'ก้าวไกล-ประชาชาติ-เป็นธรรม' และประชาชนในพื้นที่ค้านคำสั่งย้าย หมอสุภัทร ผอ.รพ.จะนะ ตั้งปมเหตุผลทางการเมืองหรือไม่ 'ผู้นําฝ่ายค้าน' จี้ ก.สาธารณสุข แจงเหตุผล ด้าน 'อนุทิน' ยันไม่เกี่ยวการเมือง ถามทำไมไม่มองว่าการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนภารกิจ

นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ (ภาพจากเฟซบุ๊กสมยศ โต๊ะหลัง)

27 ม.ค.2566 จากกรณีเมื่อวันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา นพ.สวัสดิ์ อภิวัจนีวงค์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ปฏิบัติราชการแทนปลัด สธ. ลงนามในคำสั่งกระทรวงสาธารณสุขที่ 125/2566 เรื่อง ย้ายข้าราชการ เมื่อวันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยการย้ายครั้งนี้ มี นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล (รพ.) จะนะ ไปดำรงตำแหน่ง ผอ.รพ.สะบ้าย้อย  สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) สงขลา นั้น

ตั้งแต่มีข่าวการโยกย้าย นพ.สุภัทร รอบล่าสุดต้นเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา เริ่มมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์คำสั่งรวมทั้งให้กำลังใจ นพ.สุภัทร จากประชาชนในพื้นที่ อ.จะนะ และใกล้เคียง รวมทั้งเครือข่ายบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข เนื่องจาก นพ.สุภัทร เป็นประธานชมรมแพทย์ชนบท ที่ให้ข่าวตรงกันข้ามกับนโยบายกัญชา ของพรรคภูมิใจไทย ยิ่งทำให้มีกระแสวิจารณ์ว่าการถูกย้ายดังกล่าวมาจากฝั่งการเมือง

'อนุทิน' ยันไม่เกี่ยวการเมือง ถามทำไมไม่มองว่าการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนภารกิจ

ขณะที่วันนี้ (27 ม.ค.) มติชนออนไลน์ รายงานว่า อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นดังกล่าว ว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการเมือง เป็นเรื่องของข้าราชการประจำ เพราะรัฐมนตรีไม่ได้ลงไปรู้จักกับ ผอ.รพ.ชุมชน

ต่อกรณีผู้สื่อข่าวถามถึงว่ามีการตั้งข้อสังเกตว่ามีนัยทางการเมือง เพราะนพ.สุภัทร ได้ออกมาพิพากษ์วิจารณ์เรื่องนโยบายกัญชา เรื่องการควบคุมโควิด-19 นั้น อนุทิน กล่าวว่า ฝ่ายการเมืองจะไปหวั่นไหวกับทุกเรื่องได้อย่างไร การเมืองเมืองดูแลเรื่องนโยบายฝ่ายปลัดกระทรวง ให้ไปถ่ายทอดยังข้าราชการต่อไป ซึ่งหากนโยบายใดไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ถูกระเบียบก็สามารถเลือกไม่ปฏิบัติตามได้ ดังนั้น อย่าเอารัฐมนตรี เอาเรื่องการเมืองเข้าไปข้องเกี่ยว

“ทำไมไม่มองว่าการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนภารกิจ หน้าที่เป็นเรื่องปกติในระบบราชการ โดยหาก นพ.สุภัทร บอกว่าตัวเองมีผลงาน มีความเก่ง ก็ยิ่งดีใหญ่ จะได้ไปพัฒนา รพ.ที่ต้องการพัฒนา ยิ่งได้คนเก่งไป ยิ่งเป็นผลดีกับชาวบ้าน กับกระทรวงสาธารณสุข อย่างสมัย 2 ปีที่แล้ว ที่ นพ.ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล ที่ย้ายจาก ผอ.รพ.ขอนแก่น ไป รพ.ร้อยเอ็ด ที่ตอนแรกบอกว่าแย่แน่นอน แต่ทุกวันนี้ รพ.ร้อยเอ็ด กลายเป็น รพ.ที่มีประสิทธิภาพ เรื่องนี้อยู่กับบุคคล คนเก่งไปอยู่ไหนก็ได้..” รมว.สาธารณสุข กล่าว

