Skip to main content
sharethis

นักเศรษฐศาตร์คาดเงินเฟ้อพุ่งปลายปี ผลพวงสงครามตะวันออกกลาง ดันราคาพลังงาน-อาหารทะยาน ชี้ไทยเสี่ยงขาดแคลนน้ำมัน แนะรัฐเร่งสำรอง คาดทองผันผวนหนัก อาจแตะ 45,000 บาท

6 ต.ค. 2567 รศ.ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า คาดการณ์ว่าปลายปีอัตราเงินเฟ้อจะสูงขึ้นจากราคาพลังงานและอาหาร ผลกระทบจากการขยายวงของสงครามตะวันออกกลาง เกิดการสู้รบกันโดยตรงระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน เงินเฟ้อรอบนี้จะเป็นเงินเฟ้อสูงจากสงครามและภัยพิบัติทางธรรมชาติ เป็นปัญหาทางด้านอุปทาน เป็น Supply Shocks ราคาสินค้าแพงขึ้นไม่ได้เกิดจากอุปสงค์ร้อนแรงเลย และ อุปสงค์ของโลกก็ยังฟื้นตัวอย่างอ่อนแอโดยเฉพาะในจีน

ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้นมากกว่า 8% แล้วในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา อัตรากำลังการผลิตส่วนเกินของกลุ่มโอเปคพลัสช่วยสกัดไม่ให้ราคาพลังงานพุ่งสูงขึ้นในระยะสั้น การสมคบกันเพื่อบิดเบือนราคาพลังงานในตลาดโลกของเอเปคพลัสจะมีความเสี่ยงมากขึ้นในการที่สมาชิกโอเปคพลัสจะไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง เร่งผลิตน้ำมันเข้าสู่ระบบในจังหวะที่ราคาน้ำมันสูงขึ้น ความพยายามในการลดการผลิตเพื่อดันราคาให้ได้ตามที่ต้องการเป็นการใช้กลไกอำนาจผูกขาดกลุ่มโอเปคพลัสในภาวะอุปสงค์พลังงานในตลาดโลกอ่อนแอจากการขยายตัวต่ำกว่าเฉลี่ยของเศรษฐกิจโลก

รศ.ดร.อนุสรณ์ กล่าวต่อว่า การเข้าร่วมสงครามโดยตรงของอิหร่านกับอิสราเอลครั้งนี้ จะตามมาด้วยการมีการตอบโต้กันไปมาทางการทหารและการคว่ำบาตรกันทางเศรษฐกิจขยายวงมากขึ้น หากสงครามลุกลามสู่การโจมตีโครงสร้างพื้นฐานในการผลิตน้ำมันและส่งออกน้ำมันในอิหร่านและตะวันออกกลางโดยอิสราเอลและพันธมิตร หรือ อิหร่านในฐานะผู้คุมเส้นทางการขนส่งน้ำมันในอ่าวเปอร์เซีย อาจตัดสินใจปิดช่องแคบฮอร์มุซตอบโต้ชาติตะวันตก (เป็นไปได้น้อย)  ไม่ว่าเกิดกรณีหนึ่งกรณีใดเกิดขึ้น คาดการณ์ได้ว่าราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกอาจพุ่งทะลุ 150 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลได้ในเวลาอันรวดเร็ว อาจทำให้ราคาน้ำมันในไทยขึ้นไปอยู่ที่ระดับสูงกว่าหนึ่งเท่าตัวได้ในเวลาอันสั้น  การแข็งค่าของเงินบาทช่วยบรรเทาแรงกดดันราคาพลังงานและเงินเฟ้อได้เพียงแค่ระดับหนึ่งเท่านั้น การลดสัดส่วนการใช้จ่ายทางด้านพลังงานต่อจีดีพี การอนุรักษ์และประหยัดพลังงาน การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมีความสำคัญอย่างยิ่งในสถานการณ์เช่นนี้  

หากเกิดการสู้รบกันในบริเวณใกล้ช่องแคบฮอร์มูซ จะส่งผลกระทบต่อราคาพลังงานโลกรุนแรงเช่นเดียวกัน ช่องแคบนี้ส่วนแคบที่สุดกว้าง 33-54 กิโลเมตร ช่องแคบฮอร์มุซเป็นทางออกทางมหาสมุทรทางเดียวของบริเวณส่วนใหญ่ของประเทศที่ส่งออกปิโตรเลียมในอ่าวเปอร์เซีย จากข้อมูลขององค์การว่าด้วยข้อมูลด้านพลังงานแห่งสหรัฐอเมริกากล่าวว่าโดยถัวเฉลี่ยในแต่ละวันจะมีเรือบรรทุกน้ำมัน 15 ลำที่บรรทุกน้ำมันราว 16.5 ถึง 17 ล้านบาร์เรลที่เดินทางออกจากช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งทำให้เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญที่สุดในโลก การขนส่งน้ำมันจากช่องแคบเป็นจำนวน 40% ของการขนส่งทางเรือทั้งหมด และ 20% ของการขนส่งน้ำมันทั่วโลก หากสงครามขยายวงและมีการปิดช่องแคบจะทำให้อุปทานน้ำมันหายไปจากตลาดน้ำมันโลกประมาณ 1 ใน 5 ในทันที จะทำให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว

เนื่องจากไทยนำเข้าพลังงานและน้ำมันจากตะวันออกกลางสัดส่วนมากกว่า 50-52% ของการนำเข้าสินค้ากลุ่มดังกล่าวทั้งหมดของไทย ประเทศไทยอาจต้องมีสำรองน้ำมันหรือพลังงานเพิ่มกว่าระดับปรกติเพราะอาจมีปัญหาการขาดแคลนพลังงานหรือการชะงักงันของการขนส่งน้ำมันได้ นอกจากมีความเสี่ยงที่อาจเกิดการขาดแคลนพลังงานแล้วยังต้องเตรียมรับมือกับสถานการณ์ราคาน้ำมันพุ่งสูงด้วย กลไกและเครื่องมือในการรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันในระยะสั้นมีขีดจำกัดมากขึ้น ทั้ง ภาษีสรรพสามิตน้ำมัน และ กองทุนน้ำมัน ภาษีสรรพสามิตน้ำมันจะลดลงกว่าระดับที่เป็นอยู่นี้มากก็ไม่ได้แล้วเพราะจะเพิ่มความเสี่ยงฐานะทางการคลัง ส่วนกองทุนน้ำมันเดือน ก.ย. 2567 ยังคงติดลบต่อเนื่องและยังคงติดลบเฉลี่ยประมาณ 1 แสนล้านบาท จ่ายดอกเบี้ยเดือนละเกือบ 200 ล้านบาท

คาดการณ์ได้ว่า ปลายปีนี้หากราคาพลังงานโลกปรับตัวสูงอย่างต่อเนื่องจากสงครามขยายวงในตะวันออกกลาง ฐานะของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมีโอกาสติดลบทะลุ 120,000 ล้านบาทได้และกองทุนน้ำมันต้องเริ่มจ่ายหนี้ก้อนแรกเดือน พ.ย. และกองทุนน้ำมันอาจประสบปัญหาสภาพคล่อง การมีนโยบายให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงต้องอุดหนุนราคาเพิ่มมากขึ้น ด้วยระยะเวลาที่ยาวขึ้นอาจเริ่มมีขีดจำกัดมากขึ้น รัฐบาลอาจต้องทบทวนระดับเพดานในการแทรกแซงราคาพลังงานทุกประเภทใหม่ นโยบายตรึงราคาต้องขยับสูงขึ้น รัฐบาลที่ผ่านมาต่างประกาศนโยบายตรึงราคาน้ำมันดีเซลมาอย่างต่อเนื่องเพื่อลดค่าครองชีพและลดความเดือดร้อนทางเศรษฐกิจของประชาชนและภาคการผลิต แต่การดำเนินการดังกล่าวได้สร้างภาระทางการคลังจำนวนมากและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สิ่งนี้จะกลายเป็นปัญหาใหญ่ของฐานะการคลังในอนาคตของรัฐบาล ช่วงที่ผ่านมา รัฐบาลใช้ทั้งกองทุนน้ำมัน ใช้ทั้งลดภาษีน้ำมันสรรพสามิตและค้ำประกันเงินกู้เสริมสภาพคล่องให้กับกองทุนน้ำมันแล้วแสนกว่าล้านบาท เมื่อสถานการณ์พลังงานโลกเปลี่ยนแปลงไปอีกครั้งหนึ่งจากการทำสงครามโดยตรงระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน ทิศทางราคาพลังงานโลกได้พลิกกลับมาเป็นขาขึ้น แทนที่ ปรับลดลง เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องประเมินและปรับมาตรการรับมือความท้าทายกันใหม่ ส่วนในระยะยาว

การเร่งเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนและพลังงานชีวภาพอย่างยั่งยืนมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ต้องเดินหน้าลงทุนเพิ่มเติม รัฐบาลควรลงทุนโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่ควรเป็นหน้าที่ของรัฐเพื่อรองรับการขยายตัวของการลงทุนของภาคเอกชนในธุรกิจพลังงานหมุนเวียนและพลังงานชีวภาพ นอกจากนี้ การศึกษาความเป็นไปได้ของการพัฒนาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลร่วมกับกัมพูชา (เช่นเดียวกับมาเลเซีย) เพื่อสำรวจพลังงานแหล่งใหม่เป็นสิ่งที่ต้องนำมาพิจารณาอย่างมียุทธศาสตร์ รอบคอบและรัดกุมเพื่อผลประโยชน์ทางด้านความมั่นคงพลังงานของชาติและประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นกับประชาชน    

รศ.ดร.อนุสรณ์ กล่าวต่อว่า คาดทองคำผันผวนมากทั้งปรับเพิ่มขึ้นและลดลงวันหนึ่งหลายรอบ อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์สงครามในตะวันออกกลางยังร้อนแรงอาจทำให้ราคาทองคำในตลาดโลกทดสอบระดับ 2,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ในเร็วๆนี้ และในระยะต่อไปราคาทองคำอาจพุ่งแตะระดับ 45,000 บาทต่อหนึ่งบาททองคำและเป็นขาขึ้นยาวหากสงครามขยายวงเพิ่มขึ้นอีก การลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมีความไม่แน่นอนและผันผวนสูงขึ้น เศรษฐกิจสหรัฐตัวเลขการจ้างงานดี การลดดอกเบี้ยอาจชะลอลง ขณะเดียวกันดอลลาร์แข็งช่วยสกัดขาขึ้นทองคำ ตัวเลขการจ้างงานล่าสุดโดยเฉพาะอัตราการว่างงานที่ลดลงอาจส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐฯไม่ปรับลดดอกเบี้ยลงอีก 0.50% ในการประชุมเดือนพฤศจิกายนแต่อาจปรับลดเพียง 0.25% ทำให้ดัชนีค่าเงินดอลลาร์หรือ Dollar Index ปรับตัวสูงขึ้น ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ราคาทองคำในตลาดโลกปรับลดลงเล็กน้อย ในระยะยาว ดอลลาร์ยังคงคงอ่อนค่าและเป็นขาลงยาว ส่วนทองคำเป็นขาขึ้นยาว  

ผลเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาจะส่งผลต่อนโยบายพลังงานและนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมมีความแตกต่างกันอย่างมากระหว่าง พรรครีพับรีกัน กับ พรรคเดโมแครต นโยบายพลังงานและนโยบายสิ่งแวดล้อมกลายมาเป็นประเด็นสำคัญในการเลือกตั้งผู้นำสหรัฐอเมริกา การได้ใครเป็นผู้นำรัฐบาลจะส่งผลต่อระบบนิเวศทางด้านพลังงานของโลกและแนวทางการแก้ปัญหาภาวะโลกร้อนที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ปัจจัยนี้จะส่งผลต่อประเด็นความมั่นคงทางด้านพลังงาน ขีดความสามารถในการแข่งขันและการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศต่าง ๆ รวมทั้งประเทศไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้  

หาก กมลา แฮริส จาก พรรคเดโมแครต ชนะเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี จะเดินหน้าส่งเสริมพลังงานสะอาด พลังงานหมุนเวียน ส่งเสริมการใช้ยานพาหนะไฟฟ้าและส่งเสริม Supply Chain การผลิตพลังงานสะอาดภายในประเทศ เปลี่ยนผ่านระบบพลังงาน ลดการใช้พลังงานฟอสซิสเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี ค.ศ. 2050 ส่งเสริมการลงทุนในการจัดการคาร์บอนภายใต้ Inflation Reduction Act มีจัดสรรงบประมาณสูงถึง 369,000 ล้านดอลลาร์ลงทุนในช่วงปี 2022-2031 เพื่อเปลี่ยนผ่านระบบพลังงานทั้งหมด

ถ้าโดนัล ทรัมป์ แห่งพรรครีพับรีกัน ได้เป็นผู้นำประเทศ จะสนับสนุนเชื้อเพลิงฟอสซิล ทบทวนระเบียบเกี่ยวกับการปล่อยคาร์บอนใหม่ และสร้างความไม่แน่นอนที่สหรัฐอเมริกาอาจถอนตัวออกจาก ข้อตกลง Paris Agreement ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมและการแก้ปัญหาภาวะโลกร้อนจากการปล่อยคาร์บอน เน้นความมั่นคงและประสิทธิภาพการใช้พลังงานฟอสซิล มากกว่าการลงทุนในพลังงานสะอาดพลังงานหมุนเวียน อย่างไรก็ตาม ไม่ว่า ผู้แทนจากพรรคการเมืองใดชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะไม่ส่งผลต่อจุดยืนของสหรัฐอเมริกาต่ออิหร่านและอิสราเอล และ นโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯต่อตะวันออกกลาง ฉะนั้น โอกาสที่สงครามจะยุติในเร็ววันจะไม่เกิดขึ้น ความเสี่ยงจากภูมิรัฐศาสตร์ยังคงสร้างความผันผวนต่อราคาพลังงาน ต่อเศรษฐกิจ ต่อตลาดการเงินโลกต่อไป

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net