Skip to main content
sharethis

สหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ (สกน.) ออกแถลงการณ์ "เดินหน้าผลักดัน ‘โฉนดชุมชน’ ปกป้องที่ดินผืนสุดท้ายเพื่อตนและลูกหลาน" หวังเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอำนาจของกฎหมาย โดยการผลักดันให้เกิด "พ.ร.บ.สิทธิชุมชนในการจัดการที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติ" หรือ "โฉนดชุมชน"

29 ก.ค. 2567 สหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ (สกน.) ออกแถลงการณ์ "เดินหน้าผลักดัน ‘โฉนดชุมชน’ ปกป้องที่ดินผืนสุดท้ายเพื่อตนและลูกหลาน" ระบุว่าเป็นเวลา 23 ปี ที่ขบวนการเคลื่อนไหวภาคประชาชน คนยากจน กลุ่มเกษตรกรรายย่อย และกลุ่มชาติพันธุ์ ในนาม ‘สหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ’ หรือ ‘สกน.’ ได้ก่อร่างขึ้น เพื่อขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาที่สมาชิกของเราเผชิญอย่างแสนสาหัสในระยะเฉพาะหน้า พร้อมสถาปนาข้อเสนอเชิงนโยบายให้เป็นที่ประจักษ์แก่สังคมไทย และเราได้รวมกลุ่มอย่างเข้มแข็ง ส่งเสียงของพวกเราถึงสาธารณชนและผู้กุมอำนาจรัฐให้ได้เห็นตัวตนและการดำรงอยู่อย่างเจ็บปวด แต่เต็มไปด้วยความหวังของพวกเรา

ตลอดเส้นทางการต่อสู้อันยาวนาน พวกเราได้ฟันฝ่าอุปสรรคขวากหนามด้วยความคับแค้น ที่ดินหลายผืนถูกแย่งยึด หลายชีวิตถูกยัดเยียดคดีความอันไม่เป็นธรรมจนต้องติดคุกตะรางสิ้นเนื้อประดาตัว และมีพี่น้องของเราจำนวนไม่น้อยที่ต้องสละชีวิตเพื่ออุดมการณ์อันหนักแน่นว่า ‘ที่ดินคือชีวิต’ หาใช่สินค้าให้รัฐบาล หน่วยงานรัฐ และกลุ่มทุนมากอบโกยทำกำไร

พวกเราถูกบีบบังคับให้ยากจนและถูกเบียดขับออกจากสังคมด้วยโครงสร้างอำนาจรัฐภายใต้การบริหารงานของหลายรัฐบาล สาหัสที่สุดคือรัฐบาลเผด็จการหลังการรัฐประหารปี 2557 สืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบันในสมัยรัฐบาล เศรษฐา ทวีสิน ที่รัฐและทุนสผานกันแนบแน่นอย่างเป็นรูปธรรมผ่านนโยบายที่แปรเปลี่ยนที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติที่ควรเป็นปัจจัยการดำรงชีพของประชาชนให้กลายเป็นสินค้าเก็งกำไร ท่ามกลางการกล่าวอ้างว่าจะให้สิทธิประชาชนได้เข้าถึงที่ดินทำกินอย่างถูกต้องตามกฎหมาย กลับสอดไส้หลายข้อจำกัดที่ทำให้ที่ดินหลุดมือจากชาวบ้าน สอดแทรกมาตรการปลูกป่าค้าคาร์บอนเครดิตฟอกเขียวให้ทุนใหญ่ผู้ทำลายโลก เกิดแผนการประกาศพื้นที่ป่าอนุรักษ์เพิ่มเติมทับบนที่ทำกินของเราอย่างกว้างขวาง แต่ในทางกลับกันรัฐบาลกลับเป็นแกนกลางของการผลักดันให้เกิดโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ ทั้งเหมืองแร่และการจัดการน้ำ ที่จะสร้างความฉิบหายต่อประชาชนและทรัพยากรธรรมชาติอย่างรุนแรงมากขึ้นไปอีก