ปชช.ค้านคำสั่งย้าย

ขณะที่วันเดียวกัน (27 ม.ค.) มีรายงานข่าวว่า เวลา 9.00 น ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา ปรากฏประชาชนจากพื้นที่ อำเภอจะนะและอำเภอใกล้เคียงประมาณ 100 คน รวมตัวกันแสดงออกเพื่อคัดค้านคำสั่งย้าย นพ.สุภัทร ดังกล่าวที่ถูกผู้มีอำนาจคนหนึ่งกลั่นแกล้ง เพจชมรมแพทย์ชนบท ระบุด้วยว่า ผู้ชุมนุมกลุ่มดังกล่าวมีการวางหรีดข้างใต้ป้ายหาเสียงของรัฐมนตรีและอ่านแถลงการณ์ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา และมีข้อเรียกร้องสำคัญคือ ขอให้ยกเลิกคำสั่งย้าย ที่ไม่เป็นธรรม หากไม่ยกเลิกก็จะมีปฏิบัติการทุกวันเพื่อชี้ให้สังคมเห็นถึงธาตุแท้ของนักการเมืองคนนี้

'ก้าวไกล-ประชาชาติ-เป็นธรรม' ค้านคำสั่งย้าย ตั้งปมเหตุผลทางการเมืองหรือไม่

ขณะที่พรรคการเมืองฝ่ายค้าน เช่น พรรคก้าวไกล พรรคประชาชาติ รวมถึงพรรคเป็นธรรม ออกแถลงการณ์คัดค้านคำสั่งย้าย นายแพทย์สุภัทร ดังกล่าว 

"คำสั่งดังกล่าว ขัดกับอุดมการณ์และค่านิยมที่ดีงามในการแต่งตั้งข้าราชการในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่พึงเลือกคนที่มีนิสัยซื่อสัตย์ สุจริต สงบเสงี่ยม เยือกเย็น ไม่ใช่การส่งข้าราชการจากพื้นที่อื่นมาปฏิบัติหน้าที่เพื่อลงโทษ เพราะกระทำผิด พรรคประชาชาติเห็นว่า กัญชาเป็นยาเสพติด เป็นมหันตภัยร้ายต่อสังคม ซึ่งยาเสพติดเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำลายสันติสุขของประชาชน ตามคำกล่าว “ที่ใดมียาเสพติด ที่นั่นไม่มีความสงบสุข และที่ใดสงบสุข ที่นั่นต้องปลอดยาเสพติด” จึงขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขชี้แจงเหตุผลต่อสาธารณชนถึงเหตุผลการโยกย้ายตามคำสั่งดังกล่าว" บางส่วนของแถลงการณ์พรรคประชาชาติ

ขณะที่บางส่วนในแถลงการณ์พรรคก้าวไกลที่แสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับคำสั่งดังกล่าว และขอตั้งข้อสังเกตว่า การโยกย้าย ด้วยเหตุผลทางการเมืองหรือไม่ เนื่องจากนายแพทย์สุภัทรเป็นข้าราชการที่ทำงานเป็นปากเสียงแทนประชาชน มีความกล้าหาญในการแสดงความเห็นคัดค้านผู้มีอำนาจ และเปิดเผยข้อมูลสาธารณสุขที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมอย่างต่อเนื่อง จึงขอให้กระทรวงสาธารณสุขทบทวนคำสั่งดังกล่าวโดยคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศและประชาชน

ขณะที่ กัณวีร์ สืบแสง เลขาธิการพรรคเป็นธรรม โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ไม่เห็นด้วยกับคำสั่งย้ายนี้ โดยระบุว่า นพ.สุภัทร เป็นผู้ยืนเคียงข้างชาวอำเภอจะนะในการต่อสู้เรื่องสิทธิชุมชนต่างๆ ในพื้นที่มาอย่างยาวนาน จนเปรียบเสมือนชาวจะนะคนนึงที่ต่อสู้เพื่อพี่น้องมาโดยตลอด ไม่แปลกใจที่ได้เห็นพี่น้องชาว อ.จะนะ ออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านคำสั่งย้ายครั้งนี้ และคงมีอีกกระแสออกมาว่าเป็นข้าราชการก็ต้องย้ายได้ แต่กรณีนี้ไม่เหมือนกับการสั่งย้ายตามปกติของระบบราชการ ที่ไม่อาจมองได้ว่าเป็น ดุลยพินิจ ของผู้มีอำนาจสั่งการ

"เพราะการที่เป็นรัฐราชการที่สร้างกลไก กฏ ระเบียบต่างๆ แก้ไขจนอยากทำอะไรก็ได้หมด แต่ผมเชื่อมั่นในเรื่องการยึดติดกับหลักการ หากรัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลที่มาจากประชาชนจริงๆ และเป็นของประชาชนจริงๆ โดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลางอย่างแท้จริงแล้ว หลักการที่ถือเป็นฐานสำคัญในการปฏิบัติหน้าที่จะไม่เป็นไม้หลักปักขี้เลนอย่างที่ทำอยู่นี้" กัณวีร์ กล่าว พร้อมระบุว่า คนที่ลงนามคำสั่งและสนองคำสั่งต่างๆ ส่งต่อเป็นระลอกถึงตัวเจ้ากระทรวงนี้ด้วย โปรดกลับไปดูให้กระจ่างถึงคำปรารภของพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน กลับไปอ่านพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือนที่ถือเป็นคัมภีร์ในการย้าย โอน เลื่อนข้าราชการเสียก่อนเถิด

'ผู้นําฝ่ายค้าน' สงสัยการเมืองเอี่ยว จี้ ก.สาธารณสุข แจงเหตุผล

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าเมื่อเวลา 15.42 น. วันนี้ (27 ม.ค.) ทีมสื่อพรรคเพื่อไทยรายงานต่อสื่อมวลชนว่า นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ผู้นําฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ออกแถลงการณ์ ผู้นําฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เรื่อง การย้ายนายแพทย์สุภัทร ดังกล่าวโดย ระบุว่าคําสั่งดังกล่าวไม่ได้ ให้เหตุผลถึงการโยกย้ายไว้ จึงมีข้อสังเกตว่า เหตุผลอันแท้จริงของการโยกย้ายครั้งนี้มาจากเรื่องใด เพราะนายแพทย์สุภัทร ก็ปฏิบัติหน้าที่ในโรงพยาบาลจะนะมานาน มีความผูกพันกับชาวบ้าน และชุมชน และไม่ปรากฏว่า นายแพทย์สุภัทร ได้กระทําการใดที่เป็นการบกพร่องต่อหน้าที่ที่ ต้องมีการโยกย้าย ข้อสังเกตอีกประการหนึ่ง นายแพทย์สุภัทร เป็นประธานชมรมแพทย์ชนบทที่ ได้ออกมาทักท้วง เสนอแนะ และไม่เห็นด้วยกับนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขหลายเรื่อง เช่น นโยบายกัญชาเสรี การบริหารจัดการโควิดและวัคซีน รวมถึงการจัดซื้อ ATK ดังนั้น เหตุผลการ โยกย้ายครั้งนี้ ก็ยังมีข้อน่าสงสัยว่าจะมีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่ ประกอบกับเป็นการ โยกย้ายนอกฤดูกาล โดยหลักแล้วควรจะทําเฉพาะในกรณีที่มีเหตุผลความจําเป็นเท่านั้น ในฐานะผู้นําฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรซึ่งมีหน้าที่ตรวจสอบการบริหารราชการ แผ่นดินของรัฐบาลจึงขอให้กระทรวงสาธารณสุขได้ชี้แจงถึงเหตุผลของการโยกย้ายนายแพทย์สุภัทร ในครั้งนี้ เพื่อให้สังคมคลายข้อสงสัยต่อไป