ณัฐวุฒิ ทวงถาม ป.ป.ช. เมื่อไหร่จะได้เห็นสำนวนยกคำร้อง กรณีสลายชุมนุมปี 53
ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เข้าทวงคำตอบจาก ป.ป.ช. หลังจากขอดูสำนวนการไต่สวนของ ป.ป.ช. กรณียกคำร้องเหตุการณ์สลายการชุมนุมปี 2553 ตั้งแต่ปีก่อน พร้อมมอบหนังสือ “คนตายที่มีใบหน้า คนถูกฆ่าที่มีชีวิต” และ “ความจริงเพื่อความยุติธรรม” ให้ ป.ป.ช. เก็บไว้อ่าน
12 ม.ค. 2561 ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ทนายความ และญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมปี 2553 เข้ายื่นหนังสือต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อทวงถามความเป็นธรรม และขอสำนวนการไต่สวนคดีการสลายการชุมนุม ที่ ป.ป.ช. มีมติไม่ชี้มูลความผิด อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และสุเทพ เทือกสุบรรณ พร้อมทั้งมอบหนังสือ “คนตายที่มีใบหน้า คนถูกฆ่าที่มีชีวิต” และหนังสือ “ความจริงเพื่อความยุติธรรม” ให้กับ ป.ป.ช. ด้วย
ณัฐวุฒิ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า การมาครั้งนี้ไม่เมีเจตนาที่จะเผชิญหน้า หรือท้าทาย ป.ป.ช. และผู้มีอำนาจในบ้านเมือง แต่ที่มาเพราะเห็นว่าเหตุการณ์การสลายการชุมนุมในปี 2553 มีคนตายมากที่สุดในประวัติศาสตร์การต่อสู้ทางการเมืองของประเทศไทย แม้ ป.ป.ช. จะมีมติไม่ชี้มูลความผิด ยกคำร้อง กับ อภิสิทธิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี และสุเทพ อดีตรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงไปแล้ว แต่ตามกฎหมายยังมีช่องทางที่จะดำเนินการต่อไปได้ จึงต้องการเพื่อติดต่อสอบถาม ขอดูสำนวนดังกล่าวจาก ป.ป.ช. เพื่อจะนำไปพิจารณาว่า ป.ป.ช. ใช้หลักฐานใดในการพิจารณาคดีดังกล่าว และหลังจากนั้นจะได้รวบรวมพยานหลักฐานอื่นๆ นอกเหนือจากนั้น ซึ่งเป็นหลักฐานใหม่เพื่อดำเนินการเรียกร้องความยุติธรรมต่อไป
ณัฐวุฒิ กล่าวด้วยว่า การขอสำนวนนี้เพราะต้องการเทียบดุลพินินจของ ป.ป.ช. กับกรณีที่ ป.ป.ช. มีการจ้างทนายความฟ้องร้อง สมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี และพวก จากกรณีการสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเมื่อปี 2551 ทั้งที่อัยการมีคำสั่งไม่ฟ้อง โดยการที่ ป.ป.ช. ไม่ชี้มูลความผิดกรณีการสลายการชุมนุมในปี 2553 แล้วถือว่าสิ้นสุดในชั้นนี้ เป็นเรื่องที่ไม่สามารถยอมรับได้ ต้องการให้คดีที่มีคนเจ็บ คนตาย เข้าสู่การพิจารณาในชั้นศาล จากนี้หาก ป.ป.ช. ยังนิ่งเฉย ไม่ส่งสำนวนดังกล่าวให้ จะใช้สิทธิ์ตาม พ.ร.บ. ข้อมูลข่าวสารติดตามความคืบหน้าต่อไป
“วันนี้ผมได้นำหนังสือที่ได้มีคณะจัดทำหลังจากเกิดเหตุการณ์ใหม่ๆ มีทั้งนักวิชาการ สื่อมวลชน และนักต่อสู้เคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยหลายท่าน มันเป็นหนังสือเก่าครับ เพียงแต่ผมเข้าใจว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช. หลายท่านวันนี้เป็นคณะกรรมการชุดใหม่ซึ่งอาจจะได้อยู่ในตำแหน่งหน้าที่ไปเป็นเวลา 7-8 ปี เป็นอย่างน้อย ดังนั้นจึงขอนำหนังสือเรื่อง คนตายที่มีใบหน้า คนถูกฆ่าที่มีชีวิต มามอบให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ศึกษาดู และยังมีหนังสือความจริงเพื่อความยุติธรรมเอามาให้ดูด้วย” ณัฐวุฒิ กล่าว
“ผมมาด้วยความหวังว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. ทั้ง 9 ท่าน เมื่อท่านได้มีโอกาสปฏิบัติงานโดยไม่ต้องกังวลกับการเซ็ตซีโร่แล้ว ก็อยากจะให้ท่านได้ดำเนินการเรื่องนี้อย่างรวดเร็ว และจริงจัง เราหวังว่าที่นั่งทำงานอยู่ 9 ท่านวันนี้จะเป็น ป.ป.ช. ตัวจริงไม่ใช่สแตนดี้ เพราะว่าถ้าเป็นสแตนดี้ท่าคงนั่งหรือยืนอยู่เฉยๆ ดูความอยุติธรรมหรือเพิกเฉยต่อคำถามของประชาชนได้ แต่ถ้าเป็นกรรมการ ป.ป.ช. ตัวจริงผมหวังว่าจะเห็นความคืบหน้า เพราะครั้งนี้มาทวงถามครั้งที่เท่าไหร่ผมจำไม่ได้จริงๆ ไม่ได้พูดประชด เพราะเราทำทั้งมาที่นี่ ไปที่อัยการ ติดตามทวงถามต่างๆ ตั้งข้อสังเกตุ ตั้งคำถามผ่านสื่อมวลชน เป็นครั้งที่มากมายเหลือเกินแต่ทุกครั้งได้รับคำตอบเดียวคือความเงียบ ไม่มีการชี้แจง ไม่มีการตอบคำถามแต่อย่างใด” ณัฐวุฒิ
จากนั้น ณัฐวุฒิ พร้อมทนายความ และญาติผู้เสียชีวิตได้เข้าพูดคุยกับ จักรกฤช ตันเลิศ ผู้อำนวยการสำนักไต่สวนการทุจริตภาคการเมือง 1 เพื่อติดตามความคืบหน้า หลังจากนั้น ณัฐวุฒิ ได้ให้สัมภาษณ์ต่อว่า เรื่องดังกล่าว ป.ป.ช. ชี้แจงว่าไม่ได้เพิกเฉย มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และจะมีการเสนอเรื่องต่อที่ประชุม ป.ป.ช. ในสัปดาห์หน้า ส่วนจะมีการเปิดเผยสำนวนการไต่สวนหรือไม่เป็นดุลพิจนิจของ ประธาน ป.ป.ช.