พวกเราพยายามส่งเสียงเรียกร้องและผลักดันข้อเสนอเชิงนโยบายอันจะเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ เป็นแนวทางแห่งการพาพวกเราประชาชนคนยากจนให้หลุดพ้นจากความเสี่ยงการถูกแย่งยึดที่ดินโดยกลุ่มผู้มีอำนาจ เราตะโกนออกไปครั้งแล้วครั้งเล่าว่าเราต้องการ ภาษีที่ดินอัตราก้าวหน้า ที่เร่งจำกัดเพดานการถือครองที่ดินของเอกชน เราต้องการ ธนาคารที่ดิน ที่ตอบโจทย์การกระจายการถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรม และเราต้องการ โฉนดชุมชน ให้เป็นแนวทางหลักในการจัดการที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติ เป็นรูปแบบการจัดการหน้าหมู่ที่พวกเรามีอำนาจในการจัดการพื้นที่ให้สอดคล้องกับอัตลักษณ์และวิถีชีวิตของแต่ละชุมชนโดยมิให้ที่ดินหลุดมือ เช่นนี้เราจึงจะลดความเหลื่อมล้ำในการถือครองที่ดินและความเหลื่อมล้ำทางสังคมได้ แต่รัฐบาลแล้วรัฐบาลเล่ากลับไม่เคยแยแส โครงสร้างอำนาจรัฐยังคงใหญ่คับฟ้า บีบบังคับเราให้ต้องเข้าสู่การจัดการที่ดินตามกฎหมายของรัฐเท่านั้น

ณ วันนี้ ในการประชุมสมัชชาประชาจำปีของสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ (สกน.) ครั้งแรกในรัฐบาล เศรษฐา ทวีสิน เราขอประกาศอย่างเป็นทางการถึงพี่น้องประชาชน ถึงสิ่งที่จะเป็นเข็มมุ่งในการขับเคลื่อนของ สกน. ในระยะเวลา 1 ปี หลังจากนี้ ดังนี้

1. เราจะมุ่งทำงาน จัดตั้งสร้างความเข้มแข็งให้ฐานสมาชิกของสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ (สกน.) ทั้งในทางความคิด ฐานเศรษฐกิจ กำลังพล และพื้นที่รูปธรรมการจัดการที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเคลื่อนไหวต่อสู้อันเข้มข้นเพื่อผลักดันกฎหมายและนโยบายภาคประชาชน ตลอดจนต่อสู้กับโครงสร้างอำนาจรัฐและทุนที่กำลังกัดกินจิตวิญญาณของเราอยู่ขณะนี้

2. เราจะมุ่งเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอำนาจของกฎหมาย โดยการผลักดันให้เกิดพระราชบัญญัติสิทธิชุมชนในการจัดการที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติ หรือ โฉนดชุมชน ซึ่งจะเป็นปราการทางกฎหมายชั้นแรกที่จะปกป้องชุมชนของพวกเราจากการถูกครอบงำ จำกัด และแย่งยึดที่ดินจากกฎหมายของรัฐ

และเราขอส่งเสียงถึงพี่น้องประชาชนคนจนผู้เดือดร้อนจากนโยบายและกฎหมายด้านป่าไม้-ที่ดินทั้งหลาย ขอเรียกร้องให้ทุกคนคำนึงถึงสิทธิในที่ดินของตนเอง ไม่ถูกหลอกลวงให้เข้าสู่กรอบมาตรการการจัดการที่ดินของรัฐ และร่วมสนับสนุนแนวทางโฉนดชุมชนกับพวกเรา แม้อาจจะไม่ใช่ฐานสมาชิกโดยตรงของ สกน. แต่เรายินดีร่วมเดินเคียงบ่าเคียงไหล่กับพี่น้องทุกคน ทุกกลุ่ม ที่มีเจตจำนงและอุดมการณ์แน่วแน่ในแนวทางสิทธิชุมชน เพื่อขับเคลื่อนให้โฉนดชุมชนเกิดขึ้นให้ได้ใน 1 ปีหลังจากนี้ ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่เราจะทำให้ได้เพื่อปกป้องผืนดินผืนสุดท้ายของเราเพื่อตัวเราเอง และลูกหลานในอนาคต

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net