ธนาคารกลางพม่า ปฏิเสธรายงานของสหประชาชาติ เรื่องรัฐบาลทหารพม่ายังคงเข้าถึงเงินและอาวุธจากบางประเทศ สำหรับทำสงครามกับกลุ่มต่อต้านการรัฐประหาร

ทหารพม่าระหว่างสวนสนาม เนื่องในวันกองทัพพม่าปีที่ 71 เมื่อ 27 มีนาคม 2559 (ที่มา: แฟ้มภาพ/The Global New Light of Myanmar, 28 March 2016)

30 มิ.ย. 2567 สำนักข่าวไทย อ้างรายงานสื่อท้องถิ่นของพม่าระบุว่าธนาคารกลางแห่งพม่าออกแถลงการณ์การคัดค้านอย่างยิ่งต่อรายงานของผู้รายงานพิเศษสหประชาชาติ ที่สร้างความเสียหายร้ายแรงให้แก่ผลประโยชน์ของพลเรือนพม่าและความสัมพันธ์ของพม่ากับประเทศอื่น แถลงการณ์ระบุว่า ธนาคารพม่าและธนาคารต่างประเทศที่ทำธุรกรรมกับพม่า ล้วนแต่ผ่านมาตรการตรวจสอบอย่างครอบคลุมในเรื่องความสัมพันธ์ทางธุรกิจและการทำธุรกรรมทั้งหมด ธุรกรรมทางการเงินในพม่าเป็นไปเพื่อการนำเข้าสินค้าจำเป็นและความจำเป็นพื้นฐานของพลเรือนพม่าเท่านั้น เช่น ยา เวชภัณฑ์ สินค้าเกษตร ปศุสัตว์ ปุ๋ย น้ำมันปรุงอาหาร น้ำมันเชื้อเพลิง

ก่อนหน้านี้ นายทอม แอนดรูวส์ ผู้รายงานพิเศษสหประชาชาติด้านสถานการณ์สิทธิมนุษยชนของเมียนมา เผยแพร่รายงานเมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 2567 ว่าการที่นานาชาติพยายามโดดเดี่ยวรัฐบาลเมียนมา ดูเหมือนจะสามารถลดทอนความสามารถในการจัดซื้ออาวุธใหม่จากต่างประเทศ แต่รัฐบาลทหารเมียนมายังคงนำเข้าอาวุธ เทคโนโลยีที่ใช้ได้ทั้งทางทหารและพลเรือน อุปกรณ์การผลิต และวัสดุอื่น ๆ โดยได้รับความช่วยเหลือในการจัดซื้อจากธนาคารต่างประเทศ รวมถึงไทย

รายงานระบุด้วยว่า หน่วยงานในความควบคุมของกระทรวงกลาโหมพม่าจัดซื้อจัดจ้างทางทหารจากสิงคโปร์ลดลง จากมากกว่า 110 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (กว่า 4,048 ล้านบาท) ในปีงบประมาณ 2565 เหลือ 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐเศษ (ราว 368 ล้านบาท) ในปีงบประมาณ 2566 แต่จัดซื้อจัดจ้างจากบริษัทที่จดทะเบียนในไทยเพิ่มขึ้น 2 เท่า จาก 60 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2,208 ล้านบาท) เป็น 120 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4,416 ล้านบาท)