนาจ ในแถลงการณ์ขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขชี้แจงเหตุผลต่อสาธารณะชนถึงเหตุผลของการโยกย้ายนายแพทย์สุภัทรเท่านั้น เพราะรัฐมนตรีมีอำนาจบริหารกำกับดูแล ในกระทรวงสาธารณสุข และรัฐธรรมนูญบัญญัติให้รัฐมนตรีต้อง ‘’…ยึดถือและปฏิบัติตามหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี…รัฐมนตรีต้องรับผิดชอบต่อสภาผู้แทนราษฏรในเรื่องที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของตน…” แถลงการณ์ของพรรคประชาชาติ เพื่อประโยชน์สาธารณะมิใช่เป็นการกระทำเพื่อประโยชน์ส่วนตนหรือของพรรคการเมืองใด หรือต่อบุคคลใดๆ ไม่ได้มีการกระทำใดอันเป็นการก้าวก่ายแทรกแซงในการโยกย้ายข้าราชการทั้งสิ้น เพราะคำสั่งโยกย้าย ได้กระทำสำเร็จไปแล้ว จึงไม่มีการกระทำใดอันเป็นการแทรกแซงก้าวก่ายเจ้าหน้าที่ของรัฐเพื่อประโยชน์ของตนเอง หรือผู้อื่น หรือพรรคการเมือง นอกจากนี้นายแพทย์สุภัทร มิได้เป็นสมาชิกพรรคประชาชาติหรือมีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงใดๆกับพรรค อันจะนำมาเพื่อประโยชน์ทางการเมืองทั้งสิ้น

ทั้งนี้ พ.ต.อ.ทวี  จะให้ฝ่ายกฎหมายตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว และจะดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องตามที่มีการเสนอข่าว ตามประมวลกฎหมายทั้งทางแพ่งอาญา และจริยธรรมนักการเมืองอย่างถึงที่สุดต่อไปโดยเร็ว

'หมอสุภัทร' ร้อง 'เสรีพิศุทธ์' ปมโยกย้ายไม่เป็นธรรม 

ขณะที่วันนี้ (2 ก.พ.) สถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา รานงานว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร รับยื่นหนังสือพร้อมเอกสารหลักฐานจาก นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ กรณีได้รับความไม่เป็นธรรมเรื่องการโยกย้ายดังกล่าว

นพ.สุภัทร กล่าวว่า ตนพบข้อพิรุธชัดเจนคือมีการการสั่งย้ายผู้ตรวจราชการทั้งๆที่พึ่งถูกแต่งตั้งได้แค่เพียงเดือนเดียว เนื่องจากไม่ลงนามสั่งย้ายตนเอง ซึ่งการโยกย้ายของกระทรวงสาธารณสุขโดยปกติเป็นอำนาจของปลัดกระทรวงฯ แต่ครั้งนี้ปลัดกระทรวงฯไม่ลงนามแต่มีการทำหนังสือระเบียบการย้ายขึ้นมาใหม่ และให้อำนาจผู้ตรวจราชการย้ายผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมชนได้ ซึ่งชัดเจนว่าการโยกย้ายครั้งนี้ส่อถึงความไม่มีธรรมาภิบาลในกระทรวงสาธารณสุข

นอกจากนี้ ยังมีป้ายนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขที่มีรูปของอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เด่นชัด จึงมองว่าอาจมีการหาเสียงแอบแฝงหรือไม่ จึงนำเรื่องนี้ มาร้องต่อคณะกรรมาธิการ ป.ป.ช. สภาผู้แทนราษฎร ขอให้ตรวจสอบว่าผิดกฎหมายของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)หรือไม่ 

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ผู้กระทำผิดย่อมทิ้งร่องรอย และสิ่งที่ยื่นหลักฐานมา ถือเป็นข้อผิดสังเกตในเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ โดยจะนำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาในชั้นกมธ.ป.ป.ช.ต่อไป

สำหรับกรณีพรรคภูมิใจไทยยื่นประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าสมาชิกภาพของ พิธา  และ พ.ต.อ.ทวี ดังกล่าวนั้น ศุภชัย ใจสมุทร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคภูมิใจไทย แถลงข่าวว่า ด้วยปรากฏว่าเมื่อวันที่ 26 และ 27 มกราคม 2566 พรรคก้าวไกลและพรรคประชาชาติได้ออกแถลงการณ์ กรณี คำสั่งกระทรวงสาธารณสุข โยกย้ายข้าราชการ นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะ จ.สงขลา และประธานชมรมแพทย์ชนบท ไปดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลสะบ้าย้อย จ.สงขลา และขอให้กระทรวงสาธารณสุขทบทวนคำสั่ง โดยให้คำนึงถึงประโยชน์ของประเทศและประชาชน ในนามของหัวหน้าพรรคก้าวไกล และในนามพรรคประชาชาติ ตามลำดับนั้น เป็นการใช้สถานะหรือตำแหน่งการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกระทำการใด ๆ อันมีลักษณะที่เป็นการก้าวก่ายหรือแทรกแซงเพื่อประโยชน์ของตนเอง ของผู้อื่น หรือของพรรคการเมือง ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ในเรื่องการบรรจุ แต่งตั้ง โยกย้าย โอน เลื่อนตำแหน่ง เลื่อนเงินเดือน หรือการให้พ้นจากตำแหน่งของราชการ ซึ่งมีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำ และมิใช่ข้าราชการการเมือง พนักงาน หรือลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ กิจการที่รัฐถือหุ้นใหญ่ หรือราชการส่วนท้องถิ่น ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 มาตรา 185 (3) เป็นเหตุให้สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของทั้งสองท่านสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 มาตรา 101 (7) ผู้เสนอซึ่งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในสิบของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร จึงได้ลงนามเสนอเรื่องต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 มาตรา 82 วรรคหนึ่ง และขอให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรเสนอเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิจฉัยสมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งสองท่านสิ้นสุดลงหรือไม่ และขอให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ตามบทบัญญัติของกฎหมายต่อไป โดยมี ส.ส.ของพรรคภูมิใจไทยร่วมลงชื่อกว่า 50 คน

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท